xs
xsm
sm
md
lg

“จาตุรนต์” เย้ย “มาร์ค” ขุดมุกเผาเมือง กันปิ๋ว หน.พรรค หวั่นโพลไม่ตรงแบบสนามใหญ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปธ.กก.พท.ยกนโยบาย “จูดี้” แตกต่างเพราะไม่เคยเป็นผู้ว่าฯ กทม.ยันทำได้จริง ตอก ปชป.ไม่เน้นนโยบาย มุ่งแต่ดิสเครดิต ชี้ หน.ปชป.หวังรักษาเก้าอี้ จึงขุดประเด็นเผาเมืองโจมตี ซัดหาเสียงสร้างสรรค์ แจงส่งสาวกตรวจหน่วยเลือกตั้ง หวั่นคะแนนไม่ตามโพลแบบเลือกตั้งระดับประเทศ ดักกลัวขนคนตาม ปชป.กังวล แต่ย้อนใครเคยคุม กทม.

วันนี้ (24 ก.พ.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง ในฐานะประธานกรรมการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการหาเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า จากการที่ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครในนามพรรคหาเสียงนั้น ได้มีการเน้นนโยบายภาพรวมเป็นเรื่องสำคัญ และทยอยออกนโยบายใหม่อย่างต่อเนื่องในทุกวันพุธ ทั้งด้านความปลอดภัย การจราจร และคุณภาพชีวิต ทั้งนี้มองว่า พล.ต.อ.พงศพัศ มีข้อดีของการที่ไม่ได้เป็นผู้ว่าราชกรุงเทพมาก่อน ทำให้เห็นจุดบกพร่องของการบริหารงานของ กทม.ทำให้วิเคราะห์นโยบายได้แบบไม่ต้องเกรงใจใคร โดยเชื่อว่านโยบายที่เสนอไปเป็นความแตกต่างจากที่ผ่านมา และมั่นใจว่าทำได้จริง และในวันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ จะเปิดนโยบายเรื่องเศรษฐกิจ ให้กทม.เป็นแหล่งรายได้ ให้คน กทม.เห็นความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น

ขณะเดียวกัน นายจตุรนต์ ยังตั้งข้อสังเกตว่าพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสนใจนโยบายแค่สั้นๆ แต่กลับให้ความสนใจเรื่องการเมืองในระดับประเทศ ซึ่งไม่เกี่ยวกับความเป็นอยู่ของคน กทม.โดยพยายามยกประเด็นเรื่องการเผาบ้านเผาเมือง เพื่อหวังดิสเครดิต ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมา ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นความกลัวของพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กรณีที่ นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาระบุว่า การหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้เชิญผู้ใหญ่ในพรรคไปช่วยหาเสียง ซึ่งหาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคประชาธิปัตย์ แพ้การเลือกตั้งครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ก็ควรที่จะออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค ดังนั้นการหยิบยกประเด็นการเมืองขึ้นมา เพราะกลัวว่าประชาชนจะเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ความสนใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ รวมถึงนายอภิสิทธิ์คงกลัวว่าต้องออกจากเป็นหัวหน้าพรรค หาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ พรรคประชาธิปัตย์จึงเอาเรื่องการเผาบ้านเผาเมืองและประเด็นทางการเมืองอื่นที่ละเอียดอ่อนมาหาเสียงแทนนโยบาย ซึ่งถือเป็นการผิดหลักในการสร้างความปรองดองในสังคม ทำให้เกิดความแตกแยก

“การพูดในลักษณะเช่นนี้จึงเป็นการไม่เคารพประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ถือเป็นการลดมาตรฐานในการแข่งขันหาเสียงผู้ว่าฯ กทม.พร้อมกันนี้ยังมองว่าเป็นประเด็นที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล เพราะจะเห็นได้จากการเลือกตั้งพรรคประประชาธิปัตย์ก็โจมตีในเรื่องนี้แต่ก็แพ้เลือกตั้งอยู่ดี อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ว่าฯของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีนโยบายและไม่มีผลงาน” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ตนขออยากเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์หาเสียงอย่างสร้างสรรค์ แข่งขันกันด้วยนโยบายพร้อมกับเรียกร้องประชาชนให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งผู้ว่าครั้งนี้ เพราะการเลือกตั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่หากประชาชนยังคงเน้นในประเด็นการเมืองเดิมๆ กทม.ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความกังวลต่อการทุจริตการเลือกตั้ง กทม.ในครั้งนี้ นายจตุรนต์กล่าวว่าพรรคเพื่อไทยห่วงใยในเรื่องนี้มาตลอดเพราะเรามีบทเรียนจากการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา เพราะโพลทุกสำนักระบุว่าพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำในพื้นที่ กทม. แต่ผลการเลือกตั้งแตกต่างจากโพลทุกสำนัก ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้เพื่อไทยจึงระดมอาสาสมัครเข้าไปสังเกตการณ์ตามหน่วยเลือกตั้ง พร้อมทั้งเรียกร้อง กกต.ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว เพราะที่ผ่านมามีการร้องเรียน แต่ กกต.ก็ไม่สนใจจึงอยากให้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ และจากการที่นายอภิสิทธิ์กังวลว่าจะมีการขนคนเข้ามาอยู่ในทะเบียนบ้านของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กทม.พรรคเพื่อไทยห่วงเรื่องนี้มากเพราะการกระทำดังกล่าวจะต้องขนย้ายก่อน 1 ปีนับแต่วันเลือกตั้งและถ้าหากย้อนกลับไปดู 1 ปีก่อน ผู้ที่มีหน้าที่ย้ายประชาชนเข้ามาในทะเบียนบ้านไม่ใช่กระทรวงมหาดไทยแต่เป็นอำนาจหน้าที่ของ กทม.

กำลังโหลดความคิดเห็น