xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ โชว์ไม่ใส่สูทร่วมถก ครม.ศก. หวังประหยัดพลังงานช่วยทำไฟฟ้าใช้เพียงพอช่วงพม่าปิดซ่อม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ยิ่งลักษณ์” ถอดสูทเข้าประชุม ครม.เศรษฐกิจ นำร่อง รมต.ประหยัดพลังงานตามนโยบาย พร้อมสั่ง จนท.ตึกไทยคู่ฟ้า ปรับแอร์แค่ 25 องศา รับรองวิกฤตพลังงานเมษาฯ อ้างร่วมกันหวังมีสำรองใช้เพียงพอช่วงหม่องซ่อมแทนขุดเจาะน้ำมัน เผยถกพลังงานหาแผนสำรองแล้ว อ้างต้องหาซื้อแหล่งสำรองก๊าซแอลพีจีต่างชาติ ส่งทุกกระทรวงสำรวจเอกชนขอความร่วมมือลดใช้พลังงาน ย้ำยุทธศาสตร์ผุดพลังงานทดแทน หามาตรการช่วยคนรายได้น้อย


วันนี้ (20 ก.พ.) ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (19 ก.พ.) ที่ประชุมได้มีมติให้ทุกหน่วยงานราชการรณรงค์ประหยัดพลังงานโดยการปิดไฟที่ไม่จำเป็น และลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ทำให้ในวันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำร่องและเป็นตัวอย่างให้หน่วยงานราชการโดยแต่งกายไม่สวมสูท เช่นเดียวกับรัฐมนตรีที่เข้าร่วมการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล ต่างพร้อมใจกันไม่สวมสูท

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีได้สั่งเจ้าหน้าบนตึกไทยคู่ฟ้าปรับลดอุณภูมิอยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งปกติจะเปิดอยู่ที่ 23 องศาเซลเซียส แต่หากต้องรับรองแขกจำนวนมากจะปรับอุณหภูมิที่ 20 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ เพื่อเป็นการร่วมรณรงค์ประหยัดพลังงงาน รองรับวิกฤตพลังงานในระหว่างวันที่ 4-12 เมษายน ที่ทางการพม่าจะปิดซ่อมท่อส่งก๊าช และส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าของไทย

จากนั้น เมื่อเวลา 15.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายากรัฐมนตรี ได้เดินลงมาจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกบัญชา 1 ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.น.จ.) ซึ่งทั้งนายกฯ และคณะได้แต่งกายโดยไม่สวมสูท เพื่อเป็นการรณรงค์ในเรื่องการประหยัดพลังงาน

พร้อมกันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการรณรงค์ไม่ใส่สูทในการทำงาน ว่า จากมติ ครม.เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ได้ขอความร่วมมือทางคณะรัฐมนตรี หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจ และถือโอกาสนี้ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนในการรณรงค์ประหยัดพลังงาน ซึ่งเรามีการดำเนินการหลายอย่าง เช่นการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศในที่ทำงานให้อยู่ระดับที่ 25-26 องศาเซลเซียส และช่วงบ่ายให้มีการปิดเครื่องปรับอากาศ 1 ชั่วโมง พร้อมให้ทุกหน่วยงานไปทบทวนวิธีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจำนวนมาก ถ้าไม่จำเป็นก็ขอให้ปิดเพื่อเป็นการสำรองพลังงาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งเป้าไว้ว่าจะลดการใช้พลังงานตรงนี้ให้ได้เท่าไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เป้าแรก ทางกระทรวงพลังงานได้นัดหารือกันแล้ว ในการแก้ปัญหา เรื่องไฟสำรองหากเรามีพลังงานไม่เพียงพอในวันที่ 5 เม.ย. ซึ่งแต่เดิมเราจะมีปัญหาจากกรณีที่ประเทศพม่าประสบปัญหาแท่นขุดเจาะน้ำมันทรุดตัวลง จึงจำเป็นต้องหยุดซ่อมบำรุงในวันที่ 4 – 12 เม.ย. แต่ล่าสุดหลังจากหารือก็จะเริ่มปิดซ่อมในวันที่ 5 เม.ย. ทั้งนี้ในวันที่ 5 เม.ย. เรายังมีพลังงานสำรองบางส่วนอยู่ แต่อาจจะมีปัญหาติดขัดบ้างและไฟตกในบางพื้นที่ แต่ถ้าเรามาร่วมกันรณรงค์ประหยัดพลังงานตั้งแต่วันนี้ก็อาจจะมีพลังงานสำรองได้เพียงพอ ก็อาจจะไม่เกิดผลกระทบมากในวันที่ 5 เม.ย. แต่ส่วนวันอื่นมีการแก้ปัญหาได้แล้ว

เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดในลักษณะไฟไหม้ฟาง พอเกิดปัญหาแล้วจึงมีการรณรงค์ ในระยะยาวควรทำอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในระยะได้มีการพูดคุยในคณะกรรมการพลังงานแห่งชาติแล้ว ในการเตรียมพลังงานสำรอง เรื่องความมั่นคงทางพลังงาน ก็ได้มีการพูดคุยแนวทางเพื่อให้กระทรวงพลังงานไปกำหนดขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ ในการหาวิธีการสำรอง ขณะเดียวกันก็ต้องหาซื้อแหล่งสำรองก๊าซแอลพีจีจากต่างประเทศด้วย

เมื่อถามว่า จะมีการขอความร่วมมือภาคอุตสาหกรรม ในการยุติการผลิตในช่วงเวลาที่มีปัญหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในส่วนที่มีการประชุมทุกกระทรวงคงจะมีการไปสำรวจ และขอความร่วมมือเพื่อที่จะลดการใช้พลังงานในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามคงจะไม่เป็นการรณรงค์แค่ระยะชั่วคราวแต่จะเป็นสิ่งที่เราทำต่อเนื่อง ก็เรียนว่าเราประกาศแล้วเรื่องของยุทธศาสตร์ชาติ ที่อยากจะเห็นการที่จะสร้างเรื่องของพลังงานทดแทน ขณะเดียวกันก็จะรณรงค์ในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และการใช้พลังงานอย่างมีคุณภาพ ซึ่งวันนี้ก็ได้ให้กระทรวงพลังงานไปหารือในรายละเอียดเพื่อที่จะสะท้อนจากยุทธศาสตร์ประเทศลงไปแนวปฏิบัติ ที่ผ่านมาจะเห็นว่าเราเริ่มส่งเสริมเรื่องพลังงานทดแทน ไม่ว่าพลังงานลม หรือพลังงานมูลชีวภาพ

เมื่อถามว่า กรณีการปรับค่าไฟฟ้าตามครัวเรือน จะมีการช่วยเหลือประชาชนอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า เราเราพยายามที่จะดูหาแหล่งต้นทุนต่าง ๆ ทุกต้นทุน ซึ่งเบื้องต้นอาจจะเป็นช่วงที่การใช้ไม่มากพอก็จะกระทบกับต้นทุนบ้าง ซึ่งในรายละเอียด เราก็หาแหล่งอื่น ๆ ในการทดแทนเพื่อไม่ให้กระทบ ซึ่งเป็นช่วงระยะสั้น ซึ่งได้ให้แนวทางกระทรวงพลังงานแล้วว่า ในส่วนการดูแลต่าง ๆ ต้องคำนึงถึงการดูแลผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อย ซึ่งจะมีการทำสำรวจผู้ที่มีรายได้น้อย เพื่อหามาตรการในการช่วยเหลือและดูแลในช่วงนี้





กำลังโหลดความคิดเห็น