xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.จี้รัฐนำแผนพัฒนาใต้ปี 55-57 ใช้ดับไฟ ไล่ “เหลิม” อ่านไม่เข้าใจก็ลาออกไป

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ส.ว.สงขลา จี้รัฐบาลอ่านเล่มเขียวแผนพัฒนาใต้ปี 55-57 ใช้ดับไฟใต้ ชี้ “เฉลิม” ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจก็ลาออกไป ด้าน “ส.ว.สมชาย” แนะรองนายกฯ-เลขาฯ สมช.พูดให้น้อยลง ไล่ลงพื้นที่ไม่ต้องรอหลังเลือกตั้ง

วันนี้ (19 ก.พ.) ที่รัฐสภา เมื่่อเวลา 10.30 น. การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม นายประเสริฐ ชิตพงศ์ ส.ว.สงขลา หารือไปยังรัฐบาลว่าด้วยเรื่องการบริหารงานและการพัฒนาชายแดนภาคใต้ว่า สถานการณ์ในชายแดนภาคใต้นับวันจะยิ่งรุนแรงขึ้น ตนในฐานะคนในพื้นที่ภาคใต้ขอเรียนว่าแท้จริงการบริหารใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบ รัฐบาลที่ผ่านมาและรัฐบาลชุดปัจจุบันร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้จัดทำสมุดเล่มเขียว “นโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2555-2557” ซึ่งภายในหนังสือเป็นการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกือบทุกฝ่ายโดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายประเสริฐกล่าวว่า มาถึงวันนี้รัฐบาลชุดปัจจุบันได้หยิบนโยบายเล่มนี้มาใช้มากน้อยแค่ไหน และรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้คงไม่เคยหยิบเล่มนี้มาอ่าน หรืออาจไม่รู้จักด้วยซ้ำ ตนขอเรียกร้องว่าขอให้ผู้ที่ได้รับมอบหมายกำกับดูแล 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หยิบเล่มนี้มาดู ประชาชนที่ให้ข้อมูลเขาก็สนใจว่ารัฐบาลเอาข้อมูลมาใช้มากน้อยแค่ไหน เพราะหนังสือดังกล่าวดูแลคนทุกภาคส่วน ดูแลผู้ที่ก่อความไม่สงบ ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ตลอดจนความมั่นคงของประเทศชาติด้วย และถ้าหากรองนายกรัฐมนตรีอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่เข้าใจก็ควรลาออกจากการกำกับดูแลปัญหาชายแดนภาคใต้ เพื่อให้รัฐบาลแต่งตั้งบุคคลคนอื่นที่มีความเข้าใจมาทำหน้าที่แทน

ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ปัญหาชายแดนภาคใต้ต้องใช้หลักการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทาน คือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ทั้งต้องเอารายงานของ สมช. รายงานของคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติ (กอส.) ซึ่งเป็นคณะกรรมการอิสระ สมัยนายอานันท์ ปันยารชุน นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ทำไว้ หลักการใต้ร่มเย็น และคำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 66/23 มาปรับใช้ นอกจากนี้ต้องเอาการเมืองนำการทหาร แต่อย่าให้การเมืองเข้าแทรกแซงการปฏิบัติการทหาร ต้องดึงประชาชนมาเป็นฝ่ายเดียวกับราชการ ใช้การรุกทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เน้นหนักการปฏิบติเพื่อลิดรอน ทำลายแนวร่วม และกองกำลังติดอาวุธ เพื่อยุติสภานการณ์และขยายผล อย่างไรก็ตาม ต้องเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้ด้วยอาวุธมาเป็นแนวทางการต่อสู้โดยสันติ ใช้งานการเมืองชี้ขาด งานการทหารสนับสนุน สร้างสำนึกให้ทุกคนรักแผ่นดิน ขจัดความไม่เป็นธรรม และปฏิบัติต่อผู้ที่หลงผิดในฐานะเพื่อนร่วมชาติ

นายสมชายกล่าวอีกว่า ในเรื่่องการข่าวต้องดำเนินการทางจิตวิทยาอย่างต่อเนื่อง ขอให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อาทิ รองนายกรัฐมนตรี เลขาธิการ สมช.ให้สัมภาษณ์น้อยลงได้หรือไม่ พูดให้น้อย ทำงานให้จริง ตนไม่เคยเห็นการพูดอย่างไม่จริงจังของรองนายกฯ ที่รับผิดชอบอย่างนี้เลย ไม่เคยเห็นเลขาธิการ สมช.สมัยใดให้สัมภาษณ์มากกว่านักการเมือง และขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงไปปฏิบัติงานในพื้นที่ทันที โดยเฉพาะรองนายกรัฐมนตรีที่เป็น ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศปก.กปต. ไม่ต้องรอหลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะท่านไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง


กำลังโหลดความคิดเห็น