xs
xsm
sm
md
lg

“ภราดร” แจงที่ประชุมแก้ไฟใต้ เล็งใช้ พ.ร.บ.มั่นคง ชี้ “เคอร์ฟิวเหลิม” คนพื้นที่ไม่เอา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เลขาฯ สมช.เผย “ปู” เรียกถกด่วนปัญหาไฟใต้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนบินมาเลย์ 28 ก.พ. แจง ผบ.ทบ.-ผบ.ตร. ยันป่วนใต้ยังไม่ถี่ คุมได้เหตุ ปชช.ร่วมมือ เล็งชง พ.ร.บ.มั่นคง อ้างนายกฯ หนุน ให้ “เหลิม” เรียกประชุมใช้แทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เชื่อนำสู่สันติ คุยแนวร่วมทยอยกลับใจ ยันไม่สวนทางสถานการณ์ ยกโจรใต้ป่วนเหตุชาวบ้านอยู่ข้างรัฐจึงพุ่งเป้าที่ จนท. โบ้ยเคอร์ฟิวแนวคิด “เฉลิม” ถาม ปชช.-จนท.ไม่เอาด้วย


วันนี้ (18 ก.พ.) พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยหลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ด่วน ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ว่าเป็นการประชุมเตรียมพร้อมข้อหารือทางราชการในการเยือนประเทศมาเลเซียของนายกฯ ในวันที่ 28 ก.พ.ในแง่งานด้านความมั่นคง ประเด็นปัญหาบุคคลสองสัญชาติ ในเรื่องของหนังสือผ่านแดนชั่วคราว (บอร์เดอร์พาส) ที่จะเดินทางข้ามมาประเทศไทย และรวมถึงขบวนการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการหารือถึงสถานการณ์ล่าสุดคนร้ายก่อเหตุระเบิดบริเวณหอนาฬิกา อ.หนองจิก จ.ปัตตานีนั้น โดยทาง ผบ.ทบ.และผบ.ตร.ยังยืนยันว่าสถานการณ์ยังควบคุมได้ ไม่ถี่เกินกว่าเหตุ ได้รับความร่วมมือจากประชาชนคลี่คลายได้ในหลายจุด และได้มีการหารือถึงแนวคิดในการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่ โดยเพิ่มน้ำหนักการใช้มาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 (พ.ร.บ.ความมั่นคง) ในพื้นที่มากขึ้น โดย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วงบ่ายวันที่ 18 ก.พ. โดยการตรวจสอบพื้นที่ต่างๆ ที่ประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เปลี่ยนมาใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ จะนำสู่การเปิดเวทีพูดคุย และนำไปสู่การใช้ ม.21 ซึ่งนายกฯ เห็นสอดคล้องแนวทางดังกล่าว เป็นไปตามแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และขณะนี้มีแนวร่วมทยอยกลับใจกว่า 90 คนแล้ว

เมื่อถามว่า การลดระดับใช้กฎหมายมาเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคงจะเป็นการสวนทางกับสถานการณ์ที่ยังรุนแรงอยู่หรือไม่ พล.ท.ภราดรกล่าวว่า สถานการณ์ดูเหมือนรุนแรง แต่เมื่อลึกลงไปในรายละเอียดแล้ว อย่างเหตุที่ปัตตานีเป็นลักษณะระเบิดเพลิง ฝ่ายผู้ก่อเหตุต้องเน้นไปข่มขู่พี่น้องประชาชน เพราะไม่ต้องการให้ร่วมมือกับรัฐ สะท้อนให้เห็นว่าขณะนี้ประชาชนให้ความร่วมมือกับรัฐมากขึ้น สุดท้ายเมื่อไปไม่ถึงเป้าหมายประชาชน ก็จะเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เจ้าหน้าที่รัฐแทน ซึ่งทางการก็มีความระมัดระวังไว้อยู่แล้วในการขยายพื้นที่ก่อเหตุ

เมื่อถามว่าอะไรทำให้รัฐบาลเปลี่ยนใจจากการประกาศใช้เคอร์ฟิวมาเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคง เลขาฯ สมช.กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ริเริ่ม เป็นแค่แนวริเริ่มของ ร.ต.อ.เฉลิม แต่เมื่อฟังเสียงทหาร พลเรือน ข้าราชการ และประชาชนต่างเห็นพ้องต้องกันว่าไม่ต้องการให้มีประกาศใช้เคอร์ฟิว ไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงต่อกัน แต่เป็นการเปิดพื้นที่คุยกันจะลดโทนลงมาเอง



กำลังโหลดความคิดเห็น