“ยิ่งลักษณ์” สั่ง ผบช.น.ตรวจสอบพื้นที่เปลี่ยว ป้องกันอาชญากรรม ส่วน ครม.เห็นชอบเพิ่มกำลัง อส.ภาคใต้ 2,700 อัตรา เน้นคนในพื้นที่ โยน ศปก.กปต.พิจารณาประกาศหรือไม่ประกาศเคอร์ฟิว ขณะเดียวกันฝาก สทศ.หาทางออกหลังเกิดความผิดพลาดสอบโอเน็ต
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวหลังการประชุม ครม.ถึงกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เข้าพบเมื่อช่วงเช้าเพื่อรายงานความคืบหน้าในคดี น.ส.อาภัสรา โตเดช อายุ 20 ปี ถูกฆ่าข่มขืน และญาติแห่ศพไปที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี ในซอยโยธินพัฒนา 3 ว่าได้สั่งการให้ตรวจสอบพื้นที่เปลี่ยวที่เสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมเพื่อให้มีความปลอดภัย ส่วนคดีการเสียชีวิตของ น.ส.อภัสรา ที่ญาติต้องการให้คนร้ายไปขอขมาศพนั้น ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปประสานงานทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิตแล้ว และทราบว่าอาจจะเป็นเรื่องของความทุกข์ร้อนในเรื่องสภาพจิตใจซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ ก็ให้หาทางออกร่วมกันซึ่งขณะนี้ได้ข้อสรุปเรียบร้อยแล้ว
นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ในการประชุม ครม. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ได้รายงานถึงความผิดพลาดในการออกข้อสอบโอเน็ตให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ ซึ่ง ครม.ได้ฝากทางสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ในการหารือวิเคราะห์หาแนวทางร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ดีที่สุด โดยที่ต้องคำนึงถึงผลกระทบนักศึกษาด้วยว่าใครได้เปรียบเสียเปรียบ ตรงนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญ รวมทั้งได้กำชับให้ทุกหน่วยงานตรวจสอบอย่าให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก
ส่วนการประชุม ครม.นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบในกรอบการเพิ่มกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ทั้งหมดประ 2,700 อัตรา ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ซึ่งทาง ครม.ต้องการเร่งให้มีการจัดเจ้าหน้าที่ อส.ลงไปในพื้นที่ให้มากที่สุด ซึ่งได้ให้แนวทางไว้ว่าถ้าสามารถบรรจุคนได้เร็วก็ให้เสนอมายัง ครม.โดยทันที โดยให้เน้นการใช้คนในพื้นที่เป็นหลัก ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องการเน้นไม่ใช่แค่การบรรจุ อส. โดยเน้นการทำงานร่วมกับนายอำเภอหรือกำนันผู้ใหญ่บ้านและในส่วนของภาคประชาชนที่ต้องการทำงานร่วมกัน เพราะต้องการส่งเสริมให้ประชาชนดูแลกันเอง
ส่วนความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่ต้องจัดสรรกำลังในแต่ละพื้นที่เอง แต่ถ้าเราได้ทำงานร่วมกับประชาชน ฟังความความคิดเห็นจากคนในพื้นที่เป็นหลักและมีการบูรณาการก็จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ ซึ่งได้เร่งรัดให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ดำเนินการเรียกประชุมเพื่อบูรณาการทั้งหมด โดยในวันศุกร์ที่ 15 ก.พ.นี้ ได้มอบหมาย ร.ต.อ.เฉลิมทำหน้าที่ในการขับเคลื่อน โดยหากที่ประชุมเห็นชอบให้มีการประกาศเคอร์ฟิวในวันดังกล่าว ตามขั้นตอนจะต้องส่งเรื่องไปยังสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) อีกครั้งหนึ่ง
