พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ปราศรัยใหญ่ครั้งแรกที่สวนลุมพินี เสนอนโยบายแก้ปัญหา กทม.รูปธรรม ชู ระบบรักษาความปลอดภัยดีกว่า CCTV-GPS ไร้สาย เปลี่ยนศาลาว่าการ กทม. เป็นศูนย์ศิลปะ-วัฒนธรรม-กีฬา ทำสะพานลอยฟ้าขายของ เลนรถจักรยาน สวนสาธารณะบนที่ดินยาสูบ 400 ไร่ ชี้ ในอดีตผู้ว่าฯ เจอคดีโกง ขอโอกาสผู้สมัครอิสระปลอดการเมือง
วันนี้ (8 ก.พ.) ณ บริเวณหลังพระบรมรูป ร.6 (ลานแอโรบิก) สวนลุมพินี พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร กลุ่มพลังกรุงเทพ ได้เปิดปราศรัยใหญ่ครั้งแรก โดยนำเสนอนโยบายการแก้ปัญหา กทม.ที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากการเป็นผู้สมัครสังกัดพรรคการเมือง แล้วไม่สามารถแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้ แต่กลับเพิ่มรอยต่อเอื้อให้เกิดการคอร์รัปชันมากขึ้น
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้กล่าวก่อนการขึ้นเวทีปราศรัย ว่า การปราศรัยวันนี้จะเน้นไปที่การเปิดนโยบายใหม่ๆ หลังจากที่ทีมงานได้ร่วมกันประชุมแล้ว โดยจะมีนโยบายมุ่งเน้นการสร้างเมือง กทม.เป็นเมืองใหม่ด้วยนโยบาย 4 จี คือ 1.วิถีชีวิตที่ปลอดภัย 2.มีชีวิตที่สดใส 3.เมืองกรุงมีเศรษฐกิจที่ดี 4.เมืองที่มีแต่คนคุณธรรม ซึ่ง กทม.จะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถเชื่อมั่นได้ดีกว่าระบบ CCTV และระบบ GPS ที่ไร้สาย
นอกจากนี้ ตนยังจะย้ายที่ว่าการกรุงเทพมหานคร จากเสาชิงช้า ไปที่ดินแดง ที่ได้สร้างเสร็จไว้แล้ว ส่วนพื้นที่บริเวณเสาชิงช้านั้น ตนจะเปลี่ยนเป็นศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม และกีฬา ทั้งนี้ ในส่วนของพ่อค้าแม่ค้า ตนก็จะจัดที่ไว้เพื่อให้ขายของแบบมีระบบ ด้วยนโยบายสะพานลอยฟ้า รวมไปถึงการจัดให้มีเลนรถจักรยาน เพื่อให้ประชาชนสามารถขับขี่จักรยานได้ทั่วเมือง กทม.ด้วย รวมไปถงพื้นที่ของโรงงานยาสูบกว่า 400 ไร่ ที่ทางโรงงานยาสูบได้ยกให้กับทาง กทม.แล้วตนก็จะทำเป็นสวนสาธารณะที่ให้ประชาชนได้พักผ่อน อย่างไรก็ตาม ตนอยากจะชี้ให้เห็นว่า ในอดีตผู้ว่าฯ กทม.ที่เคยมีมามักจะมาจากสังกัดพรรคการเมือง ซึ่งก็มักจะพบกับการถูกดำเนินคดีจากการคอร์รัปชัน ครั้งนี้ตนจึงอยากขอโอกาสให้กับผู้สมัครอิสระที่ปลอดจากพรรคการเมืองบ้าง
ด้าน นายประพันธ์ คูณมี ผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้ง ได้ขึ้นเวทีเพื่อปราศรัยรณรงค์ประเด็นต่อต้านการคอร์รัปชัน โดยระบุว่า บ้านเมืองของเรากำลังเสียหายอย่างย่อยยับ เพื่อนักการเมืองที่มีพฤติกรรมโกงกิน คอร์รัปชัน เป็นการกินรวบประเทศไทยไร้รอยต่อ ขายฝันดีแต่พูด จนโพลต่างๆ ที่ออกมาระบุว่า คนไทยเบื่ออาชีพนักการเมืองมากที่สุด เห็นได้จากเวลานี้จะเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ยังมีคนกรุงเทพฯ กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่ตัดสินใจ การแข่งขันกันครั้งนี้เป็นการแข่งขันของผู้สมัครอิสระกับผู้สมัครของพรรคการเมือง ก็อยู่ที่ว่าคน กทม.ต้องการแบบไหน คนกรุงเทพฯ ต้องตัดสินใจว่าจะอยู่ภายใต้การครอบงำของนักการเมืองต่อไปหรือไม่
นายประพันธ์ กล่าวต่อว่า ในเวลานี้มีเพียงสองพรรคการเมืองใหญ่ที่สาวไส้กันเอง ต่างคนต่างแฉว่าใครโกงมากกว่าใคร พรรคการเมืองพวกนี้พยายามหาเสียงว่าหากได้เป็นผู้ว่าฯ จะแก้ไขปัญหารถติด คน กทม.จะมีความปลอดภัยมากขึ้น ตนจึงอยากถามกลับไปว่า ทำไมตอนเป็นรัฐบาลถึงไม่ยอมทำ ต้องรอให้ได้เป็นผู้ว่าฯก่อน เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา ก็โยนกันไปมาระหว่างรัฐบาล กับผู้ว่าฯ ของพรรคประชาธิปัตย์ ชิงดีชิงเด่น สุดท้ายแล้วคนที่เดือดร้อนก็คือคน กทม.เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญว่า คน กทม.จะใชิวิจารณญาญเลือกใคร หากเลือกพวกเขาพวกเราก็ตายเหมือนเดิม แต่หากเลือก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เรามั่นใจว่าจะไม่มีการโกงกิน คอร์รัปชันแน่นอน
“พี่น้องประชาชนจะต้องสั่งสอนนักการเมืองที่ไม่สำนึกในบุญคุณของประชาชน ไม่รับผิดชอบต่อประชาชนและประเทศชาติ ใช้อำนาจหน้าที่ไปในการโกงกิน ด้วยการไม่เลือกพวกเขาเข้ามาโกงกินเราอีก” นายประพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้ ทางทีมงานของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เปิดวีทีอาร์ คำสัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ และอดีต ส.ว.กทม.ที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เมื่อครั้งยังรับราชการ โดยระบุว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นคนดี คนกล้าที่จะสามารถรับใช้ประชาชนคนกรุงเทพฯได้ สิ่งที่ประชาชนเบื่อหน่ายใน กทม.พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะสามารถทำการแก้ไขได้อย่างทันที ส่วนเรื่องปัญหาการทุจริต คอร์รัปชันนั้น หาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ยินถึงหู พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะดำเนินการจัดการอย่างแน่นอน เพราะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มีผลงานในด้านการปราบปรามชั่ว และมีประสบการณ์ในการทำงานมายาวนาน
