“เป็ดเหลิม” เชื่อการเมืองไม่จุ้นโพล คุยมีโพลเอง “พงศพัศ” ชนะแน่ ชี้ประวัติทำงาน-การศึกษา จุดแข็ง ป้องไม่เกี่ยวโกงสร้างโรงพัก ยกฐานเสียงตน-พท.เทคะแนน แถม พธม.เชียร์ “เสรีพิศุทธ์” เป็นเหตุให้ชนะ ย้ำแพ้งดจ้อ 7 วัน แย้มรับคำพูดนักข่าวอาจถึงปี เผยให้ ผบช.น.ป้องกันทุจริตวันเลือกตั้ง ไม่ตอบ ปชป.แพ้อาจมียกเครื่องใหม่ แต่เย้ยเป็นฝ่ายค้านยาว โต้ “กาโม่” มือที่ 3 มาริโอ้-กุ๊บกิ๊บ
วันนี้ (6 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์การสำรวจความคิดเห็น หรือโพล ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตว่ามีฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงว่า ส่วนตัวมองว่าไม่เป็นความจริง ในอดีตเคยมีการต่อว่าผลสำรวจของสวนดุสิตโพลเกี่ยวกับการเลือกตั้ง แต่สุดท้ายผลออกมาก็ตรงกับผลของสวนดุสิตโพล ยกตัวอย่างตนลงเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.6 สมัย ไม่เคยมีโพลบอกว่าชนะสักครั้ง แต่ก็ได้ที่ 1 ทุกที อย่างไรก็ตาม ผลโพลต่างๆ ยังไม่ถือเป็นข้อยุติ อย่าตกใจง่าย บางคนพอโพลบอกว่าแพ้แล้วแผ่ว สังเกตดูจากทีมหาเสียงได้ หากเหลือคนน้อย แสดงว่าตกใจขวัญกระเจิง
ผู้สื่อข่าว ถามว่าแสดงว่าผลโพลหลายสำนักที่ให้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำในขณะนี้อาจจะยังเชื่อไม่ได้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนไม่เคนเชื่อผลสำรวจของสำนักไหน แต่เฉลิมโพลบอกว่าชนะเพราะตนช่วยหาเสียงอยู่ จะไปบอกว่าแพ้ได้อย่างไร ทั้งนี้ในวันที่ 8 ก.พ.นี้ ตนจะไปลงพื้นที่เยาวราชเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ในฐานะอดีตตำรวจ สน.จักรวรรดิ
เมื่อถามต่อว่า เฉลิมโพลล์วิเคราะห์จากการสำรวจของกองบัญชาการตำรวจสันติบาลใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวปฏิเสธโดยอธิบายว่า ส่วนตัวมีความมั่นใจ และประเมินจากผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่ผ่านๆ มา ตั้งแต่เมื่อครั้งพรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคพลังประชาชน ที่แพ้ก็เพราะมีจุดอ่อนในเรื่องของตัวบุคคลบ้าง แต่สำหรับ พล.ต.อ.พงศพัศมีผลงานที่ผ่านมามากมาย ทั้งการเป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำโครงการฝากบ้านไว้กับตำรวจ และเป็นเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ป.ป.ส.) อีกด้วย อีกทั้งยังประวัติการศึกษาที่ดีมาก ส่วนความพยายามนำชื่อ พล.ต.อ.พงศพัศเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีทุจริตโครงการก่อสร้างโรงพักทั่วประเทศ ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะการอนุมัติอยู่กับฝ่ายการเมือง
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ตนเคยลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้ประมาณ 170,000 คะแนน คงเป็นฐานคะแนนให้แก่ พล.ต.อ.พงศพัศได้ เพราะเป็นฐานเสียงส่วนตัวของตน รวมกับคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ในพื้นที่ กทม.จากการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ซึ่งน้อยกว่าพรรคประชาธิปัตย์เพียง 100,000 คะแนนเท่านั้น และยังมองว่าการที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ นำนายประพันธ์ คูณมี อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยรุ่น 2 ไปเป็นทีมรองผู้ว่าฯ ก็จะทำให้แนวร่วมพันธมิตรฯ ลงคะแนนให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์มากกว่าผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์ นอกจากยังมองว่า พล.ต.อ.พงศพัศขยันในการลงพื้นที่ เหล่านี้คือตัวแปรที่ทำให้ตนมั่นใจว่า พล.ต.อ.พงศพัศจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง และขอยืนยันด้วยว่าหาก พล.ต.อ.พงศพัศไม่ชนะจะลงโทษตัวเองด้วยการไม่ให้สัมภาษณ์ 7 วัน เพราะถือว่าอ่านการเมืองไม่ขาด
ผู้สื่อข่าวกล่าวกระเซ้าว่า น่าจะเพิ่มการลงโทษไม่ให้สัมภาษณ์ 7 เดือนมากกว่า ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวตอบว่า “7 เดือนก็ได้ หรือจริงๆ จะเป็นปีก็ได้ถ้านักข่าวไม่มาสัมภาษณ์ เรื่องนี้ไม่ใช่ประมาท เพราะผมช่วยคุณพงศพัศอยู่ ถ้าบอกว่าแพ้ ผมก็คงบ้า แต่เชื่อว่าคะแนนเลือกตั้งจะไม่ขาด 3 วันสุดท้ายก่อนเลือกตั้งจะมาฟันธงอีกครั้ง”
เมื่อถามถึงการป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องนี้ได้กำชับให้ พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) จัดเตรียมกำลังตำรวจเฝ้าระวังเรื่องนี้อย่างเข้มงวด และให้มีการถ่ายภาพผลการนับคะแนนไว้เป็นหลักฐานด้วย
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีการประเมินว่าตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.ถือเป็นที่มั่นสุดท้ายของทางพรรคประชาธิปัตย์ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์ก็อยากชนะ เช่นเดียวกับที่ตนอยากให้ พล.ต.อ.พงศพัศชนะ ส่วนหากพ่ายแพ้แล้วจะมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่นั้น ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น แต่เชื่อว่าต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านอีกนาน หรือเป็นฝ่ายค้านถาวรด้วยซ้ำ
ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสข่าวที่ กาโม่-อาชวิน อยู่บำรุง หลานชาย ร.ต.อ.เฉลิม เป็นมือที่ 3 ของคู่รัก “มาริโอ้-กุ๊บกิ๊บ” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวตอบทันทีว่า “ไม่จริงๆ กาโม่อายุแค่ 15 เอง”