“อิทธิพล คุณปลื้ม” เปิดยุทธศาสตร์และนโยบาย 4 ปีข้างหน้านำเมืองพัทยา-เกาะล้าน เป็นฮับการท่องเที่ยวแห่งอาเซียน รองรับปรับตัวเข้าสู่เออีซี ยึดหลัก 5 หลัก 7 สร้าง 13 ยุทธศาสตร์ ชูจุดเด่นหาดสวยน้ำใสพร้อมสรรพทุกด้าน สงบปลอดภัยทุก ตร.นิ้ว ไร้อาชญากรรม จี้ปล้น พร้อมยกระดับเป็นเมืองถ่ายหนัง จัด EXPO
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 ก.พ. นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา เปิดเผยว่า ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจและความเสี่ยงต่างๆ โดยเฉพาะการรวมตัวในภูมิภาคอาเซียน 10 ชาติสมาชิกเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี ภายในปี 2558 ดังนั้นการบริหารราชการเมืองพัทยาใน 4 ปีข้างหน้าจึงมีความจำเป็นและสำคัญที่ต้องร่วมคิด ร่วมทำ และผนึกกำลังเป็น วาระแห่งพัทยา หรือ “Pattaya Agenda” ภายใต้วาระ “พัทยาสมดุล สู่พัทยายั่งยืน” เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงการเข้าสู่การเป็นชาติสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี
ทั้งนี้ นโยบายสำคัญในอีก 4 ปีข้างหน้า คือ การผลักดันขับเคลื่อนมี 5 หลัก 7 สร้าง 13 ยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย กลุ่มนโยบายที่ 1 ด้านเศรษฐกิจ ที่เน้นร่วมคิดร่วมทำ “แผนกลยุทธ์การท่องเที่ยว 3 ปี” สร้างตราสัญลักษณ์ตอบโจทย์มุมมองนักท่องเที่ยว พร้อมตั้งเป้าเพิ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพค่าใช้จ่ายต่อหัวต่อวันสูง ทดแทนการเน้นเชิงปริมาณ เพื่ออนุรักษ์ทุนทางทรัพยากร รวมถึงร่วมแสดงศักยภาพจัดทำเชกเตอร์กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ขยายจำนวนวันพัก โดยเฉพาะร่วมกันเนรมิตแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เติมเต็มจุดแข็งของแบรนด์ เช่น ชายหาด เกาะต่างๆ โดยเน้นกลุ่มประเทศอาเซียนให้เพิ่มมากขึ้น
นายอิทธิพลกล่าวว่า แนวคิดที่จะสร้างพัทยาให้เป็นศูนย์กลางส่งเสริมอุตสาหกรรม MICE การจัดกิจกรรมการประชุม สัมมนา การแสดงสินค้าและนิทรรศการระดับนานาชาติ (Pattaya Expo) โดยยึดสโลแกน “มีมหกรรม มีการจัดการที่ดี มีนักท่องเที่ยวคุณภาพ มีรายได้ ค้าขายคล่อง” และการวางแผนจราจรนับเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องวางแผนล่วงหน้าถึง 10 ปีข้างหน้า อย่างยั่งยืน ด้วยการจัดทำแผนแม่บทการจราจรที่เชื่อมโยงและเป็นศูนย์กลาง “จอดแล้วจร” ด้วยการเชื่อมกับระบบรางและรองรับแผนพัฒนารถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ (สนามบินสุวรรณภูมิ-พัทยา) ทั้งนี้การจราจรภายในเมืองพัทยาต้องคล่องตัวด้วย โดยมีนโยบายเร่งรัดผลักดันและก่อสร้างทางลดระดับแยก สุขุมวิท-พัทยากลาง, นาเกลือ พัทยาเหนือ เทพประสิทธิ์ พร้อมขยายโครงข่ายสัญญาณไฟจราจรอัตโนมัติ เพื่อบูรณาการสั่งการจราจร รับแจ้งเหตุ และเตรียมเปิดพื้นที่สร้างแก้มลิงไว้จอดรถด้วย
ส่วนกลุ่มนโยบายที่ 2 ด้านสังคม ยึดหลัก “สังคมชั้นนำ พลเมืองสามัคคี” ตั้งเป้าสู้งาน มอบความสุขให้ชาวพัทยา-เกาะล้าน กว่า 108,804 คน ด้วยการเปิดโครงการ Pattaya 1 class กับบริการมิตรภาพ ฉับไว ใส่ใจ ใกล้ชิด โครงการดังกล่าวเกิดจากการรวมพลังชุมชน รัฐ เอกชน ทุกหน่วยงาน ร่วมสร้างหลักประกันความมั่นคง ส่วนในด้านการศึกษาชาวพัทยา-เกาะล้านอย่างน้อยต้องพูดได้ 2 ภาษา เพื่อเตรียมพร้อมการสร้างสังคมอาเซียนและรองรับการแปรผันทางเศรษฐกิจโลกจะย้ายฐานมายังทวีปเอเชีย นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เมืองพัทยาสงบปลอดภัยทั้งในและนอกบ้าน 24 ชั่วโมง เช่น จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหายาเสพติดเมืองพัทยา ภายใต้กิจกรรมเปิดโครงการ “เอกซเรย์ทุกตารางนิ้ว” รับแจ้งเบาะแส เปิดตู้ ปณ.ลับ รวมถึงสนธิกำลังอาสาสมัครทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้องสกัดเส้นทางลำเลียงอย่างจริงจัง รวมถึงเพิ่มกล้องวงจรปิดทุกชุมชน 38 ชุมชน อย่างน้อย 356 กล้อง ติดตั้งไฟส่องสว่าง โดยเฉพาะจุดที่เป็นสถานที่สำคัญ เช่น ตลาด วัด มัสยิด เพื่อป้องกันปัญหาฉก ชิง วิ่งราว และอาชญากรรม
“ในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินชาวพัทยา-เกาะล้าน ยังได้จัดตั้งประชาอาสา ตั้งตู้แดงอิเล็กทรอนิกส์ 75 ตู้ เพิ่มกำลังสายตรวจ 24 ชั่วโมง และจะขยายเขตพื้นที่ปลอดภัย และสนับสนุนขีดความสามารถวิทยุชุมชน 94.75 MHz เพื่อเป็นหูเป็นตา” นายอิทธิพลกล่าว
สำหรับนโยบายด้านสาธารณสุข ด้วยการจัดทีมเคลื่อนที่ “พัทยาที” 29 หน่วยงาน บริการแบบ “หนักเบาไม่มีถอย” ตลอด 4 ปี พร้อมกับขยายบริการ “ทำด้วยใจ...ไม่มีเหนื่อย” โดยศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาเรื่องราวร้องทุกข์ หรือ ศอท. ทั่วถึงทุกพื้นที่ 7 วัน 24 ชั่วโมง และเร่งพัฒนา Call Center 1337 ให้เป็นหมายเลขเดียวตลอด 24 ชั่วโมง และโรงพยาบาลเมืองพัทยา ราคารัฐบาล ได้มาตรฐาน ที่มี 20,000 เตียง แพทย์พยาบาล พร้อม 356 อัตรา
นายอิทธิพลกล่าวว่า ในระยะปี 2555-2558 เมืองพัทยา-เกาะล้าน จะเป็นเมืองที่ประปา สะอาดไหลแรง แก้ปัญหาไฟตก ถนนเรียบได้ถูกใจ สาธารณูปโภคได้ทั่วถึง โดยจะได้เห็นการขยายน้ำประปา 13 เส้นทาง 13 ชุมชน ภายในปี 2556 และขยายเขต จำหน่ายน้ำประปา 12 เส้นทาง 12 ชุมชน ภายในปี 2558 พร้อมกับปรับปรุงเส้นทางท่อประปาที่ชำรุดทุกเส้นทาง ขณะเดียวกัน ในเมืองพัทยาจะเร่งสำรวจความต้องการไฟฟ้าให้เพียงพอ ปรับผิวถนน หลุม บ่อให้เรียบ
ส่วนด้านสวัสดิการและบริการชุมชน จะเน้นการดูแลสุขภาพดีตั้งแต่ในครรภ์ ดูแลผูกพันถึงวัยชรา และอีกด้านการส่งเสริมที่เมืองพัทยา-เกาะล้านโดดเด่นอยู่แล้วนั้น คือ ส่งเสริมสุขภาพ เพิ่มลานกีฬาชาวพัทยา ให้ก้าวสู่การพัฒนาฝีมือนักกีฬาอาชีพ เช่น จัดค่ายเยาวชนรักกีฬา ศูนย์กลางกีฬาภาคตะวันออกครบวงจร เป็นต้น
กลุ่มนโยบายที่ 3 ด้านสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ นายอิทธิพลกล่าวว่าจะนำพาเมืองพัทยา-เกาะล้าน สู่ Go Green ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและอนุรักษ์พลังงานอย่างรู้คุณค่า เช่น รณรงค์กิจกรรม CSR โรงเรียนสีเขียว สนับสนุนส่วนราชการใช้พลังงานแสดงอาทิตย์ ไบโอดีเซล ไบโอก๊าซ เชลล์เชื้อเพลิง เป็นต้น หรือ รณรงค์ให้ทุกบ้านมีสวนลอยฟ้า รั้วชายคาผลิตพืชสวนครัว เช่นกัน
นอกจากนี้จะนำธรรมชาติ หาดสวย น้ำใส สงบ ปลอดภัยคืนให้ทะเลพัทยา ภายใต้แนวคิด Good Beach เตรียมพร้อมเป็นศูนย์กลางแห่งการเดินทางท่องเที่ยวและผู้นำทางวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เชื่อมโยงความหลากหลายของผู้คนและวัฒนธรรมจากประชาคมอาเซียน ที่มุ่งหวังนำเงินเข้าพัทยา-เกาะล้าน อาทิ แก้ปัญหาขยะ 350 ตันต่อวัน ให้สามารถจัดเก็บได้หมดทุกวันไม่ให้ตกค้าง รวมถึงการลอกท่ออย่างสม่ำเสมอ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน และเพิ่มขีดความสามารถการบำบัดน้ำเสียจากวันละ 65,000 ลบ.ม.เป็น 137,500 ลบ.ม.
กลุ่มนโยบายที่ 4 ด้านวัฒนธรรม โดยเน้นการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมสร้างสรรค์ โดยจะขยายบทบาทให้ชาวพัทยา ศิลปิน ปราชญ์ชาวบ้าน ร่วมสร้างสรรค์คุณค่าด้วยทุนทางวัฒนธรรมนำวิถีชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น พร้อมกับสนับสนุนให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตและถ่ายทำภาพยนตร์ ผลักดันพัทยาขึ้นทะเบียนกับ “ยูเนสโก” เป็นเครือข่ายของเมืองสร้างสรรค์ เป็นต้น
นายอิทธิพลกล่าวสรุปว่า ในการพัฒนาหรือนำพาเมืองพัทยา-เกาะล้านในช่วง 4 ปีข้างหน้า เน้น “คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา” และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ที่ผู้บริหารเมืองพัทยาให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างความเข้มแข็งและสามารถปรับตัวรับภาวะเศรษฐกิจและปัจจัยเสี่ยงจากประชาคมอาเซียนในปี 2558 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนตลอดไป