พท.เต้นไม่หยุดเจอนิวยอร์กไทม์ส แฉ “นช.แม้ว” นายกฯ ตัวจริง โวยจินตนาการสูงเกินจริง อวย “ปู” มีภาวะผู้นำ ทำงานทั้งในและต่างประเทศจนเป็นที่ยอมรับ ถามคนเขียนซี้ปึ้กแกนนำ ปชป.จริงหรือไม่ ฉะ “มาร์ค” ไม่สมเป็นผู้นำฝ่ายค้าน เก็บทุกเม็ดมาเล่นการเมือง
วันนี้ (2 ก.พ.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ นสพ.นิวยอร์กไทม์ส เขียนกล่าวหารัฐบาลไทยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยตัวจริงว่า ถือเป็นการเสนอข่าวที่ใช้จินตนาการสูงเกินความจริง มากกว่าที่จะแสวงหาพยานหลักฐาน หรือเหตุผลมานำเสนอข่าวตามจรรยาบรรณสื่อมวลชน เพราะวันนี้เห็นได้ชัดเจนว่านายกฯ หญิงเก่งอย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำงานทุกวันไม่มีวันหยุดทั้งการประชุม ครม. ประชุมส่วนงานราชการ รับฟังปัญหาของประชาชน และทุกภาคส่วน อีกทั้งนิตยสารระดับโลกจำนวนมากยังยกย่องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นผู้นำสตรีที่มีความขยันขันแข็ง มีวิสัยทัศน์ สร้างความเชื่อมั่นในระดับโลก ระดับเอเชีย และ ระดับอาเซียน และนำพาประเทศไทยในช่วง 1 ปีมานี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกๆด้าน
รองโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตนเป็นแฟนคลับนิวยอร์กไทม์สที่เป็นนิตยสารระดับโลกมานาน เพราะเชื่อมั่นในแหล่งข้อมูลความเป็นจริงที่น่าเชื่อถือ แต่วันนี้เรียนตามตรงว่าหมดศรัทธาเพราะนักเขียนจากนิวยอร์กไทม์สที่ประจำในประเทศไทย ชื่อ นายโทมัส มูเลอร์ เป็นคนคนเดียวกันกับที่ยืนสัมภาษณ์ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ “เสธ.แดง” ขณะที่ถูกลอบสังหาร ก็ยิ่งแปลกใจว่าเหตุใดนักข่าวคนนี้จึงไม่ค่อยขุดคุ้ยว่าใครเป็นผู้ลงมือหรืออยู่เบื้องหลังการลอบสังหารเสธ.แดง หรือผู้อยู่เบื้องหลังการสั่งการสังหารประชาชนกลางเมืองหลวง และยิ่งแปลกใจไปอีกเมื่อมีคนว่าเล่าให้ฟังว่านายโทมัสไปแฮงก์เฮาต์กับพลพรรคประชาธิปัตย์ ระดับแกนนำจะพบกันยามค่ำคืนอยู่บ่อยครั้ง จึงอยากถามนายโทมัสว่าเขียนจากคำบอกเล่าของพลพรรคประชาธิปัตย์ หรือใช้หลักการทำข่าวอะไรจึงเขียนเช่นนั้น
นายจิรายุอ้างว่า พ.ต.ท.ทักษิณทราบเรื่องนี้ก็ได้แต่หัวเราะ เพราะท่านเป็นอดีตนายกฯ ที่ภาคภูมิใจในการทำหน้าที่ของน้องสาว ที่เป็นนายกรัฐมนตรีของไทย ที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็มีความเข้มแข็ง และมีภาวะผู้นำในการบริหารประเทศอย่างดีเยี่ยม สามารถผลักดันนโยบายต่างๆ ที่ได้หาเสียงไว้อย่างเป็นรูปธรรม และนอกจากเป็นผู้นำที่เข้มแข็งแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังมีบุคลิกที่อ่อนโยน จึงสามารถทำงานกับทุกฝ่ายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะสามารถเป็นผู้นำในภาวะที่ประเทศต้องก้าวเข้าสู่ความปรองดองและเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
นอกจากนี้ จากการสำรวจของโพลประชาชนก็ให้ความศรัทธาและสนับสนุนการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี และยิ่งทำงานนานขึ้นเท่าไหร่ ความโดดเด่นและภาวะผู้นำยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
นายจิรายุยังกล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและรัฐมนตรีมหาดไทยให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร นิวยอร์คไทม์ ว่าประเทศไทยเหมือนมีนายกรัฐมนตรี 2 คน โดยนายอภิสิทธิ์นำไปขยายความ เชิงบลัลฟ์พรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรีจนมีคนไปโพสต์ในอินเทอร์เน็ตต่อว่ากันมาก ว่าเหตุใดนายอภิสิทธิ์ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงผู้นำฝ่ายค้านจึงออกมาเก็บทุกเม็ด ทั้งๆ ที่เรื่องแบบนี้แค่วอลเปเปอร์ผู้นำฝ่ายค้านก็เพียงพอแล้ว จนบางคนถึงระบุว่านายอภิสิทธิ์ไม่ควรทำตัวเป็นฤาษีแปลงสาร เก็บข่าวที่มีที่มาไม่ชัดเจนอ้างอิงไม่ได้แต่เป็นประโยชน์ต่อพรรคพวกฝ่ายตนก็นำมาขยี้ฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอนั้น
“ผมในฐานะติดตามข่าวแลได้พูดคุยกับนายจารุพงศ์ ยืนยันว่าไม่เคยพูดเช่นนั้นเลย สื่อไปเขียนนำกันเองเป็นการแปลงสารอย่างน่าเกลียดที่สุดของคนระดับนี้ ซึ่งเมื่อตนฟังเช่นนี้ก็ต้องยอมรับว่ากระบวนการฤๅษีแปลงสารมีจริง และขอบอกว่า นายอภิสิทธิ์เป็นผู้นำฝ่ายค้าน น่าจะค้านอย่างคลาสสิก มีศิลปะ ไม่ใช่ปะฉะดะ ขยี้ทุกเม็ดเก็บทุกอณู ว่ากันทุกเรื่อง ทั้งแต่ อบต. ยัน นรม.”