“องอาจ” ไม่หวั่นโพลให้ “คุณชาย” ตามหลัง “จูดี้” แนะย้ายเด็กสอบใกล้หน่วยเลือกตั้ง

ปธ.ส.ส.กทม.ปชป.น้อมรับผลสำรวจ ปชช. คะแนนตัวแทนชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯ กทม.พท.แซง พร้อมให้ลูกพรรคลุยเคาะประตูช่วย “สุขุมพันธุ์” รักษาเก้าอี้ เตรียมเผย 16 งานหลักหลังรับตำแหน่ง 25 ม.ค. ปราศรัยใหญ่ลานคนเมือง ชี้ช่องย้ายเด็กสอบ GAT/PAT มีสิทธิเลือกตั้งใกล้คูหาที่ใช้สิทธิ

วันนี้ (25 ม.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ ผอ.ศูนย์การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค แถลงถึงกรณีที่มีผลสำรวจความเห็นประชาชน (โพล) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรค มีคะแนนตาม พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่รู้สึกหนักใจและไม่หวั่นไหวต่อเรื่องผลโพลที่ออกมา เพราะทราบดีว่าเป็นการสำรวจความคิดเห็นประชาชาชนในช่วงระยะเวลาหนึ่ง และต้องขึ้นอยู่กับคำถามว่าถามอะไร แต่เราก็น้อมรับความเห็นประชาชนผ่านการสำรวจความคิดเห็นจากสำนักต่างๆ ข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์ก็จะนำมาใช้ปรับปรุงการทำงานเพื่อประโยชน์ในการหาเสียงเลือกตั้งต่อไป ซึ่งขณะนี้พรรคจะใช้วิธีการเคาะประตูบ้านโดยใช้เครือข่ายของพรรคทั้ง ส.ส., ส.ก., ส.ข. และสาขาพรรค รวมทั้งจะมีการปราศรัยย่อยในจุดต่างๆ พื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อให้ประชาชนมีความเข้าในมากขึ้น และให้แกนนำของพรรคได้เดินสายพบปะกับนักธุรกิจ ภาคประชาชน เพื่อให้สนับสนุนการทำหน้าที่ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ให้กลับมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.อีกครั้ง

สำหรับการปราศรัยใหญ่ครั้งในวันนี้ (25 ม.ค.) ที่ลานคนเมือง นายองอาจระบุว่าจะมีการเปิด 10 มาตรการเร่งด่วน 6 นโยบายหลักของ กทม. รวมทั้งหมด 16 งานที่ต้องทำทันทีหลังได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ประกอบด้วย 1. มหานครแห่งความปลอดภัย 2. มหานครแห่งความสุข 3. มหานครสีเขียว 4. มหานครแห่งการเรียนรู้ 5. มหานครแห่งโอกาสของทุกคน และ 6. มหานครแห่งอาเซียน

นายองอาจกล่าวต่อว่า การเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม.ในวันที่ 3 มี.ค.นี้จะตรงกับการเปิดสอบการจัดสอบความถนัดทั่วไป (GAT) และความถนัดเฉพาะด้าน/วิชาการ (PAT) ของนักเรียนชั้น ม.6 ที่มีสิทธิเลือกตั้ง โดยจะมีการขยายเวลาพักเที่ยงให้นักเรียนได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งนั้น พรรคประชาธิปัตย์ อยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง กรุงเทพฯ (กกต.กทม.) ประสานงานกับสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดโอกาสให้นักเรียนใช้สิทธิครั้งแรกในชีวิต ซึ่งจากข้อมูลพบว่ามีนักเรียนกว่า 2,800 ราย กระจายอยู่ใน 26 สนามสอบ แนวคิดขยายเวลาพักเที่ยงอาจจะไม่มีแรงจูงใจให้นักเรียนไปเลือกตั้ง พรรคจึงขอเสนอให้ สทศ.ตรวจสอบนักเรียนว่าใช้สิทธิเลือกตั้งที่ใด และให้นักเรียนเหล่านั้นย้ายสนามสอบไปอยู่ใกล้เคียงกับหน่วยเลือกตั้งมากที่สุด