“พงศพัศ” ออกจากบ้านแต่ไก่โห่ บอกเมียหอมแก้มให้กำลังใจก่อนจับสลาก ปะหน้า “สุขุมพันธุ์” ที่ศาลาว่าการฯ แต่ไม่ยอมจับมือ จนสื่อต้องขอ ด้าน “หญิงหน่อย” เหน็บนักข่าวเล่นพรรคร้าวสนุกปาก ยันไม่มีแตกแยก บอกถ้ามีเวลาจะมาช่วยหาเสียง ชี้ พท.เอาประโยชน์คนกรุงเป็นที่ตั้งจะชนะ จ่อแจมคัดทีมรองผู้ว่าฯ “จารุพงศ์” ไม่หวั่นโพลชี้เป็นรอง ปชป. ชูนโยบายมหานครแห่งเออีซี ลั่นไม่ใช้อำนาจรัฐจุ้น สื่อแฉเจ้าตัวสุดปลื้มได้เลขตรงวันเกิด
วันนี้ (21 ม.ค.) มีรายงานว่า เมื่อเวลา 05.00 น. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินออกจากบ้านพักซอยวิภาวดีฯ 42 โดยก่อนออกจากบ้านได้ไหว้ศาลพระภูมิภายในบ้านพักเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นเวลา 05.30 น.ได้เดินทางมาถึงยังที่ศาลาว่าการ กทม. และได้ให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวตื่นเช้าเป็นประจำอยู่แล้ว วันนี้ไม่ได้เตรียมอะไรเป็นพิเศษ อยากมาเช้าเพราะพร้อมทำงาน เมื่อคืนนอนหลับฝันดี ภรรยาหอมแก้มให้กำลังใจ และก่อนออกจากบ้านไหว้ศาลพระภูมิเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ส่วนเบอร์จะได้เบอร์อะไรก็ได้ แต่มั่นใจว่าจะได้เบอร์ดีแน่นอน จากนั้นก็ได้เดินทักทายเจ้าหน้าที่ที่มารักษาความปลอดภัย และได้เดินสายให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนสำนักต่างๆ ที่มาดักรอสัมภาษณ์สดออกอากาศ
ทั้งนี้ เวลา 07.00 น. แกนนำพรรคเพื่อไทยได้เดินมายังศาลว่าการ กทม. เช่น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตลอดจน ส.ส.กทม.และทีม ส.ก. ส.ข. รวมถึงนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลฯ เพื่อให้กำลังใจและพาไปสมัคร
ต่อมาเวลา 07.30 น. พล.ต.อ.พงศพัศได้เดินทางไปสักการะพระพุทธนวราชบพิตร ที่ตั้งอยู่ภายในศาลาว่าการ กทม. โดยระหว่างทางได้เจอกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดินลงมาจากรถพอดี ทั้งสองจึงได้ยิ้มทักทายแต่ไม่ยอมจับมือกัน จนสื่อมวลชนต้องได้ขอร้องให้ช่วยจับมือกัน ทำให้ทั้งสองคนยอมจับมือกันให้สื่อมวลชนถ่ายภาพ
หลังจากสักการะแล้ว พล.ต.อ.พงศพัศได้ให้สัมภาษณ์ว่า ได้ขอพรว่าขอให้ได้มาดูคน กทม.และจะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ กทม.ทุกคน ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าหากตนได้เป็นผู้ว่าฯ จะไม่มีธรรมาธิบาลเป็นตัวแทนที่มาจากพรรครัฐบาลเหมือนกัน ขอยืนยันว่าไม่ต้องกลัว ตนเป็นตัวของตัวเอง มีหลักธรรมาธิบาล กทม.ก็มีสภา กทม.ทำหน้าที่คอยตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ว่าฯ กทม.อยู่แล้ว ยืนยันว่าตนขออาสามาคืนความสุขให้คน กทม.
จากนั้นเวลา 08.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาถึงและให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้มีกระแสข่าวความแตกแยกภายในพรรคเรื่องการส่งตัวผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เวลาเสนอข่าวอาจจะรู้สึกสนุก แต่ความจริง ส.ส, ส.ก., ส.ข.ช่วยกันอย่างเต็มที่ ตั้งแต่พรรคมีมติส่ง พล.ต.อ.พงศพัศลงสมัคร ยืนยันว่าไม่มีความแตกแยก ส่วนตัวไม่ได้เสนอตัวลงสมัคร สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ตนเสียใจ ขอความเป็นธรรมให้กับตนด้วย แต่ขณะนี้ขอทำงานด้านศาสนาก่อน แต่ถ้ามีเวลาจะมาช่วย พล.ต.อ.พงศพัศหาเสียงด้วย เมื่อถามว่าได้แนะนำอะไรให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ก็มีการคุยกับและได้แนะนำว่าควรจะทำนโยบายอะไร ที่เป็นประโยชน์ต่อคน กทม. ตนได้ให้ข้อมูลไปแล้ว ถ้าเรายึดประโยชน์ของคน กทม.เป็นที่ตั้งก็จะชนะ ขณะนี้พรรคมีนโยบายออกมาเสนอคน กทม.เรื่อยๆ และในช่วงโค้งสุดท้ายก็จะมีนโยบายโดนใจออกมา แต่ขออุบไว้ก่อนว่าเป็นอะไร ส่วนทีมรองผู้ว่าฯ นั้น ขอดูก่อนว่าจะเข้าไปพิจารณาคัดเลือกด้วยหรือไม่ แต่คิดว่าคงต้องมีการหารือกัน
ด้านนายจารุพงศ์กล่าวว่า ไม่หนักใจแม้ผลโพลที่ออกมาพรรคเพื่อไทยยังมีคะแนนเป็นรองพรรคประชาธิปัตย์ อาจเป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ครองผู้ว่าฯ กทม.มา 8 ปี ดังนั้นพรรคเพื่อไทยขอโอกาสเชนจ์ (Change) เพื่อเปลี่ยนแปลงสิ่งใหม่ๆ ที่ดีขึ้น อยากขอโอกาสจากคน กทม. พรรคเพื่อไทยชูนโยบายให้ กทม.เป็นมหานครแห่งเออีซี ไม่ใช่เฉพาะคน กทม.เท่านั้น แต่จะสนับสนุนคนรอบปริมณฑลด้วย ยืนยันว่าขณะนี้ไม่มีความขัดแย้งภายในพรรค ทุกฝ่ายพร้อมช่วยกันหาเสียงรวมถึงคุณหญิงสุดารัตน์ด้วย แม้ พล.ต.อ.พงศพัศจะเป็นหน้าใหม่ แต่ไม่ใหม่ในเรื่องการบริหารงาน มีประสบการณ์มากมาย มั่นใจว่า พล.ต.อ.พงศพัศจะเป็นตัวเลือกที่ดีให้คน กทม. แม้เพื่อไทยจะเป็นรัฐบาล แต่จะไม่ใช้อำนาจรัฐแทรกแซงการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สมัครต่างๆ มาถึงศาลาว่าการ กทม. ได้ทยอยลงทะเบียนเพื่อจับสลากเลือกลำดับในการจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร โดยนายวรัญชัย โชคชนะ ผู้สมัครอิสระ ได้เดินทางมาลงทะเบียนเป็นคนแรกตั้งแต่เวลา 05.16 น. ที่โต๊ะลงทะเบียนบริเวณหน้าห้องรัตนโกสินทร์ สถานที่จับสลากหมายเลขหาเสียงของผู้สมัคร โดยมีผู้มาลงทะเบียนทั้งสิ้น 16 คน จากนั้นผู้สมัครได้ทยอยเดินทางมายังห้องเจ้าพระยา เพื่อตรวจสอบเอกสารและคุณสมบัติเบื้องต้น พร้อมจ่ายค่าธรรมเนียมการสมัคร 5 หมื่นบาท จากนั้นเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ กกต.กทม.ได้เชิญผู้สมัครทั้ง 16 คนเข้ามาภายในห้องรัตนโกสินทร์ เพื่อดำเนินการจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร โดยมีแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาร่วมให้กำลังใจ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เช่น นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ขณะที่ทางฝั่งพรรคเพื่อไทย ได้แก่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นายจารุพงศ์ คุณหญิงสุดารัตน์ เป็นต้น
จากนั้น กกต.กทม.ได้ให้ผู้สมัครที่มาลงทะเบียนเวลาตามลำดับ มาจับสลากเพื่อจับลำดับในการจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร โดยบุคคลสำคัญ เช่น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ลำดับจับสลากได้ลำดับ 4 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัครอิสระ ได้ลำดับจับสลากลำดับที่ 10 และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ได้ลำดับจับสลากลำดับที่ 16 ซึ่งเป็นลำดับสุดท้าย
ต่อมาเวลา 08.40 น. กกต.กทม.ได้มีการจับสลากรอบสอง เพื่อจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง โดยบุคคลที่ได้ลำดับหมายเลขในการเลือกตั้งครั้งนี้ที่น่าสนใจ พล.ต.อ.พงศพัศ จับสลากเป็นคนสุดท้ายได้หมายเลข 9 มีสีหน้ายิ้มแย้ม ท่ามกลางความยินดีเสียงโห่ร้องของกองเชียร์สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ซึ่งหมายเลข 9 ที่แสดงถึงความก้าวหน้า ขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ที่จับสลากได้หมายเลข 16 ซึ่งเป็นหมายเลขสุดท้าย กองเชียร์ที่สนับพรรคประชาธิปัตย์ต่างเงียบแต่ก็ปรบมือเป็นกำลังใจให้ ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จับสลากได้หมายเลข 11
ในส่วนผู้สมัครอื่นๆ นั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สมัครอิสระ ได้แก่ นายวรัญชัย โชคชนะ จับได้เบอร์ 2 นายสมิตร สมิทธินันท์ จับได้เบอร์ 5 นายวิละ อุดม ได้เบอร์ 1 นายจำรัส อินทุมาร ได้เบอร์ 15 นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล ได้เบอร์ 8 นายณัฐดนัย ภูเบศอรรถวิชย์ ได้เบอร์ 7 นายโฆษิต สุวินิจจิต ได้เบอร์ 10 นายโสภณ พรโชคชัย ได้เบอร์ 4 นายวศิน ภิรมย์ ได้เบอร์ 13 ร.อ.เมตตา เติมชำนาญ ได้เบอร์ 3 นายประทีป วัชรโชคเกษม ได้เบอร์ 14 นายสันหพจ สุขศรีเมือง ได้เบอร์ 6 และ น.ส.จงจิต หิรัญลาภ ได้เบอร์ 12
ต่อมาเมื่อเวลา 09.09 น. นายสุหฤท สยามวาลา ผู้สมัครอิสระ ได้เดินทางมาลงทะเบียนเพื่อจับสลากหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร โดยจับได้เบอร์ 17 อย่างไรก็ตาม ภายหลังจับสลากหมายเลขประจำตัวเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย ผู้สมัครต่างๆ ก็ได้ทยอยเดินทางไปหาเสียงและปราศรัยต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการรับสมัครลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. พล.ต.อ.พงศพัศได้พบปะประชาชนที่เดินทางมาให้กำลังใจบริเวณหน้าศาลาว่าการ กทม. พร้อมกล่าวว่า เบอร์ 9 คือเบอร์ที่ชื่นชอบ เพราะ 9 นี้เป็นก้าวที่สำคัญของ กทม. เป็นก้าวเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ขอบคุณประชาชนทุกคนที่มาให้กำลังใจ นับจากนี้เราจะก้าวไปด้วยกัน เพื่อนำชัยชนะมาสู่ประชาชน จากนั้น พล.ต.อ.พงศพัศได้ขึ้นรถแห่หาเสียงโดยรอบก่อนเดินทางไปสักการะศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยขอเชิญชวนคน กทม.ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลง สร้างรอยยิ้ม คืนความสุขให้กับชาว กทม. ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าการจับได้หมายเลข 9 เป็นเลขในใจและถือว่าเป็นการเริ่มต้นสิ่งที่ดีในการทำประโยชน์ให้กับคน กทม.ภายหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจหาเสียง พล.ต.อ.พงศพัศพร้อมคณะได้เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทยทันที
อย่างไรก็ตาม ในเย็นวันนี้ เวลา 16.00 น.จะมีการปราศรัยเพื่อแถลงนโยบายต่อประชาชนและพร้อมรับฟังความเห็นบริเวณลานคนเมือง ซึ่งจะมีแกนนำและสมาชิกพรรคเพื่อไทยทยอยกันขึ้นเวทีปราศรัย เช่น ร.ต.อ.เฉลิม นายจารุพงศ์ นายวิชาญ นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.กทม. นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดย พล.ต.อ.พงศพัศจะขึ้นเวทีในเวลา 20.30 น.