ผบ.สส.จวกต่างชาติ ชี้สั่งให้ช่วยโรฮิงญาแต่ไม่ยื่นมือ เตือน กต.เดินพระวิหารต้องถกกองทัพ

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โยนรัฐบาลดูตั้งศูนย์อพยพหรือไม่ ชี้ต่างชาติบอกให้ช่วยแต่ไม่ยอมเข้ามาช่วยภาระจะตกกับไทย จ่อผลักดันกลับตามระเบียบ โยนกำลังพลเลือกผู้ว่าฯ กทม.ตามใจชอบ ขอคนไทยรวมเป็นหนึ่งเดียวสู้พระวิหาร เผยเขมรยอมหยุดสร้างถนนแล้ว เริ่มพูดรู้เรื่อง แต่เตือน กต.จะทำอะไรต้องหารือกองทัพก่อน

วันนี้ (17 ม.ค.) ที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาผู้อพยชาวโรฮิงญาว่า เป็นเรื่องของมนุษยธรรมที่เราต้องช่วยเหลือ โดยเป็นไปกฎ กติกา มีหน่วยต่างๆ ที่ต้องร่วมกันแก้ไข และหาทางให้เหตุการณ์กลับเข้าสู่ปกติ ส่วนต้องจัดศูนย์อพยพเพื่อรองรับหรือไม่นั้น ก็ต้องดูว่าเหมาะสม ซึ่งเป็นเรื่องของรัฐบาลพิจารณา แต่ในแง่ของการช่วยเหลือเบื้องต้น คือการให้เสบียงอาหาร และให้พักฟื้น เมื่อเข้ามาทางไหนก็ต้องให้กลับไปทางนั้น เป็นไปตามกติกาสากล ทั้งนี้ ภายนอกประเทศชอบบอกว่าต้องช่วย แต่ทุกคนก็ไม่ค่อยช่วย ภาระก็ตกกับประเทศไทย ซึ่งจะมีปัญหาตามมาอีกมากมาย ดังนั้น การช่วยเหลือและให้กลับไปตามระเบียบ กติกา ด้วยความสุขุมนุ่มนวล และเอื้ออาทร แต่ในมุมความมั่นคง ประเทศไทยเป็นแค่ทางผ่านไป ไม่ใช่เป้าหมาย และเขายังไม่มารุกราน

ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังกล่าวถึงการให้นโยบายกับกำลังพลในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่า เป็นสิทธิของกำลังพลที่ชอบคนไหนก็เลือกคนนั้น ส่วนการกำชับกำลังพลไม่ให้ไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการเลือกตั้งนั้น ระเบียบทางทหารกำหนดไว้อยู่แล้วว่าจะเลือกอย่างไร แต่งเครื่องแบบ หรือออกไปลักษณะไหน ในกฎกติกาของประเทศ ซึ่งตนก็สนับสนุนการเลือกตั้งอย่างเต็มที่ เพราะทุกคนก็ทำเพื่อประโยชน์ให้ส่วนรวมหมด

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลโลกจะมีการตัดสินคดีปราสาทพระวิหารในช่วงเดือน เม.ย.นี้ว่า เป็นเรื่องของคนไทยทุกคน และเป็นหน้าที่ของทุกคน ตนทำหน้าที่ของตน พวกท่านทำหน้าที่ของท่าน หน่วยราชการอื่นก็ทำตามหน้าที่ และมาสอดประสานกัน ขณะนี้รัฐบาลก็กำลังดำเนินการอยู่ และมีการประชุมทุก 2-3 อาทิตย์ หรืออย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อสรุปและวิเคราะห์ ซึ่งตนมีหน้าที่ดูแลงานด้านความมั่นคงก็เสนอในมุมของความมั่นคง ซึ่งยืนยันว่าตนปฏิบัติตามกฎกติกา หากทุกคนรวมเป็นหนึ่งเดียวทุกอย่างก็จะออกมาด้วยดี พูดเหมือนกันทำเหมือนกัน เพื่อประเทศชาติ ประชาชน ใครที่ปฏิญาณก็จะยึดคำปฏิญาณ ทั้งหมดที่มีอยู่ 6 ข้อ โดยชาติจะต้องมาก่อน ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงการรักษาระบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทั้งนี้ต้องเชื่อถือผู้บังคับบัญชา และปฏิบัติตามคำสั่ง ขณะเดียวกัน ผู้บังคับบัญชาก็จะต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างยุติธรรม ที่สำคัญเรื่องของทางราชการจะไม่มีการเปิดเผย หากไปเปิดเผยจะมีความผิด

เมื่อถามว่า กองทัพจะให้ความมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดปัญหาในเรื่องอธิปไตย พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า ทุกอย่างมีการทำงานร่วมกัน แต่ในส่วนที่กองทัพรับผิดชอบ เราทำตามหน้าที่มีความเข้มงวดและมีการประสานงานที่ดี ขณะนี้ชายแดนบริเวณปราสาทพระวิหาร เรามีความสนิทสนมกับประเทศเพื่อนบ้าน มีการฝึกร่วมกัน หากประเทศเพื่อนบ้านจะมีการไถถนน เราบอกว่าไม่เหมาะเขาก็หยุด ตรงนี้เป็นไปด้วยความสัมพันธ์ที่ดี และอยากเรียนว่า 2 ปีที่ผ่านมาไม่มีเรื่องราวอะไรเลย เป็นเพื่อนบ้าน และเป็นคนที่พูดกันรู้เรื่อง สิ่งที่ถืออยู่ในขณะนี้คือการก้าวไปด้วยกันข้างหน้า เราสนิทกัน และก้าวไปด้วยกัน ผลประโยชน์จะกลับมาอยู่กับประเทศทั้งสอง รวมถึงในภูมิภาคและอาเซียน ซึ่งทุกคนต้องการผลประโยชน์ของชาติทั้งนั้น

เมื่อถามถึงกรณีการตั้งคณะทำงานร่วมกับรัฐบาลในเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า ทางกองทัพไทยได้ส่ง พล.ท.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ เจ้ากรมยุทธการกองทัพไทยเข้าไปทำงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ โดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นเจ้าภาพหลักในการชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับเขาพระวิหาร อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพจะให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อกระทรวงการต่างประเทศ ไม่มีการคิดเอาเอง ทั้งนี้ หากกระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการในเรื่องใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับเขาพระวิหาร กระทรวงการต่างประเทศจะต้องหารือกับกองทัพเสียก่อนก่อนที่จะดำเนินการใดๆ