“ชูวัส” แถไม่ได้กล่าวหา “ช่างภาพเนชั่น” ดราม่า แพทย์เผยอาการยังไม่ตอบสนอง

โคตรจะแมน! บก.ประชาไท ใช้เว็บไซต์ที่ตัวเองเป็น บก.ฟอกผิด อ้างถูกเสนอข่าวเหน็บ “ช่างภาพเนชั่น” คลาดเคลื่อน ยังแถไม่ได้กล่าวหาดราม่า หนำซ้ำแอบไปขอโทษทางเฟซบุ๊กชาวบ้าน ด้านแพทย์เผยอาการล่าสุดยังวิกฤต ไม่ตอบสนองการกระตุ้น กำลังประเมินว่าสามารถรับอาหารทางสายยางได้หรือไม่

วันนี้ (13 ม.ค.) จากรณี นายสกล สนธิรัตน์ ช่างภาพศูนย์ภาพเนชั่น ประจำรัฐสภา เกิดอาการความดันโลหิตสูงกำเริบจนล้มลงหมดสติขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่ แต่ถูก ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล, นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ และ นายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข บรรณาธิการบริหาร นสพ.ออนไลน์ประชาไท ซึ่งร่วมกันเป็นพิธีกรรายการเวคอัพไทยแลนด์ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมวอยซ์ ทีวี กล่าวถึงข่าวอาการป่วยของนายสกล ว่า เป็นดราม่าเพื่อหลอกด่านักการเมือง จน นายฉลาด จันทร์เดช ช่างภาพหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ในฐานะประธานชมรมช่างภาพการเมือง ได้โพสต์แถลงการณ์ของชมรมมีใจความว่า ให้ทั้ง 3 พิธีกรออกมาขอโทษผู้ป่วย โดยไปพูดออกอากาศต่อสาธารณชน สร้างความเสียหายต่อสื่อมวลชนประจำรัฐสภา โดยไม่มีข้อมูลที่แท้จริง

ล่าสุด ทางเว็บไซต์ประชาไท ซึ่งมี นายชูวัส เป็นบรรณาธิการได้ออกมาระบุถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยอ้างว่า เมื่อตรวจสอบเทปออกอากาศของรายการเวคอัพไทยแลนด์ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ไม่มีข้อความจากพิธีกรรายการกล่าวหาอาการป่วยของนายสกลแต่อย่างใด มีเพียงการกล่าวถึงวิธีนำเสนอข่าวดังกล่าวของสื่อมวลชนว่าเป็นดราม่าเพื่อด่านักการเมือง

อย่างไรก็ตาม เมื่อ นางสาวนิธินันท์ ยอแสงรัตน์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสเครือเนชั่น แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก มีใจความว่า “งานนี้พิธีกรรายการ Wake Up Thailand ของวอยซ์ทีวี พูดไม่สวย ความเป็นความตายของคนไม่ใช่เรื่องสำหรับเอามาวิจารณ์กันเรื่อยเปื่อย จริงอยู่ แม้จะมีแพทย์และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลพระมงกุฎออกมาแก้ข่าวแล้วว่า ไม่ได้ปฏิเสธ ไม่ได้ชักช้า ทำตามขั้นตอน บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ก็ยังสงสัยว่าถ้าผู้ป่วยเป็นคนอื่นที่มีชื่อเสียง จะเร็วกว่านี้ไหม และถ้าเร็วกว่านี้ อาการคุณสกลจะดีกว่านี้ไหม? ข้าพเจ้าเห็นว่า เมื่อเราซึ่งเป็นสื่อ สื่อสารอะไรไปแล้วทำให้มีคนเข้าใจผิด ไม่สบายใจ เสียใจ ต่างๆ นานา เราก็ขอโทษที่ทำให้เขาเข้าใจผิดจนเสียใจได้” กระทั่ง นายชูวัส ก็ได้โพสต์ตอบในเฟซบุ๊กของของนางสาวนิธินันท์ เพียงว่า “ขอบคุณครับ ผมตั้งใจขอโทษด้วยใจจริง”

ผู้สื่อข่าวเอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ได้ตรวจสอบกรณีที่เว็บไซต์ประชาไทกล่าวหาว่านำเสนอถ้อยคำของพิธีกรรายการเวคอัพไทยแลนด์ดังกล่าวแบบคลาดเคลื่อนไปจากที่ออกอากาศ พบว่า นายชูวัส กล่าวหาถึงอาการป่วยของนายสกลจริง เนื่องจาก ม.ล.ณัฎฐกรณ์ ได้เล่าให้ฟังเหตุการณ์ในวันดังกล่าว ว่า ระหว่างที่นายสกลถูกแพทย์ซักไซร้อาการราวกับว่าเป็นอาการธรรมดาทั่วไปกว่า 10 นาที เมื่อถูกซักถามมากๆ นายสกล จึงตะโกนออกมาบอกว่า ผมไม่ไหวแล้ว ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว สอดรับกับคำพูดของนายชูวัส ในทำนองว่า เป็นเรื่องที่ดีที่ไม่ดราม่ามากเกินไป แต่หมอและพยาบาลอยู่ในรัฐสภาอยู่แล้ว ทำไมจะต้องไปโรงพยาบาล ฉะนั้น การที่เว็บไซต์ประชาไท อ้างว่า นำเสนอถ้อยคำคลาดเคลื่อนไปจากที่ออกอากาศนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังสอดรับกับคำพูดของนายฉลาด ที่เคยระบุว่า พิธีกรทั้ง 3 คน ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์จริง และไม่รู้ว่าอาการของผู้ป่วยในขณะนั้นเป็นอย่างไร มีอุปกรณ์มากเพียงพอในการรักษาที่อาคารรัฐสภาหรือไม่

ส่วนอาการของนายสกลนั้น สำนักข่าวเนชั่นรายงานว่า นพ.ชัยพล วุฒิโอภาส ศัลยแพทย์ระบบประสาท ประจำโรงพยาบาลกลาง และแพทย์เจ้าของไข้นายสกล เปิดเผยถึงอาการล่าสุดของนายสกล ว่า ผู้ป่วยยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต ยังไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้น ภาวะความดันในโลหิตอยูในเกณฑ์ที่ดีขึ้น วันนี้ได้เริ่มให้อาหารทางสายยาง ซึ่งต้องประเมินเป็นระยะ ว่า ผู้ป่วยสามารถรับอาหารได้หรือไม่ ซึ่งแนวทางการรักษาผู้ป่วยจากนี้ไป จะควบคุมในเรื่องการหายใจและอาหารเป็นหลัก และติดตามการฟื้นตัวของเนื้อสมองในส่วนที่เสียหายจากภาวะเลือดออก ตอนนี้ทางทีมแพทย์พยายามสู้เต็มที่ เพื่อให้คนไข้มีอาการดีขึ้น ตอนนี้กำลังประเมินว่าคนไข้สามารถรับอาหารทางสายยางได้หรือไม่ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น คือ การฟื้นฟูของเนื้อสมองที่ถูกทำลายและเกลือแร่ต่างๆ ที่ให้ทางสายยาง ขณะนี้ทีมแพทย์ให้ยารักษาอย่างเต็มที่

ทั้งนี้ การสังเกตอาการเลือดออกในสมองในคนทั่วไปนั้นค่อนข้างยาก เพราะไม่มีสัญญาณบอกเหตุล่วงหน้าใดๆ ส่วนใหญ่จะหมดสติ หรืออ่อนแรงลงไปทันที ทั้งนี้ ต้องดูประวัติของผู้ป่วย ว่า มีปัจจัยเสี่ยงหรือไม่ อย่างเช่น ความดันโลหิตสูง สำหรับกรณีของช่างภาพเครือเนชั่น ถือว่ามาโรงพยาบาลไม่ช้าเกินไป เพราะขณะมาถึงนั้น นายสกล ยังสามารถสนทนากับแพทย์ และสามารถกรอกตาไปมาได้ อาการที่เกิดขึ้นเป็นอาการของโรคเลือดออกในสมองในตำแหน่งแกนสมอง (potine heamorraghe) ซึ่งถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญในสมอง และมีโอกาสที่เลือดจะออกซ้ำได้ (rebleeding)