โฆษก ปธ.สภาฯ เฉ่ง “โสภณ” ข้ามหัว แจงแผนแก้ รธน.ออกสื่อ หวั่นรู้ทันเตี๊ยมกับ พท. ปัด “ค้อนปลอม” ไม่เคยจุ้น-วิปวุฒิฯ ยิ้มรับแก้ รธน. ล้างบางสายสรรหา ขอเลือกตั้งเพิ่ม 200 คน พ่วงแก้ ม.109 และเลิกยุบพรรค ขอเอาผิดรายคนแทน เตรียมถกความชัดเจน รบ.-ฝ่ายค้าน
วันนี้ (8 ม.ค.) นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกส่วนตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายโสภณ เพชรสว่าง ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในคณะกรรมการปรับปรุงและพัฒนากฎหมายเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เสนอแนวคิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อสาธารณะว่า เรื่องนี้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ยังไม่รับทราบข้อเสนอดังกล่าว ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่าการให้ข้อสรุปของอนุกรรมการต่อสื่อมวลชนก่อนที่นายสมศักดิ์จะพิจารณาถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม โดยหลักแล้วการทำงานในคณะกรรมการ ภายใต้คำสั่งการแต่งตั้งของประธานสภาฯ คือ การศึกษา พิจารณาข้อมูล เพื่อนำเสนอให้กับประธานสภาฯ ได้พิจารณาและตัดสินใจก่อนที่จะเผยแพร่เป็นข่าว
“สิ่งที่คุณโสภณนำเสนอแนวทางแก้รัฐธรรมนูญ หลังวันที่พรรคเพื่อไทยมีการประชุมเพื่อแก้ไขรัฐธรมนูญ เสมือนกับว่าเป็นการทำงานเพื่อสอดรับกับพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ข้อเท็จจริง การทำงานของคณะกรรมการปรับปรุงและพัฒนากฎหมาย รวมถึงอนุกรรมการชุดต่างๆ ท่านประธานสภาฯ ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการทำงานแม้แต่ครั้งเดียว และไม่เคยสั่งการให้ศึกษาเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ” นายวัฒนากล่าว
ที่รัฐสภา นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ส.ว.ชลบุรี เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่าจากการหารือนอกรอบของ ส.ว.สายเลือกตั้ง 64 คน เมื่อค่ำวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ทุกคนเห็นร่วมกันว่าร่างรัฐธรรมนูญปี 50 มีบางมาตรากระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ดังนั้นควรมีการแก้ไขเพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีมติว่าควรเสนอแก้เป็นรายมาตรา อาทิ มาตรา 190 เกี่ยวกับทำสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศ มาตรา 237 เรื่องยุบพรรค ให้ลงโทษเฉพาะที่กระทำผิด หรือทุจริตการเลือกตั้งเท่านั้น รวมทั้งมาตรา 111 เรื่องที่มา ส.ว. จากจำนวน 150 เป็น 200 คน โดยให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ให้ใช้ฐานประชากรเป็นตัวกำหนดสัดส่วน ส.ว. จากนี้ไปคณะทำงานของ ส.ว.เลือกตั้ง ซึ่งตนก็เป็นหนึ่งในนั้น จะไปศึกษาและหารือกับทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เพื่อนำเสนอแนวทางดังกล่าวเพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จตามแนวทางดังกล่าว