ศาลฎีกาฯ ยกคำร้องผู้สมัคร ส.ส.พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน

ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งยกคำร้องเพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง นายสุเทพ เข้มแข็งปรีชานนท์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดนครปฐม พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ผู้คัดค้าน เป็นเวลา 5 ปี ชี้ยังไม่ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อว่าผู้สมัครเตรียมซื้อเสียง

ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (20 ธ.ค.) ศาลนัดฟังคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ ลต.9/2555 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้ง นายสุเทพ เข้มแข็งปรีชานนท์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดนครปฐม พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ผู้คัดค้าน เป็นเวลา 5 ปี

ศาลฎีกาฯ ไต่สวนแล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า ผู้คัดค้านจัดเตรียมเงินให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อลงคะแนนให้ผู้คัดค้านอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 53 (1) ประมากอบมาตรา 111 และการกระทำดังกล่าวส่งผลให้การเลือกตั้งในเขตดังกล่าว มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ พยานผู้ร้องเบิกความในทำนองเดียวกันว่า ผู้คัดค้านโทรศัพท์ให้นายจำเนียร สุวรรณเกิด ไปพบแล้วบอกให้นายจำเนียรนำใบปลิวไปแจกชาวบ้าน และหารายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ โดยให้ค่าจ้างรายชื่อละ 20 บาท และผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับเงินคนละ 1,000 บาท นายจำเนียรจึงชวน นายณัทธกรกาญจน์ ฝอยทอง ให้ไปร่วมจดชื่อ และได้รับเงินค่าจ้างจากผู้ดูแลเรื่องการเงินของผู้คัดค้าน โดยนายจำเนียรส่งชื่อไป 838 รายชื่อ ได้เงิน 16,760 บาท ส่วนนายณัทธกรกาญจน์ส่งชื่อไป 230 รายชื่อ ได้เงิน 4,600 บาท

พิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณียังไม่ปรากฏหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้คัดค้านจัดเตรียมเพื่อที่จะให้เงินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงเลือกตั้งให้แก่ผู้คัดค้าน อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ. 2550 มาตรา 53 (1) ประมากอบมาตรา 111 และการกระทำดังกล่าวส่งผลให้การเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดนครปฐม ในที่เกี่ยวกับผู้คัดค้านมิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมแต่อย่างใด จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง