“องอาจ” เรียกร้ององค์กรอิสระ สื่อ และผู้เกี่ยวข้องอย่านิ่งดูดายปล่อยใช้อำนาจแบบละคร “เหนือเมฆ 2” กลางอากาศ ควรมีบทบาทดำเนินการเพื่อสร้างบรรทัดฐาน ไม่ให้มีการดำเนินการลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในสังคม
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3ถอดละครเหนือเมฆ ภาค 2 ออกจากการออกอากาศกะทันหันว่า มีเรื่องที่น่าสนใจ คือ การถอดละครเป็นกรณีที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งในฐานะที่ตนเป็นอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลกำกับสื่อของรัฐ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) สมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ รัฐบาลของเราไม่มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวการนำเสนอละครต่อประชาชน ปล่อยให้เป็นเรื่องของประกอบอาชีพตามจรรยาบรรณวิชาชีพโดยอิสระ
นายองอาจกล่าวว่า แต่รัฐบาลนี้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง นอกจากการถอดละครเหนือเมฆ 2 แล้ว ยังมีการดูดเสียงถ้อยคำในละครบางเรื่องที่กระทบผู้มีอำนาจ การกระทำดังกล่าวเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน การทำละครที่เป็นสื่อบันเทิงก็ถือเป็นสื่อมวลชน เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้น่าจะมีผู้มีอิทธิพลเหนือรัฐมนตรีเข้าไปแทรกแซง เป็นการกระทำที่ลุแก่อำนาจ
นายองอาจเชื่อว่า นายวราเทพ รัตนากร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล อสมท ไม่เกี่ยวข้องกับการถอดละครเรื่องเหนือเมฆ 2 ออกจากช่อง 3 เพราะทราบดีว่าหากดำเนินการก็จะขัดรัฐธรรมนูญ และการดำเนินการกับเรื่องเหนือเมฆ 2 นั้นมีหลายอย่างที่ขัดรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญแล้วอยากเรียกร้องให้องค์กรอิสระ เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน ควรดูแลว่าจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรให้เป็นบรรทัดฐานต่อสังคม คณะกรรมการกิจการโทรทัศน์ กิจการกระจายเสียงและกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก็ไม่ควรนิ่งเฉย ควรมีบทบาทดำเนินการเพื่อสร้างบรรทัดฐาน ไม่ให้มีการดำเนินการลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกในสังคม ควรเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนมีเสรีภาพแสดงออก ไม่ควรขัดขวางหรือดำเนินการใดๆ ที่ยับยั้งการแสดงออกของสื่อ
“ผมเชื่อว่าเรื่องนี้ถ้าไม่มีผู้มีอำนาจสั่งการคงไม่เกิดขึ้น ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าจะเป็นการพิจารณาของช่อง 3 หรือผู้จัดละครอย่างอิสระในการถอดละครออกไปทั้งที่ยังไม่จบ จึงเห็นชัดเจนว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐตอบสนองความต้องการของผู้มีอำนาจ”
