อดีตคณะทำงานพรรคร่วมฯ แก้รัฐธรรมนูญ เสนอพรรคเพื่อไทยค้างวาระ 3 ในสภาไว้เฉยๆ หวังแสดงเจตนาไม่ได้ช่วย “ทักษิณ” หรือไม่เช่นนั้นเดินหน้าโหวตวาระ 3 ถ้าไม่ผ่านก็แก้รายมาตราได้ โอดประชามติขวากหนามเยอะ หวั่นถูกยื่นศาล รธน.ตีความ
วันนี้ (1 ม.ค.) นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ว่า ยอมรับว่า แนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 ทั้ง 3 แนวทาง ได้แก่ 1. การโหวตลงมติวาระสาม 2. การแก้ไขเป็นรายมาตรา 3. การทำประชามติ ล้วนแต่มีปัญหาและมีกับดักทุกแนวทาง ไม่ว่าจะใช้แนวทางใดก็มีปัญหาทั้งนั้น จึงต้องรอบคอบ เลือกวิธีที่สร้างปัญหาน้อยที่สุด
ทั้งนี้ ถ้าต้องเลือกแนวทางที่มีปัญหาน้อยที่สุดมี 2 แนวทาง คือ 1. ให้คาการแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3 ค้างไว้ในสภาฯ เฉยๆ รอจนสภาหมดอายุ กฎหมายดังกล่าวก็จะตกไปเอง พอมีรัฐบาลใหม่ค่อยมาว่ากันใหม่ แต่อาจเสียความรู้สึกประชาชน และคนเสื้อแดง แต่เราอธิบายได้ว่า รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่มีปัญหามากมาย หากทำไปจะยิ่งสร้างความแตกแยกในบ้านเมือง จึงไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญได้ หวังว่าประชาชนจะเข้าใจ ซึ่งแสดงให้เห็นเจตนาว่า ไม่ได้ช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 2. เดินหน้าโหวตวาระ 3 ต่อไป ถ้าไม่ผ่านก็ให้ไปแก้ไขเป็นรายมาตราต่อไป ส่วนตัวเชียร์ให้ใช้แนวทางนี้ เพราะอธิบายได้ง่ายที่สุด
ส่วนการทำประชามติมีขวากหนามมากมาย ต้องใช้เสียงประชามติมหาศาล และมีปัญหาตามมาคือ หากทำประชามติโดยยึด พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2552 ที่ใช้จำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงทั่วประเทศ และต้องได้เสียงข้างมากของผู้ออกมาใช้สิทธินั้น จะถูกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่า เป็นการทำประชามติที่ไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน เพราะรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 ระบุถึงการทำประชามติว่า ต้องได้เสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงทั่วประเทศ คือ ต้องได้คะแนนเสียงเห็นชอบมากกว่า 24 ล้านเสียง จากจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงทั่วประเทศ 48 ล้านคน ซึ่งเนื้อหากฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญขัดกันอยู่ จึงเป็นกับระเบิดที่จะถูกยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความแน่
นอกจากนี้ การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ไม่ได้ระบุว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องทำประชามติ หากไปทำประชามติก็จะขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 ที่ระบุว่า การทำประชามติต้องไม่ทำในเรื่องขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนการแก้เป็นรายมาตรา ก็ต้องพิจารณาตั้งแต่วาระ 1-3 ก็มีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างทางได้ทุกมาตรา ทุกเส้นทางเต็มไปด้วยกับระเบิด ยอมรับว่า โอกาสแก้รัฐธรรมนูญสำเร็จคงยาก จึงต้องทำด้วยความรอบคอบที่สุด