xs
xsm
sm
md
lg

ผบ.ทบ.น้อมนำพระราชดำรัส “ทุกคนมีคุณธรรม จะทำให้บ้านเมืองเรียบร้อย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (แฟ้มภาพ)
“พล.อ.ประยุทธ์” น้อมนำพระราชดำรัสในหลวง หากทุกคนมีคุณธรรมจะทำให้บ้านเมืองเกิดความเรียบร้อย พร้อมยึดแนวทาง “ป๋าเปรม” อย่านำความคิดต่างมาเป็นความขัดแย้งของคนในชาติ ผบ.ทบ.ถึงน้ำตาคลอ เลี้ยงปีใหม่ทหารบาดเจ็บ พิการ บอกเจ็บปวด ยันเสนอรัฐบาลช่วยเต็มที่ รับโจทย์ยากสู้กับคนไทยด้วยกันเองที่มีความเห็นต่าง

ที่แหล่งชุมนุมนายทหารสัญญาบัตร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า วันนี้ (27 ธ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าอวยพรและขอรับพรปีใหม่จาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า พล.อ.เปรมระบุว่าเรื่องการมีความคิดเห็นที่แตกต่างไม่เป็นอะไร แต่อย่านำความคิดเห็นที่แตกต่างนั้นมาเป็นความขัดแย้งของคนในชาติ ซึ่งเราต้องช่วยกันทำ ส่วนตนในฐานะที่เป็นทหารก็ต้องเอาใจช่วยในการที่จะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย และทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด

ทั้งนี้ การปกป้องประเทศชาตินั้นไม่ใช่เฉพาะการนำอาวุธออกมาเพียงอย่างเดียว แต่เราต้องปกป้องด้วยการประพฤติและปฏิบัติดี ไม่นำความขัดแย้งไปขยายและไม่ทำให้ประชาชนเกิดความแตกแย้งเป็นหมู่เหล่า

“เหตุการณ์ต่างๆ ล้วนมีบทเรียน ทุกอย่าง สถานการณ์ วันเวลา รวมถึงบริบทของปัญหาเปลี่ยนแปลงไป อย่านำเรื่องใหม่มาพันกับเรื่องเก่า หรือนำเรื่องเก่ามาพันกับเรื่อใหม่ ไม่เช่นนั้นจะก้าวไปข้าวหน้าไม่ได้ ผมอยากให้ทุกคนนำแนวทางของ พล.อ.เปรม เรื่องการอยู่ร่วมกันท่ามกลางความเห็นต่าง ซึ่งคำว่าการอยู่ร่วมกันไม่ใช่การรบราฆ่าฟัน อีกทั้งต้องนำแนวทางพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงรับสั่ง เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา เรื่องคุณธรรม หากทุกคนมีคุณธรรมนั้นจะทำให้บ้านเมืองเกิดความเรียบร้อย เพราะคุณธรรมคือความดีงามที่อยู่ในจิตใจของมนุษย์ทุกคนต้องรู้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี อะไรผิดหรือถูก และจะต้องมีการปลูกฝังคุณธรรม หากมีคุณธรรม จริยธรรมก็จะตามมา สองคำนี้แยกกันไม่ออก เพราะจริยธรรมคือกรอบความดีงามที่กำหนดไว้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวกับทหารที่ได้รับบาดเจ็บ พิการ ที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในสังกัดกรมแพทย์ทหารบก เนื่องในวันปีใหม่ว่า กองทัพบกมีนโยบายในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมากขึ้น เช่น หาแนวทางให้มาช่วยราชการ เพราะถึงจะสูญเสียอวัยวะแขน ขา แต่ก็ยังมีสมองที่ยังทำงานได้ เพราะงานบางอย่างยังขาดแคลนอยู่ โดยตนจะเสนอกระทรวงกลาโหม และรัฐบาลว่าเราจะช่วยเหลือคนเหล่านี้ให้มากขึ้นอย่างไร เพราะได้เสียสละ ทุ่มเทมาตลอด ซึ่ง 11 เดือนที่ผ่านมา เราให้ผู้บังคับบัญชาไปตอบแทนเราทุกเดือน แต่ไม่สามารถตอบแทนการสูญเสียของท่านได้ ต่อไปก็จะต้องหาแนวทางในการทำเช่นไรให้การบาดเจ็บสูญเสียลดน้อยลง ในส่วนที่เกิดขึ้นแล้วต้องระมัดระวัง โดยหาเครื่องมือป้องกันให้มากขึ้น

“ยากตรงที่เราไม่ได้สู้กับคนนอกประเทศ แต่สู้กับคนไทยที่มีความเห็นต่าง ทั้งประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ และยังมีปัญหาซับซ้อนเข้ามาอีก ท่านทำมาหลายหน้าที่ ได้เสียสละในหลายภารกิจเพื่อป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ด้วย กองทัพก็ต้องปรับเปลี่ยนกับตัวเองในการทำงานร่วมกับคนอื่นในมิติอื่นด้วย อยากให้พวกท่านได้ภูมิใจว่า เมื่อท่านดูแลกองทัพ ต่อไปก็ต้องมีคนดูแลต่อไป แน่นอนว่าการทำงานต้องมีการบาดเจ็บ สูญเสีย เพราะเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธ แต่เราจะทำอย่างไรให้แผ่นดินไทยทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน เราสูญเสียตรงไหนไปไม่ได้อีกแล้ว ผมจะทำหน้าที่ดูแลกองทัพบกให้เข้มแข็ง และทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และประชาชน เป็นกองทัพที่มีศักดิ์ศรี สมกับที่ท่านรักษาไว้ สัญญาว่าจะดูแลกำลังพลในกองทัพให้ดีมากขึ้นเท่าที่เราจะทำได้ พวกท่านอย่าคิดว่าเราเป็นคนพิการ หรือสูญเสีย ให้คิดว่าเป็นคนปกติ บางคนร่างกายครบ 32 แต่จิตใจไม่เหมือนเรา เราขาดแต่ใจเราเต็มร้อย รู้สึกเจ็บปวด รู้สึกมากกว่าหลายๆ คน อย่างน้อยก็เท่าลูกเมียของท่าน”

ผบ.ทบ.กล่าวชื่นชมว่า กรมแพทย์ทหารบก ที่มีบทบาท และการทำงานในช่วงเวลานี้มากขึ้น ในกรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียน สิ่งที่กองทัพบกรับผิดชอบโดยตรงคือความมั่นคงทางด้านการแพทย์ เพราะมีโรงพยาบาล 37 แห่ง ซึ่งแพทย์มีศักยภาพค่อนข้างมาก เราเป็นกองทัพที่เข้มแข็ง และ มีขนาดใหญ่ ทำอะไรก็อยู่ในความสนใจของประชาชน เหล่าแพทย์ พยาบาลทุกคนที่อยู่ในสายการแพทย์ สร้างชื่อเสียงให้กับกองทัพบก ทุกคนทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม ล่าสุด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือขอตัว เจ้ากรมแพทย์ทหารบก เพื่อเดินทางไปต่างประเทศกับคณะของนายกรัฐมนตรี เพื่อสานความร่วมมือในด้านการแพทย์กับประเทศที่ไปเยือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงาน พล.อ.ประยุทธ์ยังจับสลากเพื่อให้รางวัลพิเศษ เป็นโทรทัศน์แอลอีดี และโน้ตบุ๊ก มอบให้ทหารที่บาดเจ็บ และได้ขึ้นเวทีร้องเพลงเพื่อแผ่นดินไทย โดยมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง ผบ.ทบ. พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.อ.จิระเดช โมกขะสมิต ผู้ช่วย ผบ.ทบ. พล.อ.ชลวิชญ์ เพิ่มทรัพย์ ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบก พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ.ประจำ ผบ.ทบ.ร่วมร้องด้วย

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังบอกให้พากำลังพลและครอบครัวที่บาดเจ็บ พิการ ไปพักผ่อนหย่อนใจที่ สถานที่พักตากอากาศสวนสนประดิพัทธ์ จ.เพชรบุรี สถานที่พักผ่อนของกองทัพบก เพื่อให้ทุกคนได้หย่อนใจและพักผ่อนอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ระหว่างกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับน้ำตาคลอเมื่อเอ่ยถึงความเสียสละของกำลังพลจนต้องมาบาดเจ็บและพิการจากสนามรบ


กำลังโหลดความคิดเห็น