"สุธรรม" บี้ค่าเยียวยาครูจชต.เสียชีวิต แนะปรับรับแทนรุก คิดนอกกรอบกันโจรใต้จับทาง ติงรบ.อย่าปากหวานเลิกสร้างภาพ แก้ปัญหาจริงจัง "สุรศักดิ์" ลั่นเลิกเกรงใจต่างชาติ เปิดหน้าลุยโจรใต้ พร้อมบรรจุทายาทครูในก. "ตวง" ติงนโยบายการศึกษาไทยมาผิดทาง ซื้อแทบเล็ตไร้ประโยชน์ ทำอยู่อันดับสุดท้ายอาเซียน จี้รมว.ศธ.ทบทวน "วันชัย" ร้องสธ. รพ.เอกชนขูดรีดปชช. ค่ารักษาแพงเวอร์ บังคับหมอจ่ายยาแยะ "ส.ว.กำแพงเพชร" แนะแจกเสื้อกันหนาวแทนผ้าห่ม
วันนี้ (25ธ.ค.) ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันทร์รัตนปรีดา รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดยนายสุธรรม พันธุศักดิ์ ส.ว.สรรหา ได้หารือถึงปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ว่า ขณะนี้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะครูที่เป็นชาวไทยพุทธถูกฆ่าเป็นประจำทุกวัน การเยียวยาครูที่เสียชีวิตก็ยังไม่ได้รับค่าเยียวยาแต่อย่างใด จึงขอฝากไปยังรัฐบาลว่าควรปรับนโยบายเป็นการตั้งรับมากกว่ารุก ปรับยุทธวิธีเรื่องการใช้กำลังทหาร ปรับวิสัยทัศน์ และปรับพฤติกรรมของข้าราชการ ส่วนเรื่องการบริหารต้องใช้วิธีการพิเศษ ต้องคิดนอกกรอบบ้าง ไม่เช่นนั้นจะเสียเปรียบผู้ก่อความไม่สงบ ที่สำคัญรัฐบาลจะต้องทำงานด้วยความจริงจังและจริงใจ อย่าทำงานไปวันๆ อย่าปากหวาน รัฐบาลอย่าสร้างภาพโดยใช้ความทุกข์ของประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้
พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขอให้เร่งรัดการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ที่ฆ่าครูมาดำเนินคดี ให้บรรจุทายาทครูที่เสียชีวิตเข้าทำงานที่กระทรวงต่างๆในทันทีที่มีการเปิดบรรจุ ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจในการที่จะแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เลิกเกรงใจ เกรงกลัวองค์การระหว่างประเทศ ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปิดหน้าชน เจ้าหน้าที่รัฐต้องเข้มแข็ง ไม่เช่นนั้นชาวบ้านจะกลัวโจรมากกว่ากลัวครู สุดท้ายในบางพื้นที่ต้องส่งครูตำรวจตระเวนชายแดนเข้าไปสอนเด็ก
ส่วนนายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา หารือถึง นโยบายพัฒนาคุณภาพการศึกษาของประเทศไทย ปัจจุบันเรากำลังเผชิญวิกฤตคุณภาพการศึกษาทั้งภายในและต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดเวิร์ลอิคอนิมิค ฟอรัม ได้ประเมินคุณภาพการศึกษาในประเทศอาเซียนทั้งหมดและได้จัดลำดับเปรียบเทียบกันในปี 2012-2013 พบว่า การศึกษาขั้นพื้นฐานประเทศไทยอยู่อันดับที่ 6 ส่วนการศึกษาระดับมัธยม และอุดมศึกษา ไทยอยู่อันดับที่ 8 ท้ายสุด ยังแพ้ประเทศกัมพูชา เวียดนาม เป็นไปได้อย่างไรที่ยักษ์ใหญ่อย่างประเทศไทยอยู่อันดับท้ายสุดของอาเซียน หรือผิดพลาดตรงนโยบายของการพัฒนาคุณภาพการศึกษาเป็นเพียงกระพี้ เป็นเปลือก ไม่ว่าจะเป็นนโยบายการซื้อแทบเล็ต ไม่ถึงตัวคุณภาพของคน นโยบายรัฐบาลไร้ทิศ ผิดทาง มาตลอด เข้าใจว่าคุณภาพคือโอเน็ต จึงเป็นบ้า เป็นหลัง ไม่ต้องจัดการเรียนการสอน ไม่ต้องแข่งขันกีฬา แต่คุณภาพอาเซียนไม่ใช่โอเน็ต แต่เป็นคุณภาพกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา เพราะฉะนั้นถ้าทำลักษณะนี้เหมือนเดิมตนเชื่อว่าจะแพ้ลาว พม่า กัมพูชา ดังนั้นจึงขอไปยังรัฐบาลและรมว.ศึกษาต้องทบทวนนโยบายคุณภาพการศึกษา
ด้านนายวันชัย สอนสิริ ส.ว.สรรหา หารือว่า ในฐานะที่ตนเป็นกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าโรงพยาบาลเอกชนคิดค่ารักษาพยาบาลที่สูงมาก แค่แคะหู 656 บาท เป็นไข้หวัด 90,000 กว่าบาท ไปรพ.แต่ละครั้งได้ยาเป็นถุงๆ แม้แต่ตัวเองเจ็บคอ รพ.จ่ายยามา 7 ชนิด ทั้งนี้ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับหมอเอกชน และสรุปว่าหากหมอไม่จ่ายยาให้คนไข้จะเกิดปัญหา อย่างไรก็ตาม จากการสอบถามปรากฏว่าไม่มีหน่วยงานใดของราชการเข้าไปกำกับดูแลเรื่องดังกล่าว จึงอยากให้รัฐบาลเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องความเป็นความตาย เรื่องของมนุษยธรรม โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขต้องหาวิธีและมาตรการแก้ไข
ขณะที่นายกฤช อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร ได้หารือว่า ช่วงนี้อากาศหนาวเย็นมาก โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สูง เช่นชาวไทยภูเขาจะมีผลกระทบมาก จึงอยากให้รัฐบาลเร่งรัดเจ้าหน้าที่ได้อนุเคราะห์ผ้าห่มกันหนาว และเสื้อกันหนาว ทั้งนี้ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาจะแจกสิ่งกันหนาวส่วนใหญ่เป็นผ้าห่ม ทำให้ชาวไทยภูเขาทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ไม่ค่อยมีเสื้อกันหนาว ก็จะห่มผ้าห่มกันหนาวแทนจึงทำให้ขาดเร็ว โดยเฉพาะที่ จ.กำแพงเพชร มี 2 อำเภอซึ่งมีหลายเผ่า จึงอยากให้แจกเสื้อกันหนาวด้วย อย่าแจกเฉพาะผ้าห่ม