เรากำลังอยู่ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย...จริงหรือ!?

รายงานการเมือง

เราอยู่ในประเทศที่เป็นประชาธิปไตย จริงหรือ? เป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจและอยากร้องตะโกนออกไปดังๆ ว่า ประชาธิปไตยของไทยกำลังถูกคุกคามโดยรัฐบาล 15 ล้านเสียง

ภายในช่วงเวลาเพียงเดือนเศษเกิดเหตุมากมายกับคนที่มีความเห็นแตกต่างจากรัฐบาล ทั้งการข่มขู่ คุกคาม ซึ่งหน้า ไปจนถึงการดิสเครดิต

ล่าสุดลุกลามถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ราเมศ รัตนะเชวง ทีมกฎหมายและรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งแม้ว่าอาการจะดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังไม่มีใครให้หลักประกันได้ว่าผลกระทบกระเทือนทางสมองที่เกิดขึ้นจะส่งผลอย่างไรต่อชีวิตของคนที่ชื่อ ราเมศ รัตนะเชวง

ไล่เรียงเหตุการณ์การคุกคามคนเห็นต่างของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งมีทั้งกองกำลังนอกกฎหมายและในกฎหมายคุ้มกะลาหัวอยู่ วิญญูชนที่มีสติสัมปชัญญะย่อมเล็งเห็นถึงภัยคุกคามประชาธิปไตยของไทย จากรัฐบาลที่อ้างตัวว่าเป็นประชาธิปไตย

เริ่มกันตั้งแต่กรณีอีเมลข่มขู่ สมจิตต์ นวเครือสุนทร นักข่าวช่อง 7 จนคนทำการข่มขู่คือ พรทิพย์ ปักษานนท์ ประธาน นปช.เพชรบุรี ได้ดิบได้ดีเป็นบอร์ด ทอท.อยู่ในเวลานี้ โดยทั้งตำรวจ อัยการ และศาลชั้นต้นสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งเจ้าตัวยังรอการยื่นอุทธรณ์คดีต่อเพื่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุด

ถัดมาก็เกิดเหตุนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรห้ามไม่ให้สมจิตต์ เดินทางไปกัมพูชา ในฐานะนักข่าวทีวีพลูช่วงการประชุมอาเซียน ด้วยเหตุผลที่ว่าถามคำถามไม่เป็นที่พอใจ โดยเฉพาะกรณีการจัดการพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา

จากนั้นมีการทุบกระจกรถคอลัมนิสต์ชื่อดังของแนวหน้า และกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เฉลิมชัย ยอดมาลัย หลังเขียนบทความเชิงตรวจสอบติติงรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง

ไม่เพียงเท่านั้น ล่าสุดยังมีตำรวจสันติบาล 3 คน ไปข่มขู่นักข่าวสำนักข่าวทีนิวส์มีภาพกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานชัดเจน ซึ่งทางสำนักข่าวดังกล่าวคงจะได้มีการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมอย่างถึงที่สุดเช่นกัน

ขณะที่ประชาชนธรรมดาที่ไม่มีสีถูกคุกคามได้โดยเรดการ์ดของรัฐบาล ด้วยการกระทำที่ฮึกเหิมไม่สนใจกฎหมาย เพียงแค่ ตั๊ก-บงกช คงมาลัย โพสต์เฟซบุ๊คแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเสียชีวิตของนักโทษที่ทำผิดมาตรา 112 เธอก็ถูกคุกคามโดยอันธพาลเสื้อแดงพัทยาไล่ล่าจนงานที่จะไปทำเดินต่อไม่ได้

ส่วนคนในรัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กำกับ สตช.บอกว่า เป็นสีสันประชาธิปไตย

มีความกระตือรือร้นอย่างยิ่งของตำรวจที่จะเอาผิดกับครูสาวที่เข้าไปตำหนิการกระทำของ ดารุณี กฤตบุญญาลัย ที่ชอบพูดจาดฉวัดเฉวียนหมิ่นเหม่ต่อการจาบจ้วงสถาบัน แต่ไม่เคยจับกุมผู้ละเมิดสถาบันที่ทำกันอย่างโจ๋งครึ่มทั้งในโลกแห่งความเป็นจริงและโลกอินเตอร์เน็ต

ไม่เพียงเท่านั้นการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงได้รับการอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี ให้ทำผิดปิดถนนได้ตามอำเภอใจ โดยมีตำรวจคอยอำนวยความสะดวกให้ในสารพัดงานรำลึกที่จัดขึ้นโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่นที่อาจได้รับผลกระทบ ถือเป็นการใช้สิทธิที่ไปละเมิดสิทธิประชาชนคนอื่นอย่างชัดแจ้ง แต่รัฐบาลบอกว่าเป็นการชุมนุมเพื่อประชาธิปไตย

ไม่ว่าจะเป็น 10 เมษา 53 19 พ.ค. 53 วันตายเสธ.แดง ฯลฯ และอีกสารพัดที่จะใช้เป็นข้ออ้างในการรวมกลุ่มเรดการ์ดให้รู้สึกฮึกเหิมว่า เมื่อประเทศอยู่ใต้อุ้งตีนชินวัตร บ้านเมืองนี้ก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของคนเสื้อแดงที่ได้รับอภิสิทธิ์เหนือกว่าประชาชนคนไทยอื่นๆ

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ การเคลื่อนไหวของนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของนางสาวกมนเกด ที่เสียชีวิตระหว่างเกิดเหตุชุมนุม และจนถึงขณะนี้ดูเหมือนว่าดวงวิญญาณของเธอคงยังหาความสงบสุขไม่ได้ เพราะความตายของเธออยู่ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่เลิก

อุกอาจกันถึงขั้นไปคุกคามกรรมการสิทธิมนุษยชน ทั้งที่ตัวเองเรียกร้องในเรื่องสิทธิมนุษยชน พากันไปเที่ยวถึงศาลโลก แต่ถ้าผลสรุปขององค์กรอิสระออกมาไม่ตรงกับใจก็ไปอาละวาดจนงานเขาพัง ขณะเดียวกันไม่มีปฏิกริยาใดๆ จากภาครัฐที่จะจัดการในกรณีนี้ว่า นางพะเยาว์ กำลังละเมิดสิทธิของกรรมการสิทธิมนุษยชน

วันเดียวกันตอนค่ำ ราเมศ รัตนะเชวง ก็กลายเป็นไก่ที่ถูกเชือดให้ลิงดู โดยถูกของมีคนตีเข้าศีรษะอย่างแรงจนกะโหลกร้าว ในขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม นกรู้ ออกมาพูดทันทีเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวกับการเมือง

ไม่ต่างอะไรกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบ.ชน. ซึ่งต้องถือเป็นคู่กรณีกับนายราเมศด้วย เพราะถูกร้องเรียนกระทำผิดจริยธรรมกรณีให้นักโทษประดับยศพล.ต.ท.และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามกฎหมายอาญามาตรา 157 กรณีเกณฑ์ตำรวจไปบุกพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งออกมาให้สัมภาษณ์ทันทีว่า น่าจะเป็นความแค้นเคืองส่วนตัว โดยอ้างเหตุผลจากพฤติกรรมของคนร้ายที่มีการเตะนายราเมศด้วย

ซึ่งต้องบอกว่าถูกครึ่งหนึ่ง เพราะคนที่ทำเรื่องนี้มีความแค้นเป็นการส่วนตัวเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการตรวจสอบของนายราเมศ

รู้มาเพียงว่า คนเลวที่ทำงานให้นายเป็นอดีตนายตำรวจยศจ่าชื่อย่อ จ. อยู่แถวนนทบุรี ฟาดเต็มแรงตามความแค้นของนายที่ฝากไว้

งานนี้จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญสำหรับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ว่าจะดูแลพิทักษ์สันติราษฎร์ตามหน้าที่ได้หรือไม่ และจะจับมือใครดมได้หรือเปล่าเมื่อเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนมีสี

โดยฟันธงได้เลยว่า บทสรุปจะออกมาว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นเรื่องส่วนตั๊ว ส่วนตัว แล้วก็ปล่อยให้เรื่องหายไปในกลีบเมฆ

สภาพบ้านเมืองเช่นนี้เรายังเรียกประเทศไทยว่า ปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยได้อีกหรือ