เกาะกระแส
00 การวิดิโอลิงก์เข้ามาในวงคนเสื้อแดงที่ปากช่องเขาใหญ่ของ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันก่อนที่เสนอให้ทำประชามติก่อนการแก้ไข รธน. ขณะเดียวกันไม่สนับสนุนให้เดินหน้าโหวตแก้ไข ม.291 ในวาระ 3 โดยอ้างว่า “ผ่านยาก” และเสี่ยงต่อการถูกยื่นตีความ “ตายยกเข่ง” อย่างไรก็ดีนั่นก็ถือว่าเป็น “ท่าทีล่าสุด” ของเขา ว่าจะ “วางอนาคต” ของตัวเองอย่างไร
00 แต่ในความหมายที่พอจับอาการได้ในขณะนี้ก็คือ ทักษิณ ยอมถอยเพื่อ “รักษาสถานภาพเดิม” เอาไว้ก่อน นั่นคือรักษาผลประโยชน์ส่วนที่มีเอาไว้ โดยเฉพาะรักษารัฐบาลและอำนาจรัฐที่มีอยู่ในมือ ไม่อยากให้เกิดความเสี่ยงที่อาจทำให้ควบคุมไม่ได้ และรู้ดีว่าสถานการณ์ในวันนี้ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
00 แน่นอนว่าคำพูดที่บอกว่า หากโหวตวาระ 3 แล้ว “ผ่านยาก” นั้น โดยระบุว่าต้องใช้เสียงถึงกว่า 320 เสียงขณะที่เสียงของรัฐบาลมีแค่ 300 เสียง นั้นถ้าดูตามตัวเลขนั้นอาจจะใช่ แต่ถามว่าที่ผ่านมาทำไมถึงไม่คิดแบบนี้ตั้งแต่แรก ทำไมคิดจะ “หัก” เอาท่าเดียว เพราะว่าตอนนั้นมั่นใจว่าคุมทุกอย่าง “เบ็ดเสร็จ” ไม่เว้นแม้แต่วุฒิสภาเกือบ 2 ใน 3 ก็ยอมสยบอยู่ใต้ระบอบทักษิณแล้วมิใช่หรือ ดังนั้นเสียงโหวตไม่น่าจะใช่ปัญหา แต่ปัญหาก็คือเขากลัวว่า น้องสาวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะ “ตายทางการเมือง” ซึ่งจะส่งผลสะเทือนมาถึงตัวเขาและครอบครัวตามไปด้วย
00รับรองว่าดันโหวตให้ผ่านวาระ 3 นั้นไม่ยาก แต่ที่น่ากลัวก็คือหลังจากนั้นจะถูกยื่นให้ตีความว่ามีเจตนาล้มล้างรธน.ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้บอกใบ้ส่งสัญญาณมาตั้งแต่ต้นแล้ว อีกทั้งเมื่อผ่านขั้นตอนจากรัฐสภาแล้วก็เข้าสู่การนำเสนอขึ้นทูลเกล้าฯภายใน 20 วัน ตรงนี้แหละต้องเดินเข้าสู่ “หน้าผา” ชัดเจน เนื่องจากควบคุมไม่ได้ และที่สำคัญตามขั้นตอนแล้ว นายกฯจะต้องเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าฯจะ “ลอยตัว” อ้างเป็นเรื่องสภาไม่ได้แล้ว ถ้าไม่โปรดเกล้าฯลงมา และมีคนไปยื่นเรื่องตีความถ้าออกมา “แจ็กพอต” ก็ซวยยกเข่ง ละทีนี้ จะเอามันตามแรงยุของคนรอบข้างไม่ได้เป็นอันขาด เพราะพวกนั้นไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่มาติดคุกหรือต้องพ้นจากเก้าอี้แทนกันได้ และที่ผ่านมาก็มีเสียง “เตือน”จากศาลให้เห็นแล้ว
00การที่ ทักษิณ กลับลำเสนอความเห็นให้ทำประชามติก่อนแก้ไขนั้นทางหนึ่งแสดงให้เห็นว่าเขาถอย เพื่อประคองสถานการณ์เฉพาะหน้าไว้ก่อน และที่สำคัญก็คือบรรดากุนซือคนรอบข้างของ นายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่เอาด้วยกับเกมเสี่ยงของพี่ชาย เพราะในที่สุดแล้วตัวเองจะซวยไปด้วย ที่สำคัญก็คือตนเองต้องการนั่งเก้าอี้ตัวอี้ต่อไปนานๆ อย่างน้อยก็ให้อยู่ครบวาระที่เหลืออีก 3 ปีกว่า ขณะเดียวกันถามว่าถ้าอยู่ไปแบบนี้มันมีประโยชน์ต่อ ทักษิณ และคนในครอบครัวหรือไม่ เพราะมีอำนาจ มีงบประมาณ มี “ค่าเปอร์เซ็นต์” จากสารพัดโครงการที่กำลังเดินหน้าและอีกหลาย “อภิมหาโปรเจ็กต์” งบรวมกว่า 2.27 ล้านล้านบาทที่กำลังจะกู้มาใช้อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ดังนั้นจะไปดิ้นรนหาเรื่องทำไม
00 จะว่าไปแล้วนาทีนี้ ทักษิณ เหมือนกับติด “กับดัก” ตัวเองที่เริ่มขยับไปไหนก็ไม่ได้ นั่นคือเริ่มทำตามความต้องการของตัวเองก็ไม่ได้ จะเดินหน้าหักดิบโหวตวาระ 3 เหมือนเมื่อก่อนก็ทำไม่ได้ เพราะน้องสาวไม่ยอม เพราะเริ่มสนุกกับอำนาจที่มี แม้จะ “จอมปลอม” ก็ตาม แต่สำหรับเธอสภาพที่เป็นอยู่มัน “สนุก” อยากอยู่ไปนานๆ ขณะที่พี่ชายก็อยากกลับบ้านแบบเอาเปรียบคนอื่น แต่เมื่อประตูยังปิดก็รอไปก่อน เพราะยังหากินทางอื่นได้อีกมากมาย
00 ขณะเดียวกันถ้าจะว่าไปแล้วแนวทางให้ซื้อเวลาไปก่อนก็มีหลายคนในรัฐบาลที่อยากอยู่ในอำนาจนานๆก็เห็นด้วยกับแนวทางของ นายกฯยิ่งลักษณ์ นั้นเท่าที่เห็นก็มีรองนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง คนหนึ่งละ แม้ว่าจะอย่างไรก็ตามเขาก็ถือว่าเป็นคนที่อ่านเกมออกพอใช้ได้ ที่ทั้งไม่สนับสนุนให้ทำประชามติที่จะทำให้รัฐบาลติดหล่มและเสี่ยง โดยหนุนให้แก้ไขรายมาตราเหมือนกับที่ ปชป.เคยทำมาแล้ว ซึ่งเชื่อว่าผลที่ออกมาจะคุ้มค่ากว่าด้วยซ้ำไป
00ขณะที่พวก “แกนนำ” คนเสื้อแดง ที่แม้ว่านาทีนี้จะพยายามทำทีเป็นแข็งขันว่าจะต้องเดินหน้าโหวตวาระ3 ไม่ว่าจะเป็น จตุพร พรหมพันธุ์ ธิดา ถาวรเศรษฐ เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าต้องเล่นละครเอาใจมวลชนแบบนี้ไปก่อน แต่ในที่สุดแล้วทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับ ทักษิณ คนเดียว และคนพวกนี้ก็ไม่กล้าขัดขืนแม้ว่าในบรรดาแกนนำด้วยกันจะมีเป้าหมายในใจคนละอย่าง แต่ถึงอย่างไรนาทีนี้สถานะก็ไม่ต่างจาก “ขี้ข้า” โดยแท้ แต่ในเมื่อมันเป็น “ละครการเมือง” อย่างที่เคยว่าเอาไว้ก็ต้องเล่น “ตบตา”กันตามบทต่อไป
00 ดังนั้นภาพที่เห็นแสดงให้เห็นว่าเมื่อต้องมาทำประชามติซึ่งต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ และที่สำคัญเป้าหมายข้างหน้ายังไม่ชัวร์ แถมโอกาสพลาดยังมีสูงยิ่ง ซึ่งถึงตอนนั้นเอาเข้าจริงอาจสั่งยกเลิกเปลี่ยนแผนกะทันหันอีกรอบก็เป็นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความหมายก็คือยิ่งนานไปคนอย่าง ทักษิณ เริ่มคุมเกมไม่ได้ โดยเฉพาะน้องสาวตัวเองที่เริ่มสนุกกับ “หัวโขน” เริ่มสั่งไม่ได้ ขณะเดียวกันก็ไปบังคับขู่เข็ญไม่ได้มาก ไม่เหมือนกับลิ่วล้อคนอื่นที่ทุบโต๊ะได้ตลอดเวลา !!