“มาร์ค” จวกซ้ำดีเอสไอตั้งข้อหาสุดมั่ว ขอศึกษาข้อ กม.ก่อนฟ้องเอาผิด

“อภิสิทธิ์” ย้ำข้อกล่าวหาดีเอสไอสุดมั่ว เชื่อมีการตั้งธงมาตั้งแต่ต้น ขอดูรายละเอียดและข้อกฎหมายก่อนฟ้องกลับเพื่อให้ดิ้นไม่หลุด พร้อมบี้ “ธาริต” สอบภาพพิมพ์ลายนิ้วมือว่อนเน็ต ยันมีหลักฐานชัดใครถ่าย ขอบคุณ “ถวิล” ลูกผู้ชายแอ่นอกร่วมรับผิดในฐานะ ศอฉ. แนะ “ธาริต” ย้อนมองตัวเอง

วันนี้ (14 ธ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า พบความผิดปกติหลายอย่างทั้งในแง่มุมข้อเท็จจริงที่มีความคลาดเคลื่อนมากทั้งในเชิงข้อกฎหมาย ซึ่งไม่สอดคล้อง ขัดแย้งในการเลือกใช้ข้อกฎหมาย เช่น ความไม่ชัดเจนว่าแจ้งข้อหาตนในฐานะเป็นผู้ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรีหรือไม่ หรือพยายามสรุปรวมว่าเป็นการกระทำของคนคนเดียว

“เห็นว่าการทำงานของดีเอสไอครั้งนี้มีปัญหาเหมือนกับมีธงมา ทั้งการเลือกใช้ถ้อยคำสรุปกับการใช้แจ้งข้อกล่าวหา ก็ตรงกับที่รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์มานานแล้ว เป็นเรื่องธงทางการเมือง เช่นเดียวกับคดีอื่นที่มาแจ้งซ้ำก็หวังผลโดยตรงให้กระทบผมและพรรคประชาธิปัตย์ โดยขณะนี้็ต้องพิจารณารายละเอียดจากคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสอบสวน จึงค่อยตัดสินใจว่าจะมีการดำเนินคดีต่อใครอย่างไร เพราะต้องดูทั้งข้อกฎหมาย และรายละเอียดของคดี ซึ่งผมและนายสุเทพไม่ใช่สักแต่จะฟ้อง ถ้าฟ้องต้องมั่นใจว่าเป็นไปตามข้อกฎหมายทุกอย่าง”

ส่วนกรณีที่มีภาพพิมพ์ลายนิ้วมือหลุดออกมาถือเป็นความบกพร่องของดีเอสไอหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ระบุว่าจะตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพราะผู้ที่ยกกล้องขึ้นมาถ่ายทำหลังจากที่นายธาริตพูดชัดเจนว่าไม่ให้มีการถ่ายรูป เท่ากับเป็นการฝ่าฝืนสิ่งที่อธิบดีดีเอสไอพูดในทันที พร้อมยืนยันว่าภาพที่ออกมาไม่ใช่คนของพรรคประชาธิปัตย์เป็นคนถ่าย โดยในห้องมีพยานอยู่มาก อีกทั้งมุมที่ถ่ายตรงกับคนที่เราบอกว่าเป็นผู้ถ่าย ไม่สามารถมีคนอยู่ที่เดียวกันได้สองคน ซึ่งเจ้าตัวได้ระบุว่าลบภาพไปแล้ว แต่หลังจากนั้นออกจากห้องได้ไม่นานก็มีผู้รายงานว่ามีการนำภาพไปขึ้นอินเทอร์เน็ต โดยเมื่อ ส.ส.ของพรรคพบว่ามีการถ่ายภาพและทักท้วง ตำรวจนายดังกล่าวก็ลบภาพออกไป แต่ภาพที่ปรากฏทางอินเทอร์เน็ตเป็นคนละรูปกับที่ลบไป แสดงให้เห็นว่ามีการถ่ายไว้หลายภาพ ซึ่งเห็นชัดว่ามุมดังกล่าวมาจากที่ไหน จึงได้แจ้งนายธาริตที่ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ถ่ายภาพ และจะสอบสวนเรื่องนี้ จึงให้เวลาดีเอสไอสอบสวนเองก่อน เพราะเรื่องนี้ไม่ยาก ทั้งนี้เห็นว่านอกจากการกระทำดังกล่าวจะฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชาแล้วยังเป็นการละเมิดสิทธิผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วย

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงความไม่ชัดเจนในการแจ้งข้อกล่าวหาว่า จะต้องพิจารณาทั้งหมดว่าส่อเจตนาอะไร รวมถึงกรณีการถ่ายภาพซึ่งผู้ถ่ายก็ไม่มีหน้าที่ก็ยิ่งชัดเจนเข้าไปใหญ่ แต่ไม่ทราบว่าเขาคิดอะไร แต่ถ้ากล้าคิดกล้าทำทั้งที่อธิบดีดีเอสไอเพิ่งสั่งห้ามว่าไม่ให้ทำ

ทั้งนี้ยังกล่าวขอบคุณนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ที่ออกมาพูดตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความรับผิดชอบของ ศอฉ. เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงหลายอย่าง แต่ตนไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่มาเดือดร้อนกับเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าเจ้าหนาที่พยายามทำหน้าที่ดีที่สุดในการรักษาความสงบเรียบร้อย เพียงแต่กรณีของนายธาริตที่ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ดูขัดแย้งกับสายตาคนที่ทำงานอยู่ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่านายธาริตพยายามที่จะรักษาสถานภาพของตัวเองจึงต้องไปถามเจ้าตัวมากกว่าว่าผิดหวังกับตัวเองหรือไม่ ส่วนที่นายถวิลแนะนำให้ลาออก เจ้าตัวก็ยืนยันแล้วว่าจะไม่ลาออก