“สามารถ” เบรก ส.ว.สรรหายันแก้รายมาตราไม่ได้ ชี้เหลือ 2 ทางต้องเลือกโหวตผ่านหรือตก ซัดแก้ ม.237/117 ผูกขาดเอื้อนักการเมือง แนะอยากปลดล็อกมาตราใดให้รอเสนอ ส.ส.ร.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 6 ธ.ค. นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ตราบใดที่สมาชิกรัฐสภายังไม่มีการลงมติผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ขอยืนยันว่าที่ประชุมไม่สามารถจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราได้ตามที่กลุ่ม ส.ว.สรรหาเตรียมรวบรวมรายชื่อสมาชิกรัฐสภาเสนอญัตติต่อประธานรัฐสภาให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 และ 117 ยังค้างพิจารณาในวาระ 2 ดังนั้น สมาชิกมีหน้าที่ต้องลงมติต่อในวาระ 3 เท่านั้น ไม่ว่าจะลงมติให้ผ่านหรือลงมติให้ร่างดังกล่าวตกไปก็ตาม
นายสามารถกล่าวต่อว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่ม ส.ว.สรรหาที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ว่าด้วยการยุบพรรคการเมืองและมาตรา 117 เกี่ยวกับวาระการดำรงตำแหน่งของ ส.ว.นั้นพุ่งเป้าไปที่ผลประโยชน์ของนักการเมืองเพียงอย่างเดียว ทั้งที่มีอีกหลายมาตราของรัฐธรรมนูญที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ขอเสนอให้กลุ่ม ส.ว.สรรหาทบทวนแนวทางนี้แล้วหันมาสนับสนุนการลงมติวาระ 3 และเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพราะหากต้องการแก้มาตราใดก็สามารถเสนอความเห็นมายัง ส.ส.ร.ได้ เนื่องจากขั้นตอนระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญของ ส.ส.ร.ต้องรับฟังความเห็นของประชาชน
นายสามารถยังกล่าวอีกว่า กลุ่ม ส.ว.สรรหาอาจกังวลว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ส.ส.ร.อาจไปแก้ไขมาตราที่มาของศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ หรือมาตรา 309 แต่ขอยืนยันว่าระหว่างมีการยกร่างรัฐธรรมนูญ ส.ส.ร.ต้องฟังความเห็นประชาชนแน่นอนตามที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าระหว่างการร่างต้องรับฟังความเห็นของประชาชนทุกภูมิภาค และเมื่อร่างเสร็จก่อนกราบบังคมทูลให้ทรงลงพระปรมาภิไธย ต้องจัดทำประชามติรับฟังความเห็นประชาชนก่อนว่าจะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ดังนั้น ส.ส.ร.ไม่มีอำนาจผูกขาดตัดสินใจแก้มาตราใดด้วยตัวเอง ล้วนต้องผ่านกระบวนการที่มีประชาชนเข้าร่วมตัดสินใจและออกความเห็นได้ทั้งสิ้น
