xs
xsm
sm
md
lg

40 ส.ว.ค้านวาระ 3 หวั่นสงครามกลางเมือง แนะแก้แค่ยุบพรรค-เพิ่มวาระ ส.ว.เลือกตั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ส.ว.สายสรรหา แถลงต้าน รบ.เดินหน้าแก้ รธน.วาระ 3 เหตุกลัวปลุกขัดแย้ง เกิดสงคราม ปชช. แนะทางออกล่าชื่อ 1 ใน 5 สมาชิกสภาแก้ ม.237 เลิกยุบพรรค ม.117 ให้สิทธิ ส.ว.เลือกตั้งอีกรอบ เริ่ม 10 ธ.ค. ขอบรรจุต่อวาระ 3 ปัดแก้เพื่อตัวเอง ยกเหตุปลดชนวนขัดแย้งจากนักการเมืองเพื่อ ปชช. ย้อน รบ.แก้ ม.309 เพื่อนายใหญ่ เตือนลุยถึงมีนาฯ อาจเจอ ป.ป.ช.ฟันโกงจำนำข้าว รบ.ประสบวิกฤตหนัก “นิคม” รับ 40 ส.ว.ยื่นจริงกระทบวาระ 3

วันนี้ (6 ธ.ค.) ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน นายประสาร มฤคพิทักษ์ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ และนายนิรันดร์ ประดิษฐกุล ส.ว.สรรหา ร่วมกันแถลงหาทางออกให้แก่ประเทศ ในขณะที่สมาชิกรัฐสภาบางส่วนเสนอให้มีการลงมติเดินหน้าโหวตวาระ 3 เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ นายไพบูลย์กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะมีการเดินหน้าโหวตวาระ 3 เพราะจะทำให้ประเทศเข้าสู่วังวนเดิมของความขัดแย้ง เกิดวิกฤตทางการเมืองรอบใหม่ จนอาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคม และท้ายที่สุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะต้องล้มเลิกไป ดังนั้นรัฐสภาควรมีมติไม่ให้ความเห็นชอบในวาระ 3

นายไพบูลย์กล่าวอีกว่า ตนในฐานะ ส.ว.อยากเสนอทางออกเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนี้ คือจะริเริ่มรวบรวมรายชื่อ ส.ว.และส.ส.บางส่วนไม่น้อยกว่า 128 รายชื่อ ซึ่งไม่น้อย 1ใน 5 ของสมาชิก 2 สภา เพื่อเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 เกี่ยวกับการยุบพรรค และรัฐธรรมนูญมาตรา 117 เกี่ยวกับการจำกัดวาระในการสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาเลือกตั้ง เพราะการจำกัดให้ ส.ว.เลือกตั้งตำรงตำแหน่งเพียงวาระเดียว เป็นการกีดกันบุคลากรที่มีคุณภาพ ซึ่งญัตติดังกล่าวจะนำเข้าพิจารณาหลังจากที่รัฐสภามีมติไม่เห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ทั้งนี้ตนจะเริ่มรวบรวมรายชื่อในวันที่ 10 ธันวาคม โดยหวังว่าจะได้รับความมือจากสมาชิกวุฒิสภา โดยเมื่อรวบรวมรายชื่อได้ครบ จะเสนอญัตติดังกล่าวต่อประธานรัฐสภาเพื่อบรรจุเป็นระเบียบวาระเมื่อเปิดประชุมสมัยนิติบัญญัติทันที โดยญัตติดังกล่าวจะอยู่ลำดับหลังจากการลงมติวาระ 3 แก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม แนวทางที่ตนริเริ่มนั้นจะไม่สำเร็จ

ด้านนายประสารกล่าวว่า เป้าหมายของรัฐบาลที่จะแก้รัฐธรรมนูญ คือ มาตรา 309 เพื่อแก้เงื่อนไขที่เป็นปัญหาให้กับคนเพียงคนเดียว ซึ่งหากเดินหน้าและมีจังหวะให้รัฐสภาลงมติช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2556 อาจทำให้เกิดความขัดแย้ง และเมื่อดูจังหวะของการตรวจสอบเรื่องทุจริตโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาล ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับตรวจสอบและอาจมีมติในช่วงเดียวกัน อาจทำให้รัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับระเบิดถึง 2 ลูก ดังนั้นช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน 2556 ต้องระวังให้ดี

เมื่อถามว่าการแก้ไขในมาตรา 237 และมาตรา 117 เป็นการแก้เพื่อประโยชน์ของนักการเมืองแล้วประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร นายไพบูลย์กล่าวว่า ก็อาจจะมีข้อครหาว่าแก้เพื่อประโยชน์ตนเอง แต่ยืนยันว่าไม่ได้แก้เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน แต่เป็นการปลดชนวนความขัดแย้ง เนื่องจากมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากนักการเมือง เมื่อปลดล็อกตรงนี้่ได้ก็จะเกิดการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน สังคมโดยรวมก็จะได้ประโยชน์

ด้านนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ตนมองว่าเจตนาที่แท้จริงของกลุ่ม ส.ว.ดังกล่าวต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อยในสภาฯ แต่การเสนอญัตติอาจมีส่วนบ้างที่จะกระทบต่อการลงมติวาระ 3






กำลังโหลดความคิดเห็น