วอร์รูม พท.เฉ่ง “วราเทพ-ศันสนีย์” คุมสื่อรัฐไม่อยู่ ปล่อยออกข่าวเข้าข้าง “ม็อบเสธ.อ้าย” แถมไม่ถ่ายทอดสดประจานม็อบตามที่ ส.ส.พท.เสนอ เชื่อฝ่ายตรงข้าม “นช.แม้ว” ยังเคลื่อนไหวต่อ แต่รอหาแกนนำสานต่อภารกิจล้มรัฐบาล
นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย หนึ่งในคณะกรรมการประเมินผลจากการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ช่วงวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการฯ ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชชยชัย ว่าที่เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นประธานฯ ตำหนินายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแลบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ซึ่งบริหารทีวีช่อง 9 และ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่กำกับดูแลกรมประชาสัมพันธ์ ที่บริหารทีวีช่อง 11 ว่าเป็นความจริง ในการประชุมคณะกรรมการได้ตำหนิการทำงานของรัฐมนตรีที่ดูแลสื่อระหว่างการชุมนุมองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) โดยมีการพูดถึงการทำงานของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่ดูแลสื่อในช่วงที่มีการชุมนุมของกลุ่ม อพส.วันที่ 24 พ.ย.เนื่องจากการเสนอข่าวของสื่อต่างๆ ในวันนั้นส่วนใหญ่เข้าข้างม็อบ และบางสื่อก็เป็นสื่อของรัฐด้วย
นายก่อแก้วกล่าวว่า ที่ประชุมที่ได้มีการเปรียบเทียบการทำงานของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ลงไปดูสื่อทุกสำนักในระหว่างการชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ด้วยตัวเอง จึงมองว่ารัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่ดูแลสื่อของเราไม่ได้ทำหน้าที่ของตนเอง ซึ่งถือว่ามีปัญหา
ส่วนก่อนหน้านี้ที่จะมีการถ่ายทอดสดการชุมนุม เพราะเชื่อว่าการชุมนุมอาจจะมีการวางแผนก่อเหตุความรุนแรง โดยจะมีการถ่ายทอดสดให้เห็นว่าการชุมนุมเป็นไปในลักษณะแบบใด เพื่อให้ประชาชนเห็นด้วยตัวเอง และคิดว่ารัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ที่คุมสื่อเวลานี้ทราบความเห็นของคนในพรรคแล้ว และไปพิจารณาดูว่าครั้งต่อไปควรจะต้องทำอย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้รู้ว่า เราจะต้องแก้ปัญหาอย่างไร
นายก่อแก้วกล่าวถึงการเคลื่อนไหวของ อพส.หลังจากนี้ว่า ต้องยอมรับก่อนว่ากระบวนการกลุ่มคนไม่เอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรยังคงอยู่ เป้าหมายชัดเจนคือไม่เอา พ.ต.ท.ทักษิณ รวมถึงไม่เอารัฐบาลฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ แนวร่วมมีตั้งแต่อำมาตย์ไปถึงกลุ่มธุรกิจ และธุรกิจที่ผิดกฎหมายที่มาผสมโรง และเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธาน อพส.ไม่ได้ตามเป้าหมาย เชื่อว่าครั้งหน้าต้องหาคนอื่นมาขยับ เพียงแต่ตอบยังไม่ได้ว่าเป็นใคร เพราะคนที่จะมีศักยภาพในการนำมวลชน ประสานเครือข่ายทั้งหมดได้ยังมองไม่ออก คนที่มีศักยภาพอย่าง น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เป็นผู้วางแผนเกมนอกระบบ แต่ น.ต.ประสงค์ไม่ได้เป็นนักพูดดึงมวลชนได้ และอายุมากแล้ว ดังนั้นต้องมีคนอื่นแทน แต่ยังนึกไม่ออกว่าเป็นใคร การจัดกิจกรรมล้มรัฐบาลต้องใช้เหตุใช้ผล ต้องใช้เวลา อย่าง เสธ.อ้ายเป็นคนตรงไปตรงมา แต่ไม่เข้าใจการเมือง พูดว่าแช่แข็งประเทศไทยหยุดนักการเมืองไม่ให้มีการเลือกตั้ง 5 ปี ซึ่งมองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย และกระทบต่อพรรคประชาธิปัตย์ ไม่มั่นใจว่าถ้าล้มรัฐบาลได้แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะได้ประโยชน์จริงหรือไม่ ทำให้การชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.ไม่จัดคนเข้ามาร่วมด้วย