“อาคม” ซักฟอกซัดจำนำข้าวทำลายกลไกตลาด ฉะ “เหลิม” แหกตาประชาชน ให้กรมการค้าจัดฉากสอบโรงสีแล้วรายงานผิดๆ ส่งนายกฯ เจ้าตัวลุกสวน ยันไม่เคยตรวจด้วยตัวเอง อ้างทำงานแบบบริหารไม่ใช่หลงจู๊ ยันรัฐธรรมนูญไม่ได้บังคับให้ปฏิบัติตามคำแนะนำ ป.ป.ช. พร้อมถอดเทปตามจับ ด้าน “อภิสิทธิ์” เย้ยจ้อสอบตก
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่รัฐสภา การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันที่ 2 ในช่วงบ่ายยังคงเป็นการอภิปรายในเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยนายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การสวมสิทธิ์ข้าวและนำมาเข้าโครงการจำนำนั้นทำลายกลไกตลาด ระบบเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมโลก ทำให้ขาดรายได้จากการส่งออก และชาวนายังถูกเอารัดเอาเปรียบ ที่เวลาเอาข้าวไปเข้าโครงการจำนำของรัฐบาลกลับได้เงินเพียงแค่ 9,500-11,000 บาทต่อตันเท่านั้น ทั้งที่รัฐบาลประกาศเอาไว้ว่าจะได้รับถึง 15,000 บาทต่อตัน ซึ่งที่ผ่านมาทุกรัฐบาลจะต้องทำสัญญาระหว่างโกดังที่เก็บข้าวและต้องดูแลสภาพของข้าวด้วยด้วยสัญญาฝากเก็บโกดังเช่า แต่รัฐบาลนี้กลับทำเพียงแค่สัญญาเช่ากับทางโกดังเพื่อจัดเก็บสินค้า คุณภาพของข้าวจึงไร้คุณภาพ ร.ต.อ.เฉลิมแหกตาประชาชน โดยมีกรมการค้าเป็นผู้จัดฉาก เวลาลงไปตรวจสอบโรงสีจังหวัดละ 3 แห่ง และได้รายงานข้อมูลผิดๆ ไปยังนายกรัฐมนตรี
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวชี้แจงว่า มีความพยายามตั้งใจพาดพิงตน ซึ่งไม่เคยแหกตานายกรัฐมนตรี โดยตนไม่เคยลงไปตรวจโรงสีด้วยตนเอง เพราะบริหารงานแบบผู้บริหาร ไม่ใช่หลงจู๊ การที่ ป.ป.ช.มีหนังสือถึงรัฐบาลจริงด้วยความห่วงใยว่าจะมีการทุจริตในโครงการเกิดขึ้น แต่ไม่มีรัฐธรรมนูญมาตราใดที่ระบุว่า เมื่อ ป.ป.ช.แจ้งแล้วรัฐบาลจะต้องทำตาม ซึ่งทางคณะรัฐมนตรีก็ได้ประชุมหารือกันในเรื่องโครงการนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนเป็นประธานอำนวยการ แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจตราการทุจริตในทุกพื้นที่ ซึ่งข้อมูลที่นายอาคมนำมาอภิปรายในครั้งนี้ตนจะถอดเทปคำอภิปรายเพื่อติดตามจับกุมจากเบาะแสที่ได้ต่อไป รัฐบาลไม่เคยบอกว่าโครงการหรือนโยบายของรัฐบาลไม่มีข้อบกพร่อง ตนเป็นนักการเมืองที่ทำการย้ายมาพูดในสภาฯ ไม่ได้พูดเพื่อเอามัน
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้ชี้แจงว่า กรณีที่ ป.ป.ช.ส่งหนังสือมายังรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวนั้น เพราะเห็นว่าโครงการมีความสุ่มสี่ยงต่อการทุจริต และเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญของ ป.ป.ช.ซึ่งมีการส่งมายังรัฐบาลทั้งหมด 4 ครั้ง โดย 2 ครั้งคือประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตของโครงการ ส่วนอีก 2 ครั้งคือเรื่องราคากลาง ที่รัฐบาลส่งไปให้กฤษฎีกาตีความว่า ป.ป.ช.ไม่มีอำนาจ สิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิมชี้แจงก่อนหน้านี้นั้นเป็นความพยายามที่จะสร้างความสับสนเท่านั้น ร.ต.อ.เฉลิมอาจจะทำการบ้านมา แต่ถ้าตนเป็นครูคงจะให้สอบตก