“ปริญญา” กังขา ตร.รวบรัดขั้นตอนก่อนใช้แก๊สน้ำตา เล็งรายงาน กสม.

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เตรียมเสนอรายงานลงพื้นที่ดูม็อบเสธ.อ้าย ตำรวจใช้เครื่องขยายเสียงเบา ทำผู้ชุมนุมไม่ได้ยินประกาศมาตรการของรัฐ พร้อมตั้งข้อสังเกตตำรวจรวบรัดขั้นตอนก่อนใช้แก๊สน้ำตา ชื่นชม “เสธ.อ้าย” ยอมเสียเกียรติประกาศยุติการชุมนุม เพื่อปกป้องประชาชน

วันนี้ (26 พ.ย.) นายปริญญา ศิริสารการ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ตนเองได้เข้าร่วมสังเกตการการณ์ชุมุนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ตามคำเชิญของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม และตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เสนอว่าอยากให้องค์กรอิสระเข้าร่วมสังเกตการณ์ชุมนุม ซึ่งก็จะได้มีการทำรายงานเสนอต่อที่ประชุมกรรมการสิทธิมนุษยชนในสัปดาห์นี้เพื่อรวบรวมเป็นข้อเสนอต่อรัฐบาล

นายปริญญากล่าวว่า ที่ตนเห็นพบว่าการปะทะที่เกิดขึ้น กรรมการสิทธิต้องมองอย่างพยายามเข้าใจทั้งสองฝ่าย ประชาชนที่ถูกสกัดก็ต้องเห็นว่าตนเองถูกละเมิดสิทธิ ขณะที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาก็ต้องบอกว่าเพื่อปราบ แต่ทั้งนี้การที่ตำรวจกำหนดให้ประชาชนซึ่งต้องการเข้ามาร่วมชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ใช้ช่องทางสี่แยกกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ และแยกวัดเบญจมบพิตร ทำให้ประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดซึ่งไม่ทราบเส้นทางภายในกรุงเทพฯ เกิดความไม่สะดวกและมุ่งที่จะเข้าทางราชดำเนินกลาง ผ่านแยกสะพานมัฆวานรังสรรค์ เพื่อเข้าสู่ลานพระบรมรูปทรงม้า ส่งผลให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ขณะที่การประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าเสียงค่อนข้างเบา ทำให้ประชาชนที่ร่วมชุมนุมและที่เดินทางมาสมทบได้ยินการประกาศมาตรการต่างๆ ของรัฐไม่ชัดเจน

ส่วนมาตรการในการควบคุมฝูงชนจากการสอบถามประชาชนก็ทราบว่าตำรวจค่อนข้างรวบรัดแต่ละขั้นตอนก่อนที่จะมาถึงขั้นตอนการใช้แก๊สน้ำตา ทั้งที่ในทางปฏิบัติการปฏิบัติแต่ละขั้นตอนจะต้องทิ้งระยะเวลาไว้พอสมควร

อย่างไรก็ตาม ในการชุมนุมครั้งนี้พบว่าผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ไม่พกพาอาวุธมาร่วมชุมนุม เจ้าหน้าที่ตำรวจที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้ในการยืนเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม เป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะในการยับยั้งชั่งใจสูง ขณะที่การควบคุมตัวผู้กระทำผิดกฎหมายไปยังสถานที่ควบคุมที่คลอง 5 จ.ปทุมธานี ก็ได้รับรายงานจากรองเลขาธิการกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่เข้าไปดูแลก็พบว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบว่ามีการริดรอนสิทธิประชาชน

นายปริญญาได้กล่าวชื่นชม พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (เสธ.อ้าย) ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ที่ประกาศยุติการชุมนุม โดยระบุว่ายอมเสียเกียรติเพื่อปกป้องประชาชน เพราะการเป็นชายชาติทหาร การยอมเสียเกียรติเป็นเรื่องใหญ่ และเห็นว่าหากสิ่งที่เสธ.อ้ายพูดเป็นเรื่องจริง เช่น บ้านเรามีแต่นักการเมืองชั่ว นักการเมืองเลว ก็เชื่อว่าในอนาคตก็จะมี เสธ.อ้ายคนสองคนสามตามมา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการชุมนุมครั้งนี้รัฐบาลควรจะเยียวยาเหมือนการชุมนุมที่ผ่านมาหรือไม่ นายปริญญากล่าวว่า มีผู้ร่วมชุมนุมถามตนเช่นนี้เหมือนกันว่าหากตายจะได้ 7 ล้านหรือไม่ หรือถ้าบาดเจ็บก็ได้ตามสิทธิใช่หรือไม่ แต่ส่วนตัวยังมองว่าเป็นการชุมนุมเพียงแค่วันเดียวยังสรุปไม่ได้ คงต้องถามรัฐบาล แต่ถ้ามีเงื่อนไขที่เหมือนกันการเยียวยาไม่น่าจะต่างกัน