“บิ๊กตู่” จัด 24 กองร้อยรอคำสั่งหนุน ตร.คุม-ศอ.รส.ปูดม็อบขนน้ำกรด อาวุธจ่อลุย

นายกฯ สั่ง รมว.กห.จัดกองทัพเตรียมหนุนตำรวจ ขณะ ผบ.ทบ.สั่ง พล.1 รอ. พล.ม.2 รอ. พล.ปตอ.จัดรวม 24 กองร้อยพร้อมหนุน ตั้งวอร์รูมเกาะติด ด้านที่ประชุม ศอ.รส.ยันไม่มีนโยบายขวางม็อบ ไม่สลายชุมนุม อ้างพร้อมเปิดมัฆวานฯ ถ้าคนเยอะ แต่ตอนนี้มีแค่ 2 หมื่น ลานพระรูปยังพอ ปูดมวลชนขนน้ำกรด อาวุธร่วมลุย สรุปยอดจับไป 132 คน ขณะที่โฆษก บช.น.โชว์แก๊สน้ำตาป๋องเขียวตำรวจไม่ได้ใช้

วันนี้ (24 พ.ย.) มีรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) สั่งการมายัง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้กองทัพจัดเตรียมกำลังสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากไม่สามารถควบคุมดูแลสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ เบื้องต้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการไปยังกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และกองพลปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ให้จัดเตรียมกำลังกองพลละ 8 กองร้อย รวม 24 กองร้อย เตรียมพร้อมในหน่วยที่ตั้ง หากมีการร้องขอการสนับสนุน

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า พล.อ.อ.สุกำพล ได้สั่งการให้วอร์รูมกระทรวงกลาโหมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะกองทัพบกซึ่งเป็นหน่วยที่ใกล้กับสถานที่การชุมนุม ได้เตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยของหน่วย โดยให้ติดตามสถานการณ์จนกว่าการชุมนุมจะยุติลง

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เปิดเผยภายหลังประชุม ศอ.รส.ว่า มติในที่ประชุมไม่มีนโยบายที่จะขัดขวางการชุมนุม รวมถึงสลายการชุมนุมตามที่แกนนำประกาศแต่อย่างใด โดยทั้งนี้ หากการชุมนุมเป็นไปตามข้อตกลงคือ อยู่อย่างสงบไม่มีเหตุรุนแรง ตำรวจที่ดูแลจะอยู่แต่ในที่ตั้งเท่านั้น ทั้งนี้ จากเหตุปะทะในช่วงเช้าเป็นเพราะตำรวจกำหนดทางเข้า-ออกพื้นที่ชุมนุมอย่างชัดเจนแล้ว คือ ให้เข้าทางด้านแยก พล.1 รอ. ซึ่งใกล้กับสถานที่ชุมนุมมาก แต่ยังมีแกนนำ และผู้ชุมนุมบางส่วนเจตนาจะทำลายแนวกั้นด้านสะพานมัฆวานรังสรรค์ ทั้งๆ ที่คำประกาศของ ศอ.รส.ย้ำชัดเจนว่า หากมีผู้ชุมนุมจำนวนมาก ตำรวจก็พร้อมจะเปิดพื้นที่ที่ปิดกั้นไว้ให้ชุมนุมต่อไปได้ แต่ขณะนี้ยอดผู้ชุมนุมมีอยู่ประมาณ 1.8-2 หมื่นคนเท่านั้น และพื้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้ายังคงรองรับผู้ชุมนุมได้อีก

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า การข่าวแจ้งว่า ผู้ชุมนุมบางส่วนมีการเตรียมน้ำสมสายชู และน้ำกรดบรรจุขวดไว้จำนวนมาก อาจเป็นไปได้ว่ามีเจตนาจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ หรือสร้างสถานการณ์ในกลุ่มผู้ชุมนุมเอง รวมถึงยังมีการเตรียมขนอาวุธจำนวนหนึ่งเข้ามาในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครเพื่อสร้างสถานการณ์ และก่อเหตุความไม่สงบ ดังนั้น จึงขอให้ตำรวจตามจุดตรวจให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด และให้เฝ้าระวังการก่อเหตุในลักษณะดาวกระจายของผู้ชุมนุมด้วย

“ตำรวจยึดหนังสติ๊กกว่า 200 อัน พร้อมด้วยลูกแก้วในกลุ่มผู้ชุมนุม บอกได้ชัดว่ามีแกนนำบางส่วนรวมถึงผู้ชุมนุมต้องการยกระดับให้เกิดความรุนแรง และยังไม่ทำลายกล้องวงจรปิดของทางราชการอีกด้วย” พล.ต.ต.ปิยะกล่าว

โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ในส่วนผู้ที่ถูกควบคุมตัวไว้จำนวน 132 คนตามความผิดใน พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ศอ.รส.ย้ำว่า ให้พนักงานสอบสวนด้วยความเป็นธรรม พร้อมกับให้ดูแลอย่างเต็มที่ และเป็นพิเศษ ทั้งที่พัก อาหาร รวมถึงเรื่องสุขลักษณะ ทั้งนี้ หากผู้ที่ถูกสอบสวนยอมรับว่ากระทำผิดจริงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือถูกล่อลวงให้กระทำความผิดนั้นๆ พนักงานสอบสวนก็จะส่งเรื่องให้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะ ผอ.ศอ.รส. พิจารณาไม่สมควรถูกดำเนินคดี แต่ต้องเข้ารับการอบรมเป็นเวลา 6 เดือน

ทางด้าน พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล รองโฆษก ตร. กล่าวว่า สำหรับผู้ที่อาจจะถูกน้ำกรด หรือของเหลวปนเปื้อนโดนร่างกาย ให้ใช้น้ำเปล่าสะอาดรีบล้างบริเวณจุดที่โดน แต่ห้ามเกา หรือขยี้เด็ดขาดเพราะจะทำให้แผลใหญ่ขึ้น และให้รีบแจ้งพยาบาลใกล้เคียงเพื่อรีบปฐมพยาบาลเร็วที่สุด

ขณะที่ พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงว่า กระป๋องแก๊สน้ำตาสีเขียวซึ่งพบระหว่างที่มีการปะกันกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่มีรายละเอียดระบุด้านข้างถึงประเทศที่ผลิต ได้ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่มา ส่วนแก๊สน้ำตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นกระป๋องสีขาวแถบฟ้า ซึ่งเป็นแก๊สน้ำตาชนิดขว้าง แบบ 555 ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นแบบมาตรฐานสากล