ปชป.ประณามรัฐบาลใช้แก๊สน้ำตากับม็อบที่มาอย่างสงบ แถมสกัดกั้นทุกเส้นทางไม่ให้ประชาชนเข้าร่วมชุมนุม ซัดประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อปกป้องตัวเอง เชื่อรัฐบาลโหมสถานการณ์ให้แรงหวังใช้เป็นข้ออ้างเพื่อความชอบธรรมในการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และกฎอัยการศึก ห่วง “นายกฯ ปู” ใช้เหตุการณ์หนีซักฟอก เรียกร้องอย่าหนีปัญหาเข้าสภาฯ แจง
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างประชาชนที่จะมาเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดของรัฐบาลทุกกรณี ซึ่งขอประณามการกระทำของรัฐบาล ที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะมีการสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ทั้งเรื่องการตั้งด่านทุกเส้นทางที่จะเข้าสู่กรุงเทพมหานครและมีการประกาศ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ ทั้งที่เหตุการยังไม่เกิด และตนเห็นว่าในมาตรา 15 ของ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ นั้น จะประกาศได้ก็ต่อเมื่อมีเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร แต่เหตุการณ์ในขณะนี้ไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ เหตุใดจึงมีการประกาศ และผู้ชุมนุมเองก็ได้มีการประกาศว่า จะชุมนุมอย่างสงบปราศจากอาวุธ และไม่ยืดเยื้อ ดังนั้น จึงไม่เข้าข่าย พ.ร.บ.มั่นคง รัฐบาลจึงไม่มีสิทธิที่จะประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง
“อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ในฐานะที่เป็นประธาน กอ.รมน. ที่เป็นผู้บัญชาการสูงสุด นอกจากนี้ ในรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ยังระบุว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่ม อพส. ซึ่งผมเห็นว่า การประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เป็นการประกาศเพื่อความมั่นคงของรัฐบาลมากกว่า โดยใช้กฎหมายมาติดอาวุธให้แก่ตนเอง เพื่อรังแกทำร้ายประชาชน ซึ่งผมเชื่อว่าการกระทำเช่นนี้จะทำให้ประชาชนหลั่งไหลเข้ามาร่วมชุมนุมมากขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์การปะทะที่รัฐบาลบอกว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีอาวุธ กระสุนปืน มีด เชื่อว่าจากนี้ไปรัฐบาลก็จะใช้วิธีการกล่าวหาใส่ร้ายประชาชน เพื่อนำไปสู่การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรืออาจจะเลยไปถึงการประกาศกฎอัยการศึก โดยที่นายกฯ ไม่ต้องรับผิดชอบ หากเป็นจริงก็ถือเป็นแผนปฏิบัติชั่วที่สุดที่รัฐบาลทำกับประชาชน ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการออก พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ สามารถไปฟ้องศาลแพ่งเพื่อขอให้ถอนการประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงได้”
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปรากฏตัวบนเวที่รัฐสภาอย่าหนีการอภิรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านโดยอ้างการชุมนุม ซึ่งขณะนี้ มีแนวโน้มที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะใช้เหตุการณ์นี้หนีการอภิปราย ซึ่งหากเป็นจริงก็ถือว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นจากการรับผิดชอบเป็นผู้นำของประเทศ ดังนั้น จึงไม่เหมาะสมกับการกลับมาเป็นนายกฯ อีก ทางออกที่ดีที่สุดรัฐบาลควรยกเลิก พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงฯ แล้วควบคุมการชุมนุมให้เป็นไปตามกฎหมาย ส่วนนายกฯ ก็ควรใช้โอกาสนี้ตอบข้อสงสัยของฝ่ายค้าน และประชาชนหากมั่นใจว่าชี้แจงได้ก็ถือเป็นโอกาสดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่จะแสดงศักยภาพความเหมาะสมของการเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีทุกคำตอบให้แก่ประชาชน
ด้าน นายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน ส.ส.กทม. ในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีควรเชิญแกนนำ และองค์กรอิสระออกมาหารือเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน และปฏิบัติตามเงื่อนไขของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม คือ ดำเนินการกับเว็บไซต์ที่หมิ่นสถาบัน ทบทวนนโยบายของรัฐบาลที่ผิดพลาด จัดการการทุจริตคอร์รัปชัน ถอนญัติติการแก้รัฐธรรมนูญ รวมทั้งถอน พ.ร.บ.ปรองดอง โดยอาจกำหนดเวลาการดำเนินการให้แล้วเสร็จ เชื่อว่าจะไม่มีเงื่อนไขให้ผู้ชุมนุมออกมาชุมนุมอีก และสถานการณ์จะจบลงด้วยดี