โฆษกพิทักษ์สยาม ยันพร้อมปฏิบัติตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยันไม่ขัด ม.68 ชุมนุมปราศจากอาวุธ เผยยื่นหนังสือที่สถานทูตจีนแจงม็อบแล้ว โอ่สังคมออนไลน์ตอบรับร่วมดี ซัดฝ่ายมั่นคงบีบเบรกมวลชนสุดน่ารังเกียจ เผย “กองทัพธรรม” พร้อมรักษาความปลอดภัย แฉแดงเตรียมป่วน ไล่ตำรวจไปสอบแก๊งจัดเสื้อสีก่อเหตุ
วันนี้ (21 พ.ย.) ที่สนามม้านางเลิ้ง พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) แถลงถึงกรณีที่นายสิงห์ทอง บัวชุม อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ได้ร้องต่อศาลเพื่อให้มีคำวินิจฉัยสั่งให้องค์การพิทักษ์สยามยกเลิกการชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.ว่า หากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งใดๆ ออกมาไม่ว่าจะในแนวทางไหน ทางองค์การพิทักษ์สยามพร้อมจะปฏิบัติตามและจะไม่วิจารณ์คำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ข้อกล่าวหาของนายสิงห์ทองที่ระบุว่าการกระทำขององค์การพิทักษ์สยามอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 นั้น ยืนยันว่าไม่มีแนวความคิดที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าวแต่อย่างใด และยืนยันว่าจากรัฐธรรมนูญมาตรา 63 ได้ให้สิทธิในการชุมนุมโดยปราศจากอาวุธ โดยในวันนี้ตัวแทนกลุ่มยังได้เดินทางไปยังสถานทูตจีนเพื่อยื่นหนังสือนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย โดยจะชี้ให้เห็นถึงวัตถุประสงค์การชุมนุม และจะไม่กระทบกับการค้าการลงทุน หรือสนธิสัญญาต่างๆ ระหว่างประเทศอย่างแน่นอน
พล.อ.ท.วัชระกล่าวต่อว่า ในวันนี้การชุมนุมวันที่ 24 พ.ย.ได้รับการตอบรับจากประชาชนในสังคมออนไลน์ที่ได้แลกเปลี่ยนระหว่างกันเป็นจำนวนมาก และจากการข่าวที่มีการกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ กทม.ที่ได้เข้าไปสังเกตการณ์และพูดคุยกับแกนนำชุมชุนต่างๆ เพื่อไม่ให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุม รวมถึงการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีหนังสือถึงนายอำเภอ กำนันและผู้ใหญ่บ้าน เพื่อไปทำความเข้าใจประชาชนไม่ให้เคลื่อนไหวเข้าร่วมชุมนุมนั้น ถือเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ ที่เจ้าหน้าที่ของรัฐได้ใช้อำนาจรัฐกดดันประชาชนที่มีความตั้งใจ ขจัดการจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง การใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิด ไม่ให้ออกมาเคลื่อนไหว จึงขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ยึดถือความถูกต้อง อย่าได้ปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่การชุมนุมที่หลายฝ่ายมีความห่วงใยนั้น พล.อ.ท.วัชระกล่าวว่า ได้มีกำลังของกองทัพธรรม ผู้ที่มีประสบการณ์ และกลุ่มจิตอาสาที่จะคอยดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มผู้ชุมนุม และหากประชาชนมาร่วมเป็นจำนวนมากก็เชื่อว่ากลุ่มดังกล่าวพร้อมที่จะนำกำลังมาเสริมเพื่อความเรียบร้อย พร้อมกันนี้ได้มีการจัดเตรียมที่พักให้กับประชาชนที่เดินทางมา เนื่องจากอาจมีประชาชนที่ไม่สามารถเดินทางเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.แต่ต้องการมาร่วมชุมนุมในวันที่ 25 พ.ย.แทน
โฆษกองค์การพิทักษ์สยามกล่าวต่อไปว่า อยากจะขอร้องไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีข้อมูลของอันธพาล และผู้มีอาวุธในพื้นที่ต่างๆ ให้เข้าไปกดดันอย่าให้ออกมาเคลื่อนไหว เพราะหากมีเหตุการณ์รุนแรง สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเป็นจำเลยสังคม และทางองค์การพิทักษ์สยามยังได้รับการแจ้งข่าวจากผู้หวังดีที่ไม่ชอบความรุนแรงว่า มีกลุ่มคนเสื้อแดงเตรียมออกมาเคลื่อนไหวเพื่อให้สถานการณ์ มีความใกล้เคียงกับการป่วนเมืองเมื่อปี 52 และ 53 ด้วย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวต้องนำมาวิเคราะห์อีกครั้งว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนกระแสข่าวการจัดเตรียมเสื้อสีแดงให้ประชาชนใส่มาเข้าร่วมชุมนุมเพื่อก่อความไม่สงบนั้น ก็เป็นสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และหากเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานการรักษาความปลอดภัยกับการ์ดขององค์การพิทักษ์สยาม เพื่อดูแลความเรียบร้อยและไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้มาร่วมชุมนุม การชุมนุมก็จะเป็นไปอย่างสงบ