xs
xsm
sm
md
lg

ทำไมนักประชาธิปไตย (จอมปลอม) แบบแม้ว ถึงกลัวม็อบนัก!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

หลังจาก บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเดินทางกลับไปแล้ว และ นายกรัฐมนตรีสาวสวยของไทย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โชว์ยิ้ม ได้สร้างความสัมพันธ์ทางการทูตแบบใหม่ด้วยการส่งสายตา “หยาดเยิ้ม” ได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันไปเรียบร้อยแล้ว นาทีนี้ก็ต้องกลับมาสู่สภาพความเป็นจริง นั่นคือต้องเจอกับการชุมนุมขับไล่ของ “กลุ่มคนทนไม่ไหว” ในนามองค์การพิทักษ์สยาม ที่กำหนดดีเดย์ในวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน นำโดย “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์

แม้ว่าที่ผ่านมาช่วงการก่อนและระหว่างการเยือนไทยของประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามาจะสามารถช่วงชิงพื้นที่ข่าวกลบเกลื่อนไปได้ราวสัปดาห์ หรือถ้าบวกด้วยข่าว “ลอบสังหารติงต๊อง” ก่อนหน้านั้นก็เบี่ยงเบนความสนใจไปได้อีกวันสองวัน แต่ถึงตอนนี้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่อาจหลีกเลี่ยงความจริงดังกล่าวไปได้อีก

หากพิจารณาจากอารมณ์ความรู้สึกของชาวบ้านทั่วไปเวลานี้เริ่มมีปฏิกิริยาไม่พอใจกับพฤติกรรมของคนในรัฐบาล คนในเครือข่ายรัฐบาลรวมไปถึงคนที่ชักใยอยู่ข้างนอก นั่นคือ ทักษิณ ชินวัตร มากขึ้นเรื่อยๆ จนทำท่ากลายเป็น “อารมณ์ร่วม” แบบรวมพลคนทนไม่ไหวดังกล่าว อารมณ์ที่เกิดขึ้นเวลานี้ส่วนใหญ่เริ่มเหลืออดกับสารพัดปัญหาที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ “ทักษิณคิด” นโยบายประชานิยมเริ่มไม่ศักดิ์สิทธิ์เหมือนก่อน เพราะคราวนี้ไปเกี่ยวข้องกับ “ต้นทุน”ของ นายทุนเข้าไปเต็มๆอย่างเรื่องค่าแรงวันละ 300 บาท ซึ่งถือว่าเป็นการหาเสียงกันแบบง่ายๆ แต่คนที่ “จ่าย” กลับเป็นภาคเอกชน ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้านกันแบบคลื่นใต้น้ำไปทั่ว ปัญหาค่าครองชีพข้าวของแพง ราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานนักปัญหาที่ซ่อนเอาไว้ก็จะประจานออกมาให้เห็นมากกว่านี้อีก

นอกจากนี้ยังมีความไม่พอใจสะสมจากความ “กร่าง” ของสมุนลิ่วล้อ ที่ได้รับการตอบแทนจากการเผาบ้านเผาเมืองเป็นบำเหน็จทั้งตำแหน่งรัฐมนตรี ตำแหน่งทางการเมืองได้เงินเดือนค่าตอบแทนจากเงินภาษีของชาวบ้านอย่างไม่เป็นธรรม ความไม่เอาไหนของนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นับวันยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่าเธอไม่ได้มีพื้นฐานความรู้ มีบุคลิกสำหรับผู้นำประเทศ ทั้งในและเวทีระหว่างประเทศ เหมาะที่จะเป็นนางแบบแต่งตัวฉุยฉายกรีดกรายไปวันๆเท่านั้น ไม่ได้มีแก่นสารเลยแม้แต่น้อย

สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนเป็นสาเหตุทำให้มีคนทนไม่ไหวเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ บางคนที่ไม่เคยออกมาร่วมชุมนุม แต่เมื่อได้เห็นพฤติกรรมของคนพวกนี้ บางคนมีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์กลับยังลอยหน้าลอยตา มันก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์โกรธ

อย่างไรก็ดี หากว่าไปแล้วการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่เป็นมวลชนคนทนไม่ไหวกำหนดดีเดย์ในวันที่ 24 พฤศจิกายน รวมไปถึงจะเป็นกลุ่มใดก็ตามหากจะทยอยออกมาขับไล่รัฐบาล หากเป็นการชุมนุมโดยสงบ ก็สามารถทำได้ เพราะได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เป็นการใช้สิทธิ์โดยชอบ

ตรงกันข้ามกับฝ่ายรัฐบาล พรรคเพื่อไทย ทักษิณ ชินวัตร และคนเสื้อแดง ที่ปากจะอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตยทุกลมหายใจเข้าออก อีกทั้งรัฐบาลชุดปัจจุบันก็มาจากม็อบ จากการชุมนุม เพียงแต่แตกต่างกันก็คือม็อบของรัฐบาลชุดนี้เป็นม็อบก่อการร้าย จงใจทำร้ายระบบเศรษฐกิจของประเทศจากเจตนาที่ไปปักหลักตั้งเวทีปิดแยกราชประสงค์ เพราะบริเวณแถบนั้นไม่มีสัญลักษณ์ทางอำนาจรัฐ เช่น ทำเนียบรัฐบาล หรือสภา แต่เป็นหัวใจเศรษฐกิจสำคัญ เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาล ดังนั้นจะพิจารณาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เป็นการชุมนุมที่ถือว่าคนสั่งการอยู่เบื้องหลังมีความอำมหิตเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด

ถามว่าทำไมหากคนในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นเจ้าของรัฐบาลเป็นนักประชาธิปไตยที่แท้จริง จะหวั่นไหวทำไมกับคนที่ออกมาแสดงปฏิกิริยาไม่พอใจการบริหารราชการแผ่นดิน เพราะพวกเขาออกมาชุมนุมตามสิทธิ์ ก็ต้องรับฟัง ไม่ใช่อ้างว่าตัวเองได้รับเลือกมาแล้วก็ต้องกอดสภา กอดทำเนียบฯ ไปจนครบ 4 ปี แล้วปล่อยให้ทำอะไรโง่ โกงๆ อย่างไรก็ได้ ให้ทนไปจนครบวาระอย่างนั้นหรือ

ปากที่อ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตย ทำไมจิตใจคับแคบ เห็นการชุมนุมจากฝ่ายตรงข้ามกลายเป็นเรื่องของการ รับจ้าง เกณฑ์กันมา รวมทั้งมีการสร้างข่าว ข่มขู่ ขัดขวางไม่ให้ชาวบ้านเข้าร่วมสารพัด ทำไมไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะยิ่งห้ามมันก็เหมือนยิ่งยั่วยุทำให้เกิดความเกลียดชังเพิ่มมากขึ้นไปอีก

กลายเป็นว่าเป็นการเรียกแขกเชิญชวนให้คนออกมามากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นอย่าได้แปลกใจที่คนในรัฐบาลกำลังใช้ “วิชามาร” มากเท่าใดก็ยิ่งเป็นแรงกระตุ้นให้มวลชนคนทนไม่ไหวออกมามากขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน!!
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
กำลังโหลดความคิดเห็น