โหรประจำองค์การพิทักษ์สยาม เผยใช้ฤกษ์ 24 พ.ย. 2012 เวลา 9.01 น.หมายถึง “การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่” ระบุ “การแช่แข็งประเทศ” ไม่ใช่การฉีกรัฐธรรมนูญ หรือปฏิวัติ แต่จะเป็นวิธีลงโทษนักการเมือง ใช้ ม.7 ขอนายกฯ พระราชทาน ตามฉันทามติประชาชน มั่นใจมวลชนเข้าร่วมไม่ต่ำกว่า 5 แสน พร้อมปิดเกมในวันเดียว ส่วนนายกฯ จะเป็นคนยศ “น.ต.” หรือไม่ไม่แน่ใจ
นายกรหริศ บัวสรวง โหรประจำกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) กล่าว ถึงการรวมตัวของกลุ่ม อพส.ว่า เริ่มตั้งแต่เดือน มิ.ย.ปีนี้ โดยมีการทำพิธีทำบุญทั้งประเทศพร้อมกัน 77 จังหวัด ซึ่งประสบความสำเร็จมากที่ท้องสนามหลวง โดยตนให้ฤกษ์เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันบรวงสรวง คนก็มานับหมื่น ส่วนบางจังหวัดก็ทำพิธีพร้อมกัน แต่หลายจังหวัดถูกสกัดกั้น จึงทำพอเป็นพิธี ต่อมาตนก็อยู่ในองค์การนี้ได้ทำเกี่ยวกับการติดต่อประสานงานนักการเมืองที่คุ้นเคย อำนวยความสะดวกต่างๆ เพราะเรารู้จักคนเยอะ ตนเป็นสิงห์ดำ ส่วนแนวทางการกำหนดยุทธศาสตร์ของ อพส.ก็เข้าไปมีส่วนร่วม อยากบอกว่า สิ่งที่ประชาชนไม่เข้าใจคือ “การแช่แข็งประเทศ” มันไม่ใช่แบบนั้น แต่เราต้องการลงโทษนักการเมือง
“จากวันที่ 16 มิ.ย. ที่ให้ฤกษ์และคนมาเป็นหมื่น ประสบผลสำเร็จ จึงให้ฤกษ์เพื่อเคลื่อนต่อคือวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่สนามม้านางเลิ้ง วันนั้นมากันเกือบ 7 หมื่นคน วันนั้นเรียกว่า บูรณฤกษ์ กับวันที่ 24 พ.ย.นี้ ก็ให้ฤกษ์เวลา 9.01 น. ซึ่งเราจะทำพิธีบวงสรวง บอกกล่าวว่าสิ่งที่พวกเราทำก็เพื่อประเทศชาติ รัฐบาลนี้หมดความชอบธรรม ผมจะเป็นคนอ่านโองการเองในช่วงเวลาดังกล่าว จากนั้น พล.อ.บุญเลิศก็จะขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชน”
นายกรหริศคาดว่า วันที่ 24 พ.ย.นี้จะมีมวลชนมากันหลักแสน-หลักล้าน ต่ำสุดประมาณ 5 แสนคน วันนั้น 24 เดือน 11 ปี 2012 เมื่อนำตัวเลข 2+0+4+7 มาบวกกันจะเท่ากับ 13 หมายความว่า Transformation ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หรือการผ่าตัดครั้งใหญ่
“ถ้าคนมาหลักแสน-หลักล้านจะปิดเกมวันนั้นเลย จะมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ จะสแกนทุกอย่างออกมาทุกชั่วโมง แต่ตอนนี้คงยังบอกไม่ได้ จะให้รัฐบาลและคนสำคัญที่มีตำแหน่งสำคัญ ได้รับทราบทุกระยะว่ามีเหตุการณ์แบบนี้ ประชาชนมีฉันทามติว่าไม่เอาแล้วรัฐบาลชุดนี้ และนำเสนอตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่ได้เป็นการฉีกตัวรัฐธรรมนูญแน่นอน และไม่ใช่ให้ทหารปฏิวัติ แต่จะเป็นการให้นายกฯปู (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ลาออก และขอพระราชทานนายกฯตามมาตรา 7” นายกรหริศกล่าว
นายกรหริศกล่าวอีกว่า นายกฯ พระราชทาน มาตรา 7 จะเป็นใคร ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ แต่เราจะเร่งรัดคดีความต่างๆ ให้รวดเร็ว จะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าพลเรือนหรือทหาร แต่ความจริงควรเป็นทหาร หรือมีเชื้อสายของทหาร เพราะดวงเมืองเราเป็นอย่างนั้น ซึ่งจะเป็น “น.ต.คนหนึ่ง” หรือไม่ ก็ไม่แน่ใจ