พท.ยันไม่มีใบสั่งเลือก หน.พรรค-ขอ “บุญเลิศ” เปิดใจ ยันจงรักภักดี-ป้อง “ปู” ปัดหนีซักฟอก

รองโฆษกเพื่อไทยแจง 30 ต.ค.สมาชิกเลือก หน.พรรค ปัดนายใหญ่จิ้มให้ คาด กก.พรรคไม่เกิน 29 คน-ลั่น รบ.ลุยปราบเว็บหมิ่น อ้างโพล ปชช.ยังหนุน วอนพิทักษ์สยามใจกว้าง แนะปรับสนามม้าจากอบายมุขเป็นกีฬา-ชี้ “ยิ่งลักษณ์” มีหมายบินไปนอกอยู่แล้ว อ้างนานาชาติขอ ไม่เกี่ยวเลี่ยงอภิปราย

วันนี้ (27ต.ค.) ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ วันที่ 30 ต.ค.ว่า จะมีสมาชิกพรรคผู้ใช้สิทธิลงคะแนนประมาณ 300 คน ได้แก่ สมาชิกพรรคทั้งรัฐมนตรี ส.ส. ตัวแทนสมาชิกกลุ่มต่างๆ โดยเปิดโอกาสสมาชิกพรรคลงคะแนนอย่างอิสระ ไม่มีใบสั่ง ปฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเคร่งครัด จะเริ่มเลือกตำแหน่งหัวหน้าพรรคก่อน โดยที่ประชุมจะเสนอชื่อผู้เหมาะสม และที่ประชุมให้การรับรอง จากนั้นจึงหย่อนบัตรลงคะแนน ส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคที่เหลือจะพิจารณาเลือกทีเดียวพร้อมกันหมด จะมีคณะกรรมการบริหารพรรคไม่เกิน 29 คน

รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการชุมนุมขับไล่รัฐบาลของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 28 ต.ค.ที่สนามม้านางเลิ้งว่า พรรคเคารพในสิทธิการชุมนุม แต่ขอให้การชุมนุมเป็นไปตามกรอบกฎหมาย เคารพสิทธิประชาชนทั่วไปที่ไม่เข้าร่วมการชุมนุม ข้อกล่าวหาขององค์การพิทักษ์สยามทั้งการไม่จงรักภักดีนั้นไม่เป็นความจริง ยืนยันรัฐบาลมีความจงรักภักดี ได้ปราบ ปรามเว็บไซต์ไม่เหมาะสมไปแล้ว 7 หมื่นยูอาร์แอล ส่วนที่อ้างว่าประชาชนทนไม่ไหวกับการบริหารประเทศของรัฐบาลก็ค้านกับผลสำรวจโพลต่าง ๆที่ระบุตรงกันว่าประชาชนพอใจและยังให้โอกาสรัฐบาลทำงานต่อไป ขอให้องค์การพิทักษ์สยามเปิดใจกว้าง รับฟังความเห็นต่าง ส่วนที่บอกว่าจะเปลี่ยนสนามม้าเป็นสนามกู้ชาตินั้น กลุ่มคนที่มาร่วมชุมนุมล้วนเป็นผู้ใหญ่ น่าจะใช้ศักยภาพเปลี่ยนสนามม้านางเลิ้งที่มีภาพลักษณ์เป็นแหล่งอบายมุขเป็นสนามกีฬาจะดีกว่า เพื่อให้ได้รับความชื่นชมมากกว่านี้

ร.ท.หญิง สุณิสา ยังกล่าวถึงกรณีพรรคประชาธิปัตย์โจมตี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปต่างประเทศช่วงเดือน พ.ย.เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ไม่เป็นความจริง เพราะกำหนดการเดินทางไปต่างประเทศในช่วงดังกล่าว มีการกำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งเป็นตารางเวลาที่เป็นความต้องการร่วมกันของนานาชาติ นายกฯไม่สามารถกำหนดเวลาได้เพียงฝ่ายเดียว ยืนยันนายกฯไม่ได้หนีการอภิปราย และเชื่อว่าจะสามารถบริหารเวลามาฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้