แกนนำ 40 ส.ว.ระบุ ประมูล 3 จี ส่อขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 47 ระบุหากปล่อยให้ กทค.ออกใบอนุญาต 3 จี และคลื่นความถี่อื่น จะยิ่งเป็นการขัด รธน.เตรียมทำหนังสือถึงผู้ตรวจการฯ เสนอเรื่องให้ ศาล รธน.วินิจฉัย
ที่รัฐสภา วันนี้ (20 พ.ย.) มีการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว กล่าวว่า จากการตรวจสอบการทำหน้าที่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามพ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม(พ.ร.บ.กสทช.) มาตรา 40 บัญญัติให้คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม(กทค.) ทำการหรือปฏิบัติการใดๆแทน กสทช. ในส่วนที่เกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคม และมาตรา 27 (4) เรื่องการให้อำนาจพิจารณาอนุญาตใช้คลื่นความถี่นั้น ตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่าน่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 47 ที่บัญญัติให้มีองค์กรของรัฐที่เป็นอิสระองค์กรหนึ่งทำหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งหมายถึง กสทช. ไม่ใช่ กทค.
นอกจากนั้นรัฐธรรมนูญมาตรา 305 (1) บัญญัติว่าให้คณะกรรมการเฉพาะด้านซึ่งหมายถึง กทค. เป็นหน่วยย่อยภายในองค์กร กสทช. แยกต่างหากจากกัน ทำหน้าที่กำกับการประกอบกิจการโทรคมนาคมเท่านั้น ไม่ให้ทำหน้าที่อนุญาตจัดสรรคลื่นความถี่ และรัฐธรรมนูญมาตรา 6 บัญญัติว่ากฎหมายใดที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ บทบัญญัตินั้นเป็นอันใช้ไม่ได้ จึงเห็นว่าหากปล่อยเรื่องนี้ไปและให้ กทค.ออกใบอนุญาต 3 จี หรือคลื่นความถี่อื่นจะเป็นการขัดรัฐธรรมนูญในภายหน้า หากมีการตีความในอำนาจดังกล่าวจะมีปัญหาเกิดความเสียหายต่อส่วนรวม
ดังนั้นจะทำหนังสือถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 245(1) ว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายใดมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ให้คณะผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องพร้อมความเห็นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยต่อไป โดยตนจะไปยื่นภายในสัปดาห์หน้า