ผ่าประเด็นร้อน
จะเป็นเพราะว่าคนอื่นจะทำเลวเหมือนตัวเอง หรือว่าเกิดอาการกลัวจนสติแตก แล้วกลัวว่าตัวเองกำลังจะสิ้นอำนาจหรือเปล่า ทำให้ต้องงัดเอาสารพัดวิชามารออกมาใส่ร้ายโจมตีฝ่ายตรงข้าม คิดว่าจะทำเหมือนกับที่เคยทำมาก่อน ทำร้ายบ้านเมืองจนป่นปี้
ถามว่ามีใครสักกี่คนเชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คนในครอบครัวชินวัตร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง เมื่อปี 2552 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2553 แล้วถามว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงดังกล่าว เป็นการชุมนุมโดยสงบหรือไม่ มีการเผาบ้านเผาเมือง เผาศาลากลาง หรือไม่
เชื่อหรือไม่ว่า มี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระดมมวลชนมาชุมนุมในนามของกลุ่มคนเสื้อแดง ถ้าเชื่อในทุกเรื่องดังกล่าว นั่นก็ต้องสรุปว่า เสื้อแดง-ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์-พรรคเพื่อไทย เป็นพวกเดียวกัน แล้วร่วมกันเผาบ้านเผาเมือง เป็นการชุมนุมใช้ความรุนแรงผิดกฎหมาย
เมื่อสรุปอย่างที่เห็นแล้วว่าเป็น “พวกเดียวกัน” ก็ไม่ต้องพูดอะไรกันมาก ต่อไปนี้ก็ต้องถือว่า หากใครมีความรู้สึกอย่างไรก็แสดงออกมาอย่างเต็มที่ ตราบใดที่ไม่ผิดกฎหมาย และเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นสิทธิอันชอบธรรม
การชุมนุมของกลุ่มที่เรียกว่า “องค์การพิทักษ์สยาม” ที่นำโดย “เสธ.อ้าย” พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ กำหนดดีเดย์ วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน ได้สร้างความหวั่นไหวให้กับ ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รัฐบาลหุ่นเชิด ที่นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของตัวเอง เพราะกำลังระดมสมอง ปล่อยวิชามาร มีทั้งบิดเบือน ใส่ร้ายป้ายสี มีทั้งใช้อำนาจข่มขู่ ซึ่งเชื่อว่ายิ่งใกล้วันชุมนุมมากเท่าไหร่ ก็จะเห็นวิธีการแปลกๆ ออกมาให้เห็นถี่ยิบมากขึ้นเรื่อยๆ
หลายคนอาจรู้สึกทุเรศ สมเพชเวทนากับคำพูดของคนในรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พูดเหมือนกับท่องโพยแบบไม่คิดว่าให้ชุมนุมกันโดยสงบไม่อยากให้ออกมานอกสภา มีปัญหาให้แก้ไขกันในสภา ได้ยินแล้วแทบอ๊วก เพราะทำราวกับว่าตัวเองไม่เคยขึ้นเวทีม็อบเสื้อแดง ไม่เคยร่วมงานเลี้ยงสมาชิกเสื้อแดงก่อนม็อบใหญ่ จนปรากฏภาพที่มีการ “โอบไหล่โอบหลัง” หมิ่นเหม่อย่างที่เห็นหรอก
หรือทุเรศกับคำปลุกระดมของทักษิณ ชินวัตร ที่บอกว่า “ถ้าเกิดอะไรขึ้นให้พี่น้องไปพบกับที่หน้าหน้าศาลากลาง” แล้วผลที่ตามมาก็คือ มีการเผาศาลากลางในหลายจังหวัด รวมทั้งสะอิดสะเอียดกับการออกมาเตือนไม่ให้พรรคการเมืองอื่นขนคนมาร่วมชุมนุม ทำราวกับว่าพรรคเพื่อไทยไม่เคยทำ
ก่อนหน้านี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีการลงขันกัน 6 พันล้าน หนุนการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ก็ยิ่งชวนอ๊วกไปใหญ่ แต่อีกด้านหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความจำสั้น หรือพูดเรื่อยเปื่อยไปตามบทบาทให้ดูสมจริงสมจัง เผื่อหวังฟลุ๊กว่าจะมีคนเชื่อคล้อยตาม ทำราวกับว่าทักษิณและคนในครอบครัวชินวัตรไม่เคยหนุนช่วยม็อบเสื้อแดงสักบาทงั้นแหละ
อย่างไรก็ดี ก็เป็นที่เข้าใจได้ดี เพราะพฤติกรรมทั้งก่อนและหลังเป็นรัฐบาลได้สร้างความเกลียดชัง ความห่วยแตก ดีแต่โม้ ดีแต่คุย ไม่สมราคา กว่าหนึ่งปีที่เข้ามาใช้อำนาจรัฐบริหารบ้านเมือง มีแต่ความล้มเหลว มีแต่ข่าวคอร์รัปชัน คนในครอบครัวได้ประโยชน์ ตลอดเวลาคิดแต่เรื่องหาทางช่วย ทักษิณ ชินวัตร ให้พ้นผิด ทำตัวเป็นอภิสิทธิ์ชน “หลอกต้ม” ชาวบ้านไปวันๆ ทำให้นับวันมีแต่เกลียดชัง มีคนรู้ทัน มันก็ต้องมีอาการหวาดผวาอย่างที่เห็น กลัวว่าคนอื่นเขาจะทำแบบเลวๆ อย่างที่พวกตัวเองเคยทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคราวนี้ตัวเองเป็นรัฐบาล กำลังสนุกสนานกับการปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมือง กลัวว่าจะเสียอำนาจ กลัวไปสารพัด
หรือว่าข้ออ้างที่มักแปะเอาไว้ตรงหน้าผาก เรื่องประชาธิปไตย จะใช้ได้เฉพาะคนเสื้อแดง และ ทักษิณ ชินวัตร ฝ่ายเดียวเท่านั้น ถ้าคนอื่นออกมาต่อต้าน ได้เห็นความไม่ชอบ ความเลวของรัฐบาล กลายเป็นว่าเป็นพวกที่ทำผิดกฎหมายไปเสียอีก ทั้งที่สิ่งที่ตัวเองกำลังกระทำอยู่ได้สะสมความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่รู้ทันมากขึ้นทุกวัน คำพูดของนายกฯยิ่งลักษณ์ บอกว่าทุกอย่างให้ไปแก้ไขกันในสภา แต่ถามว่าที่ผ่านมาเธอเคยให้ความสำคัญกับสภาแค่ไหน เคยไปตอบกระทู้สักกี่ครั้ง บอกว่าให้คนอื่นชุมนุมด้วยความสงบ ก็อยากถามกลับไปว่าที่ผ่านมาการชุมนุมของคนเสื้อแดงเข้าข่าย “สงบสันติ” หรือไม่ ประเภท “เผาเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง” แล้ววันนี้รับผิดชอบแบบไหน
ดังนั้น ป่วยการที่จะพูดออกมา เพราะยิ่งพูดก็เหมือนกับการยั่วยุให้ชาวบ้านออกมาต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น และวันที่ 24 พฤศจิกายน เป็น “วันแห่งความเกลียด” คนที่ไม่ชอบ ทักษิณ และเครือข่ายต้องออกมา!!