“ตู่” เปิดทาวน์เฮาส์หรูโชว์กรุเครื่องราง-ศัสตราวุธเต็มบ้าน อ้างยึดเหนี่ยวยามรบ

แกนนำ นปช.เปิดบ้านหรูย่านวัชรพล แต่งบิลด์อินเน้นไม้สัก พบเทวรูปยักษ์ พร้อมหัวโขนรามเกียรติ์ครบชุด โละห้องหนังสือแปรสภาพ “โซนกษัตริย์นักรบและเทพ” ชั้นบนสุดจัดวางโต๊ะหมู่บูชา อ้างส่วนใหญ่เช่ามาราคาถูก พี่น้องเสื้อแดง และพระเกจิดังมอบให้ เผย สมัยเป็นเด็กวัดบวรฯ ไม่เคยแขวนพระ พอออกรบเสื้อแดงก็ไหลมาเทมา เผยรู้สึกร่มเย็น

เมื่อวันที่ 12 พ.ย.เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ ได้ตีพิมพ์รายงานพิเศษ เครื่องราง-ศัสตราวุธยึดเหนี่ยวนักรบ “จตุพร” โดย นายธรรมสถิตย์ ผลแก้ว ซึ่งนำเสนอเกี่ยวกับการเยี่ยมชมบ้านพักของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งอยู่ภายในหมู่บ้านวิสต้า ปาร์ค ซอยวัชรพล 10 ซึ่งภายนอกเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น เลขที่ 99/92 หมู่ 4 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กทม.ซึ่งอยู่เกือบสุดซอย ปลูกต้นไม้สูงใหญ่มองไม่เห็นตัวบ้าน รั้วรอบทำจากไม้สักอย่างดี มีกล้องวงจรปิดเก็บภาพความเคลื่อนไหวภายนอกตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเข้าไปด้านในบ้าน พบเทวรูปขนาดใหญ่เรียงรายอยู่เบื้องหน้า และพบตู้โชว์ไม้สัก ภายในเก็บรักษาหัวโขนตัวละครรามเกียรติ์ครบชุด ซึ่ง นายจตุพร กล่าวพร้อมหัวเราะว่า “พอเปิดบ้านเข้ามาเจอหัวโขนก็เหมือนเตือนใจตัวเอง”

เมื่อชมจุดอื่นๆ ของบ้าน พบว่า โดยรอบมีการกรุผนังบ้าน ติดตั้งบิวด์อินเน้นไม้สัก เมื่อมาถึงบริเวณห้องโถง ก็พบวัตถุโบราณที่แกะสลักจากไม้เนื้อแข็งอายุหลายร้อยปี เช่น พญาหงส์ที่แกะสลักจากไม้สักทั้งต้น ซึ่ง นายจตุพร กล่าวว่า ชิ้นนี้มาจากบ้านถวาย จ.เชียงใหม่ ถือเป็นงานละเอียดมาก ส่วนใหญ่ตนจะซื้อมาแบบลดแหลก เราชอบเขาก็อยากให้ นอกจากนี้ ยังมีกลองยักษ์ที่ทำจากไม้ตะเคียน และฆ้องยักษ์ทองเหลือง ซึ่ง นายจตุพร เปิดเผยว่า ได้มาจากพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี โดยกล่าวสั้นๆ ว่า ซื้อมาในราคาถูก

เมื่อขึ้นไปบนชั้นสอง พบว่า บริเวณปีกขวาซ้ายจากที่เคยเป็นห้องหนังสือ ถูกปรับแต่งเป็นสถานที่เก็บโบราณวัตถุ ซึ่ง นายจตุพร เรียกว่า โซนกษัตริย์นักรบและเทพที่เกี่ยวข้อง พบรูปปั้นหล่อสำริด มหาราชนักรบไทยตั้งเรียงราย อาทิ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เจ้าพระยาพิชัยดาบหัก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะที่ริมผนังห้องมีการจัดวางศัสตราวุธสมัยโบราณ อาทิ พระแสง หอก ง้าว ดาบอรัญญิก ซึ่ง นายจตุพร กล่าวว่า วัตถุโบราณเหล่านี้ ส่วนใหญ่พี่น้องเสื้อแดงนำมามอบให้ในช่วงที่เดินทางไปปราศรัยตามที่ต่างๆ ผ่านพื้นที่ทางเดินเชื่อมไปอีกห้องหนึ่ง มีการติดตั้งชั้นไม้สักเพื่อวางเครื่องสักการะ พานเงินพานทอง รูปปั้นนารายณ์ทรงครุฑ พร้อมกับพระขรรค์โบราณ รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ นายจตุพร กล่าวว่า พระครูบาสุนทรจาก จ.ลำพูน และ หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม มอบให้

เมื่อขึ้นไปบนชั้นสาม ทั่วพื้นที่ภายในห้องจัดวางโต๊ะหมู่บูชารองรับพระพุทธรูปปางต่างๆ ทั้งรูปหล่อไฟเบอร์พระอาจารย์โตพรหมรังสี หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ เจ้าแม่อุมาเทวี รวมทั้งเศียรพระขนาดใหญ่ ที่ นายจตุพร กล่าวว่า ทำจากบ้านถวาย จ.เชียงใหม่ ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องเสื้อแดงมอบให้ มีทั้งพระร่วมสมัยบ้างเก่าบ้าง พระพุทธรูปศิลาแลงสามองค์ ซึ่ง นายจตุพร เล่าว่า ได้โดยบังเอิญเมื่อครั้งไปปราศรัยที่อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยระหว่างแวะที่ปั๊มน้ำมัน ก็มีคนมามอบให้ ราคาเช่าบูชาประมาณ 2,500 บาท อย่างไรก็ตาม เมื่อถามว่า กรมศิลปากรเคยมาสำรวจบ้างไหม นายจตุพร กล่าวพร้อมหัวเราะว่า ส่วนใหญ่เป็นของถูกกฎหมาย

นายจตุพร กล่าวว่า นอกจากพระพุทธรูปปางต่างๆ เขายังมีพระเครื่องอีกจำนวนมาก วัตถุมงคลเหล่านี้จะมาเรื่อยๆ อย่างที่ไม่คาดคิด ยิ่งจังหวะชีวิตผกผัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้มักมาแทนที่เสมอ เพราะฉะนั้นห้องพระที่ได้ชมขณะนี้อีกไม่กี่เดือนต้องเปลี่ยนใหม่ อาจปรับปรุงพื้นที่ชั้นล่างเพิ่มเติมเพื่อรองรับ ตอนแรกก็คิดเหมือนพระประธานมาองค์เดียว แต่นั้นมาเหมือนสายแร่ เหมือนห้องชั้นล่างจากพระเจ้าตากองค์เดียว ก็มีการนำกษัตริย์มหาราชทุกพระองค์มามอบให้ พระนเรศวรแทบทุกปาง พระยาพิชัยดาบหัก ก็มาก เป็นลำดับต้นๆ เช่นเดียวกับแม่ทัพกวนอู นอกจากนี้ ยังเปรยว่า “ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็ดีไปอีกแบบ เพราะมีเวลาจัดห้อง”

นอกจากนี้ นายจตุพร กล่าวอีกว่า คนภายนอกอาจมองเขาเป็นคนดุร้ายก้าวร้าวอย่างเดียว แต่สำหรับคนที่รู้จักสนับสนุน ใครไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงไหนอย่างไร เราประกาศไม่รับเงินรับทอง บ้านนี้จะเต็มไปด้วยผลไม้ตามฤดูกาล เอาข้าวสารมาฝาก แม้กระทั่งเสื้อผ้าหามาให้ บริจาคเป็นทอดๆ ส่วนใหญ่งานบุญกฐิน ผ้าป่า ก็จะปฏิบัติ ไม่ว่าจะมาร้อนมาเย็น ใจก็ไม่ได้ไปล้มตาม ตนจึงไม่เสียใจหรือดีใจเกินเหตุ จะไม่มีปรากฏการณ์นี้กับตนเราอยู่ในโลกแห่งความจริง แต่เมื่อมีความทุกข์ สิ่งเหล่านี้จะมาหาตนมากในช่วงสองสามปี

“ชีวิตผมสมัยเป็นเด็กวัดบวรฯ ไม่เคยมีพระแขวนสักองค์ แต่พอมาอยู่ในสถานการณ์ต่อสู้ที่มีความตายเป็นเดิมพัน ประชาชน หรืออะไรดลบันดาล สิ่งเหล่านี้ก็หลั่งไหลมาแบบที่ผมไม่คิดว่าเป็นแบบนี้ แต่เมื่อมีสิ่งเหล่านี้ก็ทำความสงบ ไม่ว่าจะร้อนจะหนาวจะจุดเดือดหรือจุดเยือกแข็ง เมื่อเรามาที่ห้องพระ ที่ห้องต่างๆ จะนำมาซึ่งความร่มเย็น” นายจตุพร กล่าว

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของนายจตุพร ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ครั้งล่าสุดเมื่อ 18 พ.ค.นอกจากแจ้งสถานภาพ “โสด” เหมือนหลายครั้งก่อนหน้านี้ รายการทรัพย์สินที่ไม่เปลี่ยนแปลง ก็คือ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง (บ้าน) ตั้งอยู่บนโฉนดที่ดินเลขที่ 7336 เนื้อที่ 0-0-27 ไร่ มูลค่า 2,700,000 บาท (มูลค่าที่ดินรวมราคาตัวบ้าน) ได้มาเมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2550

แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุว่า บ้านหลังนี้เข้าถึงยาก เพราะเป็นบ้านของ นายจตุพร มีระบบรักษาความปลอดภัยจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านอย่างแน่นหนา และขณะนี้ที่มีเรื่องวุ่นวายทางการเมือง บ้านหลังนี้ก็จะถูกจับตามอง ถูกตรวจสอบเป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่จะผ่านเข้าออกในหมู่บ้านนี้ โดยเฉพาะบ้านหลังนี้และปกติจะไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าได้ง่ายๆ เด็ดขาด

สำหรับรายการทรัพย์สินของนายจตุพร หลังพ้นตำแหน่ง ประกอบด้วย เงินฝาก 3,722,926.86 บาท (บุตรไม่บรรลุนิติภาวะ 6,411.24 บาท) โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2,700,000 บาท รถยนต์ 2 คัน มูลค่ารวม 1,570,000 บาท อาวุธปืน 4 กระบอก ไม่ระบุมูลค่า รวมแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 7,999,338.10 บาท น้อยกว่าในช่วงรับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 2 ส.ค.2544 ซึ่งมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 8,224,825.64 บาท ซึ่งมีส่วนต่างจากเงินฝาก และรถยนต์ 2 คันมูลค่า 1,670,000 บาท ซึ่งมีมูลค่าห่างกัน 1 แสนบาท