“ปู” พ้ออยากเห็นบ้านเมืองไทยเป็น ปชต.เหมือนอินโดฯ โยน “เหลิม” คุมเข้มระบบ รปภ. ให้ผู้นำหลายชาติเยือนไทยช่วงนี้ การ์ดมะกันขอเพิ่มสไนเปอร์-ปิดถนนพิษณุโลกช่วงระหว่าง “โอบามา” หารือที่ทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (12 พ.ย.) ได้ร่นเวลาประชุมเร็วขึ้น 30 นาที โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 08.30 น. เนื่องจากในเวลา 10.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์และ ครม.มีภารกิจถวายผ้าพระกฐินพระราชทานสำนักนายกรัฐมนตรี ประจำปี 2555 ณ พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้กล่าวถึงการเข้าร่วมการประชุม Bali Democracy Forum (BDF) ครั้งที่ 5 ณ เกาะบาหลี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ว่า จากที่ไปบาหลีได้เห็นการเมืองของอินโดนีเซียที่มีความมั่นคง ใช้หลักประชาธิปไตยในการอยู่ร่วมกัน และใช้หลักสันติวิธีเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด ดังนั้น อยากให้ประเทศไทยมีการเมืองการปกครองเหมือนกับประเทศอินโดนีเซีย จึงอยากให้ ครม.ยึดหลักการเมืองแบบอินโดนีเซีย
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในช่วงเดือน พ.ย.นี้ จะมีผู้นำของหลายชาติเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยนายโยเวรี คากูทา มูเซเวนี (Yoweri Kaguta Museveni) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐยูกันดา มีกำหนดการเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 15-17 พ.ย.ตามคำเชิญของรัฐบาลไทย จากนั้น วันที่ 18 พ.ย.นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนประเทศไทย ต่อด้วยนายเหวิน เจียเป่า นายกฯ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่จะมาเยือนในวันที่ 21 พ.ย. โดยนายกฯ ได้สั่งให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐนตรี ให้ดูแลความเรียบร้อย และการรักษาความปลอดภัยผู้นำหลายประเทศทั้งหมด และย้ำให้รัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วย
ในส่วนของการรักษาความปลอดภัยในโอกาสที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมาเยือนนั้น ล่าสุด หน่วยล่วงหน้าสหรัฐฯ ได้เดินทางตรวจดูความปลอดภัยของทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา และได้ขอให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของไทยเน้นจุดสูงข่มพื้นที่ตึกสูงที่อยู่บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลทั้งหมด ทั้งในส่วนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และขอให้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่สไนเปอร์จากหน่วยอรินทราช รวมถึงขอให้ทางการไทยปิดการจราจร ถ.พิษณุโลก ระหว่างที่มีการหารือที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการกำหนดการหารือในเวลา 18.00 น.วันที่ 18 พ.ย.