“วราเทพ” เผยบอร์ด อสมท พบแค่ยินดีได้นั่ง รมต. รอคุยงาน “นิวัฒน์ธำรง” ก่อน หวังใช้สร้างความรู้แก้เยาวชนเลียนแบบส่อรุนแรง โอ่การแข่งขันต้องมีจริยธรรม ไม่สร้างความเสียหายให้สังคม แนะอย่าลืมวัฒนธรรมไทย รับไม่ให้เสนอข่าวรัฐคงเป็นไปไม่ได้ ยันทำงานร่วม “ศันสนีย์” สบาย
วันนี้ (6 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.30 น. นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และคณะเข้าเยี่ยมคารวะว่า เป็นการมาแสดงความยินดีและแนะนำผู้บริหารซึ่งรู้จักคุ้นเคยกันอยู่บ้างหลายคน ส่วนการมอบนโยบายนั้นตนคงต้องหารือร่วมกับนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเคยดูแล อสมท มาก่อน เพื่อดูเรื่องงานที่เคยทำไว้ รวมถึงเรื่องปัญหาอุปสรรค และเรื่องที่อยากให้มีการขับเคลื่อนต่อ แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่า อสมท เป็นสื่อของรัฐที่มีศักยภาพ เชื่อมั่นว่าการบริหารของบอร์ดจะขับเคลื่อนในระดับการปฏิบัติได้ ส่วนนโยบายจะเน้นเรื่องการเป็นสื่อของรัฐ ที่ให้ความรู้และการสื่อสารกับประชาชน ทั้งเรื่องนโยบายของรัฐบาลและความรู้ทั่วไป
“อยากจะเห็นการเป็นสื่อที่นำเรื่องการสร้างความรู้ความเข้าใจ โดยเฉพาะปัญหาเยาวชนที่บริโภคสื่อและมีพฤติกรรมเลียนแบบ ผมจึงอยากฝากเรื่องนี้ให้กับทางผู้บริหารเป็นเรื่องแรกในการให้ความรู้แนะนำไม่ให้เยาวชนมีพฤติกรรมเลียนแบบที่ส่อไปในทางรุนแรง และสร้างความเสียหาย” นายวราเทพกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในภาวะที่สังคมมีการแข่งขันทางด้านโซเชียลเน็ตเวิร์กค่อนข้างสูง มีความห่วงอย่างไรบ้าง นายวราเทพกล่าวว่า ธุรกิจทุกประเภทมีการแข่งขัน แต่การแข่งขันต้องมีสิ่งที่เรียกว่าจริยธรรม การดำรงไว้ซึ่งการไม่สร้างความเสียหายให้แก่บสังคม หากธุรกิจแข่งขันกันจนลืมเรื่องจริยธรรมก็เป็นการสร้างผลเสียหายให้สังคม และสิ่งที่ต้องระวังคือเรื่องของความผิดพลาด และการแข่งขันจนลืมวัฒนธรรมไทย ตนคิดว่ากระทรวงและหน่วยงานทางภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคสังคมเอง ต้องมีมาตรการที่แสดงให้ผู้ประกอบการเห็นว่าการสร้างผลร้ายให้กับสังคมจะไม่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค
เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรไม่ให้สื่อของรัฐถูกวิพากษ์วิจารณ์ นายวราเทพกล่าวว่า หากสื่อของรัฐไม่นำเสนอข่าวสารของภาครัฐหรือรัฐบาลเลยก็คงไม่ได้ แต่มากไปหรือน้อยไปอยู่ที่มุมมอง แต่ก็ต้องระวังเพราะขณะนี้สังคมจับตามองเรื่องคุณธรรมและจริยธรรมของบุคลากร ในฐานะบุคคลของรัฐก็คงต้องทำหน้าที่ให้เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการทำงานร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ที่อยู่ในกำกับดูแลของ น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีนั้นไม่มีปัญหา สามารถทำงานร่วมกันได้