xs
xsm
sm
md
lg

“จตุพร” วืด รมต.ต้องด่า แม้ว-ปู อย่ามั่วเล่นละครตบตาคนเสื้อแดง!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน


ถูกต้องแล้วกับคำพูดพรั่งพรูออกมาจากปากของ จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงว่า “เราอยู่ในวงละครเขาสั่งให้มาแสดง เรานึกว่าเป็นเรื่องจริง”

หรือ “ถ้าการต่อสู้พวกเราได้รับคดีจำนวนมาก ถือเป็นรอยตำหนิ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าพรรคเพื่อไทยจะหาคนสู้รบได้อย่างไร เพราะทุกคนต้องรักษาตัวเองให้สะอาด” เป็นต้น หลายเวอร์ชั่นหลายแบบเพราะมีการแถลงและให้สัมภาษณ์หลายรอบ ฟังเผินๆ ก็ได้อารมณ์คล้อยตามแบบเหม่อลอย แต่ถ้าให้จับใจความแบบรวมๆก็ไม่ต่างจากการ “ฟูมฟาย” หลังจากไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 3 ตามที่คาดหวังไว้

ความหมายของคำพูด จตุพร ที่พรั่งพรูออกมาปากทั้งหมดดังกล่าว หากสรุปรวบยอดก็คือทั้งผิดหวังที่ไม่ได้ตำแหน่ง และมีทั้งข่มขู่ น้อยใจ ปลุกระดมพร้อมๆกันอยู่ในตัวจนมั่วไปหมด ไม่รู้ว่าต้องการระบายอารมณ์ น้อยใจ ทวงสัญญา หรืออะไรกันแน่ หรือว่าทุกอย่างประกอบกัน

อย่างไรก็ดี หากมองในมุมของจตุพร แบบเข้าข้างตัวเอง แน่นอนว่าต้องสำคัญตัวเองผิดคิดไปว่า ตัวเองมีความสำคัญต่อ ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว รวมไปถึงเป็นขุนพลค้ำบัลลังก์อำนาจของคนในครอบครัวนี้ และรัฐบาลของน้องสาว คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คิดไปว่าที่ผ่านมาตัวเองเป็นหนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดงที่ปลุกระดมออกก่อจลาจลสร้างความฉิบหายวายวอดจนมีการยุบสภาและนำไปสู่การชนะเลือกตั้งทำให้เครือข่ายของ ทักษิณ กลับมาอีกครั้ง

ที่ผ่านมา ทักษิณ ชินวัตร ก็เคยให้สัญญาต่อหน้าฝูงชน เพราะหากยังจำกันได้ เขาได้เคยโฟนอินเข้ามาระหว่างมีการสัมมนาที่โบนันซ่า เขาใหญ่ รวมทั้งสื่อความหมายให้เข้าใจกันอีกหลายครั้ง บอกว่าจตุพรนี่แหละเหมาะสมที่สุดจะเป็นรัฐมนตรี และย้ำเป็นน้องที่รักมาก ซึ่งคำพูดดังกล่าวทำให้ จตุพร รู้สึกหัวใจพองโต ทุกคนก็เข้าใจไปในทางเดียวกัน เพราะรับรู้กันอยู่แล้วว่า ทักษิณ เป็นทั้งเจ้าของพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าของรัฐบาล เป็นเจ้าของคนเสื้อแดง เมื่อพูดแบบนั้นก็ย่อมหมายความว่าชัวร์ และที่ผ่านมา คนอย่างจตุพรก็ได้แสดงบทบาทในขณะที่เป็น ส.ส.ก็ได้แสดงโชว์เต็มที่เหมือนกัน เรื่องไหนที่รู้ว่า ทักษิณ โกรธ รับรองว่า จตุพร ต้องแสดงอาการโกรธเป็นสองเท่า ไม่ว่าจะเป็นพวกไพร่หรืออำมาตย์ อย่าให้รู้เข้าหูเป็นอันขาด เป็นต้อง “จัดให้แบบถึงขนาด”

แน่นอนว่าเมื่อทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ ทำทุกอย่างเพื่อรับใช้ หวังให้เป็น “น้องรัก” เข้าถึงวงในยกชั้นตัวเองขึ้นมาให้เหนือคนอื่น แอบฝันหวานอยู่นานว่าหากมีการปรับคณะรัฐมนตรีเมื่อใดก็ตาม มั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะต้องได้ “ขึ้นวอ” มีคนหาบหามกลายเป็นอำมาตย์ใหม่ไปอีกคน และถึงแม้ว่าจะมีเสียงพูดให้เข้าใจกันว่าโควตาในกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดงจะมีเพียงตำแหน่งรัฐมนตรีเพียงคนเดียวก็ตาม นั่นก็เท่ากับว่า “คิวต่อไป” เขาก็ต้องได้เป็น แทนที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แต่เมื่อแบบโผออกมา ผลกลายเป็นตรงกันข้าม ความรู้สึกก็ขาดผึง “ทั้งเจ็บทั้งอาย”ระคนกัน

“เจ็บ” เพราะผิดหวังที่ไม่ได้เป็นรัฐมนตรี ตามที่ “คนที่มีอำนาจ” อย่างที่ จตุพร ให้ความหมายเอาไว้ระหว่างการแถลงข่าวเคยให้สัญญาเอาไว้ ทั้งที่มั่นใจว่าตัวเองรับใช้กันอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูไม่ได้น้อยหน้าใคร และไม่ได้ด้อยกว่าใคร ไม่ว่าจะเป็น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือใครก็ตาม “รู้สึกอาย” ก็เพราะตัวเองเหมือนกับ “ตัวตลก” ถูกทำให้เข้าใจว่าต้องเป็น “ว่าที่รัฐมนตรี” เพื่อนฝูงต่างก็เข้าใจกันแบบนั้น แต่เมื่อต้องกินแห้วซ้ำซากแค่ไม่ “สติแตก” ก็ถือว่าโชคดีแล้ว

อย่างไรก็ดี ถ้าสรุปตามความเป็นจริงแล้วหากโกหกตัวเองก็ต้องบอกว่าคนที่มีอำนาจชี้นกชี้ไม้ ชี้นิ้วให้ใครเป็นรัฐมนตรีและชี้นิ้วให้ใครไม่ได้เป็นรัฐมนตรีล้วนแล้วแต่มาจาก ทักษิณ ชินวัตร และส่งผ่านมายัง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรี หรืออาจมีคนในครอบครัวอีกสักคนสองคนร่วมตัดสินใจ ความหมายเป็นแบบนี้จริงๆสังคมทั่วไปก็เข้าใจกันดี ไม่ได้มีอำนาจพิเศษอื่นใดอยู่เบื้องหลัง ขัดแข้งขัดขาเป็นอันขาด แม้ว่าอาจมีการเสนอความเห็นบ้าง แต่สุดท้ายการตัดสินใจชี้ขาดล้วนแล้วแต่ต้องผ่านการชี้ขาดของสองคนดังกล่าว ดังนั้นถ้าหากต้องการจะด่าจะโวยวายก็ต้องพุ่งไปที่ ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ เท่านั้น

ถ้าตัวเองไม่ได้เก้าอี้ก็ต้องด่าสองคนที่ว่า ดังนั้นถ้าจตุพร มีความกล้า และใจถึงพอก็ขอท้าให้แสดงจุดยืนออกมาให้ชัดว่า เขาเป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตย สู้เพื่อหลักการ ไม่ใช่สู้เพื่อตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะคำพูดของจตุพร เท่าที่เข้าใจความหมายก็คือการ “ฟูมฟาย” หลังจากผิดหวัง แต่แทนที่จะด่าไปที่ “ต้นตอ” กลับไม่กล้า พูดจาอ้อมไปอ้อมมา เล่นละครตบตามวลชนคนเสื้อแดงจนน่ารำคาญ มองอีกด้านหนึ่งมันก็สมควรแล้วมีสถานะแบบที่เห็น เพราะไว้ใจไม่ได้จริงๆ!!
กำลังโหลดความคิดเห็น