ส.ว.กำแพงเพชรจี้รัฐทบทวนจ่ายเงินให้ ธ.ก.ส.จ่ายค่าจำนำข้าว โวยชาวนายังไม่ได้รับตังค์เพียบ “ส.ว.เจตน์” แนะ สตช.สอดส่องกำลังพลหลังพบค้ายาบ้า, เพิ่มครุภัณฑ์ช่วยงานในจุดสกัด, เพิ่มสุนัขดมกลิ่น
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา ที่มีนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้หารือ โดยนายกฤต อาทิตย์แก้ว ส.ว.กำแพงเพชร กล่าวถึงกรณีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกว่า ขอหารือไปยังนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพานิชย์ ถึงเรื่องปัญหาการจ่ายเงินตามใบประทวนของโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งตนได้รับข้อมูลจากประชาชนจังหวัดกำแพงเพชรว่าได้จำนำข้าวผ่านโรงสีแล้วแต่ยังไม่ได้รับเงิน อีกทั้งรัฐบาลได้เคยสัญญาไว้ว่าหลังจากที่ชาวนาได้จำนำข้าวเปลือกแล้วก็ได้ใบประทวนมาซึ่งจะได้รับเงินภายใน 3 วัน แต่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
นายกฤตกล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นแทบทุกแห่งในจังหวัดกำแพงเพชร และไม่กล้าก้าวล่วงไปจังหวัดอื่นแต่ก็คิดว่าคงมีปัญหาเช่นกัน บางคน 2 เดือนแล้วยังไม่ได้รับเงิน ไม่ทราบว่าเป็นปัญหาที่ไหน แต่หลายคนระบุว่าปัญหาเริ่มตั้งแต่ที่โรงสี กว่าจะได้ใบประทวนจากโรงสี 6-7 วันก็ยังไม่ได้ เมื่อได้ใบประทวนก็ไปขอขึ้นเงินที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก็ยังไม่ได้อีก ซึ่งชาวบ้านได้บอกกับตนว่า ธ.ก.ส.บอกว่าไม่มีเงินจะให้ ไม่แน่ใจว่าเป็นเรื่องจริงเพียงใด ถ้าหากเป็นจริง รัฐบาลควรทบทวนการจ่ายเงินไปยัง ธ.ก.ส.และโรงสีที่มีสัญญากับรัฐบาลอย่างเร่งด่วน
ด้านนายแพทย์เจตน์ ศิรธนานนท์ ส.ว.สรรหา หารือถึงกรณีจับยาบ้ามูลค่ากว่า 4 ร้อยล้านบาทของเครือข่ายยาบ้าภาคเหนือว่า ขอชมเชยตำรวจประจำด่าน สภ.งาว จังหวัดลำปาง ในการจับกุมและขยายเครือข่ายครั้งนี้ และตนขอตั้งข้อสังเกตไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ใน 3 ประเด็น คือ 1. ตำรวจที่เกี่ยวข้องคือ ด.ต.มนัส เสือโพธิ์ ต่อมามีการจับกุมอีก 2 คดี ทั้งที่ต่อเนื่องและไม่ต่อเนื่อง โดยจับกุม ด.ต.สุรชัย วิลียา และ ร.ต.ต.ประพันธ์ เนตรสุวรรณ์ ซึ่งเป็นกรณีที่ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดแต่กลายเป็นผู้ค้ายาเสียเอง ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน ดังนั้น สตช.ควรสอดส่งกำลังพล
นายเจตน์กล่าวต่อว่า สภ.งาวอยู่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 รับผิดชอบ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ดูแลเส้นทางสายหลัก 10 เส้นทาง และเส้นทางสายรอง ตั้งด่านตรวจและจุดตรวจชั่วคราว 113 แห่ง ขาดอุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น กล้องตรวจการณ์เวลากลางคืน เครื่องอ่านป้ายทะเบียนรถ เครื่องเอกซเรย์ประจำด่าน เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับยาเสพติดทั้งระดับอำเภอและจังหวัด กล้องซีซีทีวีประจำด่าน มอเตอร์ไซค์ รถกะบะ ตู้เซฟเก็บของกลางของจังหวัด ดังนั้นรัฐมนตรีควรเพิ่มกำลังพลและคุรุภัณฑ์ต่างๆ ให้ ข้อที่สาม คือ สุนัขดมกลิ่นยาเสพติดมีเพียง 67 ตัว อายุ 8 ปีขึ้นไปมี 13 ตัว ซึ่งช่วยในการจับกุมผู้ร้ายได้ 1,900 คน ยาบ้า 2.67 ล้านเม็ด เฮโรอีน 3,900 กิโลกรัม และยาไอซ์ 4,700 กิโลกรัม ซึ่งรัฐบาลต้องให้ความสำคัญ