ปธ.องค์การพิทักษ์สยาม ปัดเพ้อมีแผนบันได 5 ขั้นตาม รบ. ชี้ดูแค่คนร่วมชุมนุมใหญ่ 28 ต.ค. หากเสียงตอบรับดีลุยไล่ รบ.ทันที แจงเหตุทนไม่ไหว รบ.เอาแต่กอบโกยไม่ดูแล ปชช. เล็งหาแนวร่วมทหาร กันโดนรังแก เผยยังไม่ได้คุยฝ่ายค้าน ย้อน ส.ส.แดงไม่มีเงินจ้างสาวกมาร่วม แต่มีคนออกให้แทนก็ยินดี ไม่หวั่นมีวุ่นเหตุชุมนุมสถานที่ปิด ชี้คือการจุดไฟ หากติดก็ลุยไม่ติดก็หยุด ลั่นไม่พาดพิงกองทัพ พร้อมแฉคนใน รบ.จาบจ้วงสถาบัน - “เฉลิม” แจงคุย “พี่อ้าย” แค่เรื่องเก่า ปัดถกการเมือง ไม่หนักใจชุมนุมใหญ่ ปัดดื่มไวน์ กลัว “รังสิมา” จวก ด้าน “ตุลย์” ดักมอบเป็ดย่างรองนายกฯ แต่เจ้าตัวไม่มารับ
วันนี้ (24 ต.ค.) ที่ราชตฤณมัยสมาคมฯ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวก่อนร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ว่าการพูดคุยในวันนี้ไม่ทราบว่าจะพูดคุยเรื่องอะไร เพราะ ร.ต.อ.เฉลิมเป็นผู้ขอนัดหมาย แต่ขอยืนยันว่าในวันที่ 28 ต.ค.นี้ ยังคงมีการชุมนุมของกลุ่มอยู่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก ร.ต.อ.เฉลิมไกล่เกลี่ยให้มีการเลื่อนการชุมนุมออกไปจะตัดสินใจอย่างไร พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า ตนเชื่อว่า ร.ต.อ.เฉลิมเข้าใจตน และคิดว่าไม่ได้เป็นการขอเพื่อให้เลื่อนการชุมนุม เพราะนักเลงเขาไม่พูดกันอย่างนี้ และในวันดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความสงบเรียบร้อย 300 นาย โดยจะไม่มีมือที่ 3 เข้ามาก่อความวุ่นวายในการชุมนุม และการชุมนุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่เปิด จึงยินดีที่จะให้ตำรวจเข้ามาดูแลความเรียบร้อย
พล.อ.บุญเลิศกล่าวต่อว่า ปกติตนมีความคุ้นเคยกับ ร.ต.อ.เฉลิม แต่รู้สึกแปลกใจที่ขอนัดมาในครั้งนี้ เพราะโดยปกติแล้ว ร.ต.อ.เฉลิมไม่เคยมาหาที่นี่ ส่วนตัวยังไม่ได้ประเมินผู้ชุมนุมในวันดังกล่าว แต่ก็อยากให้มามาก รวมไปถึงกลุ่มคนเสื้อแดงด้วย
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าการชุมนุมวันที่ 28 ต.ค. มีการเชื่อมกับบันได 5 ขั้นที่เป็นกระบวนการล้มรัฐบาล พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า ส่วนตัวมีแค่ 2 ขั้น คือ การชุมนุมในวันที่ 28 ต.ค. กับอีก 1 ครั้งหากในวันที่ 28 ต.ค.มีคนมาร่วมชุมนุมจำนวนมากก็จะเดินไปหารัฐบาล สมมติว่ามีคนร่วมชุมนุม 1 ล้านคนก็จะบอกว่ารัฐบาลออกไปได้แล้ว เพราะมีคนไม่เห็นด้วยกับท่านจำนวนมาก แต่หากมีผู้ร่วมชุมนุมจำนวนน้อยทุกอย่างจะจบในวันที่ 28 ต.ค. ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นมวยไม่มีราคาไปชกที่ไหนก็ไม่ได้ และยืนยันว่าการพูดคุยในวันนี้ไม่มีมวยล้ม เพราะหากล้มจะไม่มีใครเชื่อถือ และตนอยากให้วันที่ 28 ต.ค.มีผู้มาร่วมชุมนุมเต็มความจุของสนามม้านางเลิ้ง ที่รองรับได้ประมาณ 20,000 คน
เมื่อถามว่าการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการปลุกกระแสปฏิวัติโดยประชาชน พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า เหตุเกิดจากความทนไม่ได้ที่การปกครองเป็นแบบนี้ เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ไม่ดูแลประชาชน และการชุมนุมครั้งนี้จะไม่เป็นการทำให้กองทัพไม่สบายใจ เพราะตนเกษียณแล้ว ยืนยันว่าการชุมนุมเป็นการชุมนุมโดยสันติวิธีไม่มีอาวุธ ทั้งนี้ยังไม่มีแนวร่วมที่เป็นทหารที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งก็พยายามหาอยู่ เพราะต้องมีกำลังเหมือนกันถึงจะทำอะไรได้ มิฉะนั้นจะถูกรังแก และเชื่อว่าหากมีทหารที่อยู่ในกองทัพและเห็นด้วยกับตนคงไม่เปิดตัว เพราะจะเป็นอันตราย เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการพูดคุยกับฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุย แต่ก็อยากได้ใครจะหนุนก็เอา แต่ก็อยากให้สื่อมวลชนกระจายข่าวว่าทำไมเราถึงมีการชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณด้านหน้าห้องอาหารราชตฤมัยสมาคมฯ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี พร้อมแนวร่วมจำนวน 5 คน ได้ถือป้ายที่เขียนข้อความว่า “พ่อไอ้ปื๊ด มึงมาทำไม” จากนั้นเวลา 11.30 น. เมื่อ ร.ต.อ.เฉลิมได้เดินทางมาถึง นพ.ตุลย์ได้มอบเป็ดย่างให้กับ ร.ต.อ.เฉลิม แต่ ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้รับมา ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง และ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. ได้เดินทางมาร่วมรับประทานอาหารด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายการอาหารที่ ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.อ.บุญเลิศ ร่วมรับประทานมื้อนี้ ประกอบด้วย ห่อหมกร้านป้าบุญมา ศรีย่านซอย 1 ฉู่ฉี่ปลาคัง ที่ พล.อ.บุญเลิศนำมา และห่านพะโล้ท่าดินแดงที่ ร.ต.อ.เฉลิมนำมา ส่วนของหวานนั้นเป็นเมนูปลากริมไข่เต่าจากร้านชื่อดังย่านราชวัตร นอกจากนี้ยังมีไวน์แดงยี่ห้อบูตอง ปี 2001 ที่ พล.อ.บุญเลิศเป็นผู้นำมาอีกด้วย
หลังจากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.อ.บุญเลิศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังใช้เวลารับประทานอาหารร่วมกันราว 1 ชั่วโมง โดย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเมืองแม้แต่น้อย คุยกันเรื่องเก่าๆ เพราะตนและ พล.อ.บุญเลิศรู้จักและผูกพันกัน ไม่ได้คุยเรื่องการชุมนุมในวันที่ 28 ต.ค.นี้แต่อย่างใด มีเพียง พล.อ.บุญเลิศแจ้งว่าจะเลิกการชุมนุมก่อน 18.00 น.เท่านั้น ซึ่งตนก็ได้บอก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการนครบาล (ผบช.น.) ว่าให้ส่งกำลังมาอำนวยความสะดวก นอกจากนั้นก็พูดคุยเรื่องเก่าๆ ไม่มีเรื่องการเมือง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เกรงว่าจะมีความวุ่นวายในการชุมนุมหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้ที่จัดขึ้นในสนามม้านางเลิ้ง ก็เป็นพื้นที่ที่มีการจำกัดวง คงไม่มีความวุ่นวาย
เมื่อถามว่า เป็นการสวนกระแสหรือไม่ เพราะใกล้จะชุมนุมแล้วแต่เพิ่งมานัดทานข้าวกัน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะ พล.อ.บุญเลิศก็ทำตามแนวทางที่วางไว้ ส่วนตนก็ทำหน้าที่ของตน คนไม่ใช่เพิ่งมารู้จัก ถ้าเป็นคนไม่เคยรู้จักกันเลยแล้วมาหา อย่างนั้นถึงสวนกระแส พล.อ.บุญเลิศยังอนุญาตว่าหากอาหารที่ทำเนียบรัฐบาลไม่อร่อยให้มาทานที่สนามม้านางเลิ้ง
ต่อข้อถามที่ว่า มองว่าการเคลื่อนไหวของ พล.อ.บุญเลิศเป็นการลดเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่อยากให้มองเช่นนั้น เมื่อถามว่า พล.อ.บุญเลิศได้สะท้อนข้อห่วงใยของรัฐบาลให้ฟังหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ได้คุยกันเลย คนรักกันถ้าคุยกันแล้วอีกฝ่ายอึดอัด ตามหลักการต้องไม่คุยกัน ต้องคุยกันแล้วสบายใจ วันนี้บรรยากาศสดชื่น คุยไปหัวเราะไป เมื่อกล่าวถึงช่วงนี้ ร.ต.อ.เฉลิมได้หันไปถาม พล.อ.บุญเลิศ ว่า “ใช่ไหมพี่ เลยไม่ค่อยได้ทานเลย” ซึ่ง พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า “ใช่ครับ เพราะคนแก่จะพูดกันเรื่องความหลังถึงจะมีความสุข”
เมื่อถามย้ำว่าได้สะท้อนข้อห่วงใยรัฐบาลผ่าน ร.ต.อ.เฉลิมหรือไม่ พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า ไม่กล้า เพราะ ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้ถาม เราจะไปพูดนำคงไม่ได้ ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม ร.ต.อ.เฉลิมด้วยว่า ไวน์ที่นำมาดื่มรสชาติดีหรือไม่ รองนายกฯกล่าวว่า “ไม่กล้าดื่มไวน์พี่อ้ายมาก กลัวรังสิมา (น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์) ฟ้องเอา” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวก่อนขึ้นรถประจำตำแหน่งเดินทางออกไป
ต่อจากนั้น พล.อ.บุญเลิศได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง ระบุว่ามีการจ่ายเงินให้กลุ่มเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมในวันที่ 28 ต.ค.นี้ พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า ยืนยันไม่มีการจ่ายเงินใดๆ มีการพูดเพียงว่าคนเสื้อแดงก็สามารถมาชุมนุมได้ แต่ใครจะจ้างมาให้ก็เป็นเรื่องดี แต่ส่วนตัวคงไม่มีเงินที่ไหนมาจ้างให้คนมาชุมนุม ทั้งนี้คงยังไม่สามารถประเมินผู้เข้าร่วมชุมนุมได้ เพราะไม่ได้จัดตั้งมา โดยการชุมนุมครั้งนี้จัดในสนามม้านางเลิ้ง ซึ่งเป็นสถานที่ปิดไม่มีการกีดขวางการจราจร สำหรับระยะเวลาการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อแน่นอน โดยหลังการชุมนุมวันที่ 28 ต.ค. หากประเมินแล้วว่ามีแนวร่วมมาก ก็จะนัดชุมนุมอีกครั้งไม่เกิน 3-4 สัปดาห์ ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจะไม่จัดอีก เพราะหากรัฐบาลไม่ยอมออก ตนก็เลิกไม่จัดชุมนุมอีก
“นี่คือการจุดไฟ หากมีคนมาหมื่นเดียวก็จบ แต่ถ้าจุดติดมีคนบอกว่าพร้อมออกมา 5-6 แสนคน ก็จะมีอีกครั้ง แต่จะไม่จัดชุมนุมทุกสัปดาห์ เพราะไม่ใช่แนวทางของผม” พล.อ.บุญเลิศกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ห่วงว่าในการชุมนุมจะมีการพาดพิงถึงกองทัพ พล.อ.บุญเลิศกล่าวว่า ในการชุมนุมจะไม่มีการพาดพิงถึงกองทัพอย่างที่เป็นห่วงอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องสถาบันนั้นก็จะมีการสื่อสารให้ประชาชนได้รู้ว่ารัฐบาลนี้ทำไว้ไม่ดีอย่างไร โดยจะมีการให้ข้อเท็จจริงว่าคนในรัฐบาลคนไหนบ้างที่เคยพูดในลักษณะไม่เหมาะสมต่อสถาบัน โดยจะเปิดรายชื่อและบอกว่าเคยพูดที่ไหนอย่างไร แต่คงไม่สามารถบอกได้ว่าพูดว่าอะไรบ้าง โดยมีวิทยากรและนักวิชาการที่น่าเชื่อถือมาพูดในเรื่องเหล่านี้