xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เย้ย “เหลิม” เร่งสานเสวนา หวังนายใหญ่ตบรางวัล-จี้ ครม.สัญจร ฟัง ปชช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์ ส.ส. นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
ส.ส.เมืองคอน อัด “เฉลิม” ดันเรื่องสานเสวนาไม่ตรงข้อเสนอพระปกเกล้า นำสังคมสู่ความขัดแย้ง ชี้เลือกฐานเสียงตัวเอง ไม่มีองค์กรกลางหวั่นเข้าข้าง เลือกนักวิชาการแนวคิดอันตรายต่อสถาบัน แถมคัดพวกตัวเองมาฟัง ไม่มีการแสดงความคิดเห็น ดักอย่าทำเพื่อ “แม้ว” ให้ได้อานิสงส์ ตอก “รองเหลิม” เอาหน้าเพื่อเก้าอี้ มท.1-ยินดี ครม.สัญจรลงใต้ ยัน ปชช.ไม่ป่วน จี้ใช้งบฟังความต้องการคนพื้นที่ อย่าให้แต่ ขรก.ที่ตั้งธงไว้

วันนี้ (19 ต.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ประกาศในระว่างที่ดูแลงานกระทรวงมหาดไทย และพยายามที่จะทำเรื่องประชาเสวนาหรือสานเสวนา โดยพยายามที่จะหยิบยกเอาผลการวิจัยสถาบันพระปกเกล้า ถ้าดูแนวความคิดของ ร.ต.อ.เฉลิม กับข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าเห็นได้ชัดว่าแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และการที่พยายามผลักดันเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อหวังผลทางการเมืองในตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง (มท.1) การประกาศที่จะจัดเวทีสานเสวนาที่ค่อนข้างจะนำไปสู่ความขัดแย้งในสังคมอีกครั้งหนึ่ง อยากจะเสนอการทำเวทีประชาเสวนาใหม่ เพื่อไม่ให้เป็นปัญหา คิดว่าควรที่จะคำนึงถึง 1. พื้นที่ในการจัดเวทีที่ ร.ต.อ.เฉลิมต้องการที่จะเลือกภาคเหนือและภาคอีสาน อย่างเช่นเลือกที่ จ.นครราชสีมาเป็นจังหวัดแรก เห็นได้ชัดว่าต้องการทำเพื่อหวังผลทางการเมือง กระทรวงมหาดไทยควรทำเรื่องนี้ในทุกภูมิภาค

นายเทพไทกล่าวต่อว่า 2. องค์กรที่เป็นเจ้าภาพในการรับฟังความเห็นจากเวทีสานเสวนา ควรเป็นองค์กรที่ได้รับความเชื่อถือจากสังคมและเป็นกลาง ควรจะให้สถาบันทางการศึกษาหรือองค์กรอื่นใดก็ได้ที่ตั้งขึ้นมาในรูปแบบคล้ายองค์กรกลาง เพื่อเป็นหลักประกันว่าไม่เอียงเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด 3. วิทยากรที่จะสานเสวนาควรที่จะเป็นนักวิชาการที่สางตัวเป็นกลางเป็นคนที่น่าเชื่อถือในสังคม ร.ต.อ.เฉลิมเสนอนายสุธรรม แสงประทุม และนายอดิศร เพียงเกษ สองสมาชิกพรรคเพื่อไทย จะพบว่าอย่างนายอดิศรเป็นคนที่มีทัศนคติที่อันตรายต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เห็นได้จากการปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2555 ที่เสนอแนวความคิดต้องการเปลี่ยนแปลงสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็นสัญญลักษณ์ของประเทศเหมือนกัมพูชา ตรงนี้จะสุ่มเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญว่าด้วยหมวดพระมหากษัตริย์ ที่เป็นที่คลางแคลงใจอย่างยิ่งต่อสังคมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และจะนำมาซึ่งความขัดแย้งในสังคมอีก

นายเทพไทกล่าวต่อว่า 4. กลุ่มเป้าหมายในการทำสานเสวนา ควรที่จะรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทุกสาขาอาชีพ แต่แนวของกระทรวงมหาดไทยเลือกเอาผู้ว่าฯ เอาข้าราชการ ผู้กำกับเอาคนที่เป็นมวลชนของตัวเองเขามาเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการรับฟังความเห็น รวมไปไปถึงรูปแบบการจัดสานเสวนาที่ต้องฟังความเห็นทั้ง 2 ฝ่ายทั้ง 2 ด้านควรเปิดให้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง ไม่ใช่ให้วิทยากรเป็นคนให้ความเห็นฝ่ายเดียว อาจจะนำมาซึ่งความคิดเห็นที่ไม่ตรงข้อเท็จจริง ที่สำคัญควรตระหนักว่าโครงการนี้ใช้งบประมาณแผ่นดิน ควรทำเรื่องนี้โดยคำนึงถึงประชาชนเป็นหลัก ไม่ใช่เอาเวทีสานเสวนามาฟอกตัวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มาแก้ต่างให้กรณีปฏิวัติเมื่อ 19 ก.ย. 2549 มาโจมตีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในการร่างรัฐธรรมนูญ หรือฉวยโอกาสโจมตีคู่แข่งทางการเมืองอยากเรียกร้องไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม ว่าการเอาเรื่องนี้มาทำเพื่อต้องการให้เข้าตานายใหญ่และเป็นบันไดจะก้าวไปสู่ตำแหน่ง มท.1 จะนำมาซึ่งความขัดแย้งในสังคมอย่างที่ไม่มีวันสิ้นสุด อยากจะให้ทบทวนวิธีการและแนวทางการจัดเวทีสานเสวนาครั้งนี้ ไม่เช่นนั้ความขจัดแย้งในสังคมจะแก้ไม่ได้

นายเทพไทยังกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จัด ครม.สัญจรในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ว่าแม้ว่ากระแสข่าวจากสื่อว่าการลงพื้นที่หวังผลทางการเมืองเพื่อกระชับพื้นที่พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ตนเป็น ส.ส.รู้สึกยินดีที่นายกฯ ให้ความสำคัญ แต่ว่าโครงการหลายโครงการที่นายกฯ ใช้ในการพิจารณา ครม.สัญจร เห็นได้ชัดว่าไม่สอดคล้องความต้องการของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งดูเหมือนข้าราชการตั้งแท่นแล้วอนุมัตเป็นแผนงานเดิมที่ไม่อยากเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย อย่างการไปให้ยาหอมเรื่องที่จะสร้างศูนย์ประชุมนานาชาติที่ จ.ภูเก็ต งบประมาณถูกต้อง พื้นที่ฝั่งอ่าวไทยประชาชนต้องการแผนป้องกันน้ำท่วม ถนน แหล่งน้ำดิบทำน้ำประปา ถ้าดูแผนงานไม่มีโครงการเหล่านี้ที่จะอนุมัติใน ครม.สัญจรเลย เช่น เรื่องสนามบินนานาชาติดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งก็แปลกใจว่ามีโครงการนี้เกิดขึ้นมาตอนไหน ถ้าจะทำสนามบินเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่เกาะสมุย เอาไปทำสะพาน เชื่อมเกาะสมุยจะมีประโยชน์มากกว่า

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวว่าขณะนี้ผู้มีอำนาจในฝ่ายรัฐบาล สั่งการไปยังหน่วยข่าวให้ตรวจสอบดูแลกลุ่มมวลชนหรือความเคลื่อนไหวของประชาชนในพื้นที่นั้น ตนอยากจะบอกว่ารัฐบาลไม่ต้องวิตกเรื่องการต่อต้านจากประชาชน เพราะคนพื้นที่ภาคใต้ไม่คิดต่อต้านเหมือนกลุ่มมวลชนบางกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลบาลกลุ่มที่กระทำต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งแต่เป็นนายกฯ เรื่อยมาจนมาเป็นฝ่ายค้าน แต่อาจมีการแสดงออกเช่นการไปยื่นหนังสือเกี่ยวกับปัญหาที่อยากให้รัฐบาลเร่งแก้ไข เช่น ปัญหายางพารา ปาล์ม ประมง เกษตรกร

กำลังโหลดความคิดเห็น