นายกฯ ถึงไทยแล้ว ชูถกเอซีดีได้รับการตอบรับค่อนข้างดีมาก เผยคุยโยงอาเซียนสู่เอเชีย ความมั่นคงทางอาหารและพลังงาน แย้มสยามแหล่งอาหารโลกแนวโน้มดีขึ้น ปัดคูเวตซื้อข้าวเพิ่ม ยันรัฐขายจีทูจีตามกฎหมาย อ้างจ่าย 1.3 หมื่นต่อเกวียนไม่เป็นธรรมต่อราคาข้าว ย้ำหวังสร้างรายได้ให้ชาวนา ยังไม่ตอบสื่อซักส่ง “พงศพัศ” ลงผู้ว่าฯ กทม. เจ้าตัวยืนยิ้ม
วันนี้ (18 ต.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 10.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากการเยือนรัฐคูเวตอย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชีย หรือเอซีดี โดยมี พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) มารอรับ ว่า การประชุมครั้งนี้ถือว่าเราได้รับการตอบรับค่อนข้างดีมาก เนื่องจากเป็นเวทีของผู้นำในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งไทยได้มีการเสนอจุดยืน ซึ่งทุกประเทศได้เห็นสอดคล้องต้องกันในการช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำและความยากจน รวมถึงการทำอย่างไรให้ภูมิภาคเอเชียได้ใช้ทรัพยากรอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงยุทธศาสตร์ของไทยในการเชื่อมโยงไปสู่ภูมิภาคอาเซียนที่สามารถเชื่อมต่อไปสู่เอเชียได้
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้หารือเรื่องการค้าขายต่างๆ ซึ่งในเชิงยุทธศาสตร์ไทยถือว่าเป็นแหล่งอาหารโลก จึงได้มีการพูดถึงความมั่นคงทางพลังงานควบคู่กับความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกคนเห็นความสำคัญ และหลังจากจบการประชุมได้มีการสรุปในสิ่งที่เห็นตรงกันตามเจตนารมณ์ของทุกประเทศ และจะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อสานต่อสิ่งต่างๆ เหล่านี้ให้เกิดเป็นรูปธรรม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความหวังที่ไทยจะเป็นแหล่งอาหารโลกมีมากน้อยแค่ไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะสิ่งที่เราพยายามช่วยเหลือในภูมิภาคของเราเอง เนื่องจากเรามีแหล่งอาหารเป็นจำนวนมาก ที่สามารถรวมกันในส่วนของอาเซียนเพื่อให้กับภูมิภาคอื่นๆ ซึ่งหลายๆ ที่จะพบปัญหาการนำเข้าอาหาร เช่น รัฐคูเวต ส่วนใหญ่ร้อยละ 90 จะนำเข้าอาหาร ตรงนี้จะทำให้เรานำเรื่องของแหล่งอาหารระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายที่สอดคล้องต้องกัน เพราะแต่ละประเทศในตะวันออกกลางจะเป็นที่ที่มีแหล่งพลังงานเยอะ เรียกว่าเป็นจุดแข็งของแต่ละประเทศมารวมกันให้เกิดความแข็งแรงในภูมิภาค
เมื่อถามว่ามีการหารือเรื่องข้าวหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เราได้พูดรวมเพราะเราไม่ได้มองเรื่องข้าวเพียงอย่างเดียว และข้าวก็เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทุกคนมีความต้องการอยู่แล้ว ในอนาคตเราก็อยากจะเห็นประเทศไทยเป็นแหล่งอาหารที่เริ่มตั้งแต่ข้าว และอาจจะมีพืชอื่นๆ ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารวมเพื่อให้เกิดการพัฒนาการทำงานร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อถามว่า เบื้องต้นคูเวตได้สั่งซื้อข้าวเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงรายละเอียด ตรงนี้เป็นการประชุมเอซีดี ส่วนการหารือของคูเวตเราเห็นชอบให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการร่วม ซึ่งเมื่อก่อนจะเป็นระดับของเจ้าหน้าที่ แต่วันนี้จะเป็นระดับรัฐมนตรี ถือเป็นครั้งแรกในการยกระดับเป็นระดับรัฐมนตรี โดยจะนำสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไปหารือในระดับของรัฐมนตรี และในส่วนนี้ไทยจะเป็นเจ้าภาพครั้งแรก
เมื่อถามว่า โครงการรับจำนำข้างยังมีการวิพากษ์วิจารณ์ต่อเนื่อง โดยล่าสุดทาง ส.ว.จะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยเห็นว่าการขายข้าวแบบจีทูจีเข้าข่ายมาตรา 190 ที่ต้องขอความเห็นจากรัฐสภาก่อน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขอเรียนว่าขั้นตอนการทำงานทุกอย่างรัฐบาลทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งได้ผ่านการหารือและความเห็นชอบจากกฤษฎีกาแล้ว อย่างไรก็ตาม เรายินดีที่จะให้ข้อมูลในการชี้แจง เมื่อถามว่ากฤษฎีกาได้ให้ความเห็นอย่างไรกับการขายข้าวแบบจีทูจี น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงได้ฟังทางเลขาฯ กฤษฎีกาให้สัมภาษณ์แล้ว จริงๆ เราได้ทำทุกอย่างตามขั้นตอน
เมื่อถามว่า มองอย่างไรโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ฝ่ายตรงข้ามพยายามนำมาเป็นประเด็นทางการเมือง จ้องล้มรัฐบาล นายกฯ กล่าวว่า จริงๆ ต้องขอ เพราะเราอยากให้มองประโยชน์ที่ให้แก่เกษตรกรมีมากเพียงใด อาจมีข้อกังวลต่างๆ แต่อยากให้มองภาพรวมมากกว่า เพราะไม่เช่นนั้นการที่จะเดินหน้าช่วยเหลือพัฒนารายได้ของเกษตรกรส่วนนี้จะทำได้ยาก ขอเรียนว่ารัฐบาลพยายามรับข้อห่วงใยต่างๆ นำไปทำงานในขั้นตอนให้เกิดความรัดกุมมากขึ้น แต่แน่นอนบนความรัดกุมมากจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากตามมา ต้องเรียนว่าขอความเห็นใจและไม่อยากให้มองเป็นประเด็นเรื่องการเมือง อยากให้มองว่าโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรมากกว่า
เมื่อถามว่าทางสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ อยากให้ลดราคาการรับจำนำข้าวจาก 1.5 หมื่นบาทต่อตัน เป็น 1.3 หมื่นบาทต่อตันเพื่อลดแรงเสียดทานและใกล้เคียงกับราคาตลาด นายกฯ กล่าวว่า ต้องมาคุยกัน คำว่ามาตรฐานอยากให้เป็น 1.3 หมื่นบาท มาอย่างไรถ้าบอกว่ามาจากฐานราคาเก่า เราต้องเรียนว่าฐานราคาเก่าเป็นฐานที่เรียกว่าไม่ได้ให้ความเป็นธรรมต่อราคาสินค้าหรือราคาข้าวให้แก่เกษตรกรจริงๆ สิ่งที่เราทำเราพยายามให้กลับไปสู่กลไกราคาที่เหมาะสม
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าโครงการนี้จะไม่เป็นดาบกลับมาทิ่มแทงรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขอเรียนว่าเราทำด้วยเจตนาที่ต้องการจะสร้างรายได้ให้เกษตรกร ต้องดูที่วัตถุประสงค์ก่อน อย่ามองวัตถุประสงค์เราเป็นด้านอื่นๆ เราก็ช่วยๆ กันในการแก้ปัญหาร่วมกัน อันนี้จะทำให้ประเทศเราก้าวไปได้ เมื่อถามว่าตอนนี้ยืนยันที่จะเดินหน้าโครงการต่อในราคา 1.5 หมื่นบาทใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ณ วันนี้ก็ดำเนินการอย่างนี้อยู่ คงต้องดูตามกลไกส่วนนี้ต้องใช้ราคานี้ก่อน ขณะเดียวก่อนเราก็ต้องตรวจดูให้เกิดความเหมาะสมในอนาคตก็ต้องพิจารณา แต่คงไม่ใช่มาหยุดปั๊บ ขอความกรุณาราคาที่ผ่านมาเป็นราคาที่ต่ำจริงๆ
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.พงศพัศมาสมัครเป็นผู้ว่าฯ ในนามพรรคเพื่อไทยหรือยัง นายกฯ ไม่ตอบคำถาม ขณะที่ พล.ต.อ.พงศพัศยืนยิ้ม พร้อมกับส่งนายกฯ ขึ้นรถออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ