“ปลอด” เริงร่าหลังเคลียร์ “สุขุมพันธุ์” ปมถุงทรายในท่อ อ้างตีปี๊บผ่านสื่อประชาชนจะได้รู้

หย่าศึกกระสอบทราย! “ปลอดประสพ” เสียงอ่อน แจงหลังหารือกับ “สุขุมพันธุ์” เผยกระสอบทรายในท่อระบายน้ำแค่ดำเนินการชั่วคราว หมดภารกิจก็เอาออกได้ ต่อไปทำ “แฟลปเกตส์” ในท่อระบายน้ำยันยังร่วมกันดี พลิกไม่เคยผสมโรงด่า กทม.ชี้ ที่พูดเป็นเรื่องเทคนิค พร้อมนำไปคุยในที่ประชุมพรรค อ้างตีปี๊บออกสื่อประชาชนจะได้รู้


วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) พร้อมด้วยนายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลักการประชุม กบอ.ที่มีการพิจารณาเรื่องการใช้ถุงทรายในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของ กทม.ว่า ขอบคุณ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ที่มาชี้แจงด้วยตัวเอง ซึ่ง กทม.ได้ชี้แจงว่า การใช้กระสอบทรายปิดกั้นน้ำท่วมหรือล้นเป็นการดำเนินการชั่วคราวเฉพาะพื้นที่และเวลา และเมื่อหมดภารกิจก็สามารถเอาออกได้ ไม่ใช่อยู่อย่างถาวร ต่อไปจะสร้างเครื่องมือควบคุมการไหลของน้ำหรือ Flap Gates (แฟลปเกตส์) ภายในท่อระบายน้ำ ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาวคุยกับ กทม.ว่าหากจะมีการปรับปรุงระบบระบายน้ำของ กทม.ที่สร้างมากว่าร้อยปี จะต้องรอการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ฉะนั้น ถ้าผู้ว่าฯ กทม.บอกว่า เป็นเรื่องชั่วคราวก็เข้าใจ เขาเห็นว่า เหมาะสมเมื่อใดก็เอาออกไปเพราะย่อมทราบความจำเป็นมากกว่าคนอื่น ยืนยันว่า จบลงด้วยดีไม่มีอะไร ในที่ประชุมก็เห็นด้วย และเข้าใจว่า เป็นเรื่องเทคนิคและการวางกระสอบทรายไม่ใช่แก้มลิงที่อุ้มรับน้ำ

ด้าน นายวัลลภ กล่าวว่า มาตรการการใช้ถุงทรายของ กทม.เป็นมาตรการชั่วคราว รวมถึงการสูบน้ำออกเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งเรื่องการสัญจรหรือที่อยู่อาศัย ซึ่งเราเข้าใจตรงกันว่า เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ กทม.ก็จะนำถุงทรายออก ทั้งนี้ กทม.ได้เปลี่ยนจากการใช้ถุงทรายมาใช้วิธีแฟลปเกตส์ ที่ใช้แรงดันน้ำมาเป็นตัวเปิดปิดในการช่วยบังคับน้ำ ซึ่งพื้นที่ กทม.เป็นพื้นที่ที่มีตัวแปรมาก ไม่ว่าจะเป็นการทรุดตัวของพื้นดินเพราะอยู่ใกล้ปากอ่าวและการที่องค์กรต่างๆ เข้ามาใช้พื้นที่ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการระบายน้ำของ กทม.ทั้งนี้ เราทำความเข้าใจว่าในอนาคตจะแก้ปัญหาไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องมีการปรับปรุงระบบระบายน้ำ ที่ต้องคำนึงถึงความแออัดของเมืองและการจราจร ซึ่งทาง กทม.และ กบอ.ทำงานด้วยกันมาโดยตลอด และมีเป้าหมายที่ตรงกัน ที่ไม่ให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติและการบายน้ำ ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ก็ได้มาเรียนว่า กทม.เข้าใจและจะดำเนินการตามที่ กบอ. ชี้แจง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการประสานงานอยู่ตลอด ทำไมกรณีที่พบถุงทราย จึงไม่หารือเป็นการภายใน ทำไมจึงมีการออกมาตอบโต้ นายวัลลภ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ทางสื่อเสนอ และตั้งแต่มีประเด็นนี้ขึ้นมา ทาง กบอ.เพิ่งจะมีการประชุมกันในวันนี้ เราเดินไปข้างหน้าดีกว่าไหม ตนในฐานะตัวแทนผู้ว่าฯ กทม.ที่อยู่ใน กบอ.ก็ได้ทำงานร่วมกับคณะกรรมการมาโดยตลอด การแก้ปัญหารับมือพายุแกมีที่ผ่านมา เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าการประสานความร่วมมือทาง กทม.กบอ.กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เกิดผลสัมฤทธิ์ รวมถึงการดูแลประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่าง ปทุมธานี นนทบุรี ทาง กทม.ก็ได้ประสานกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ

เมื่อถามว่า แสดงว่า จากนี้ไปทั้งสองฝ่ายจะไม่มีความขัดแย้งกันอีก นายวัลลภ กล่าวว่า อย่ามองเป็นความขัดแย้ง ตนมองว่าเป็นแนวความคิดเชิงวิชาการ ตนว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีความเข้าใจตรงกันและไม่มีความขัดแย้ง ซึ่งมาตรการถุงทรายและเรื่องเทคนิคของ กทม.นั้น ตรงนี้ก็มีความเข้าใจตรงกันว่าเรื่องถุงทรายเป็นมาตรการชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาบนพื้นผิวการจราจรและสาธารณูปโภค การใช้ถุงทรายเป็นมาตรการที่เร็วกว่าแฟลปเกตส์ ซึ่ง กทม.เองก็ขยายพื้นที่มากขึ้นทุกวัน และได้วางระบบระบายน้ำไว้ชัดเจนแล้ว ถามต่อว่า การพบกันครั้งนี้เป็นการจบปัญหาด้วยดีใช่หรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า เอาเป็นว่าปีนี้ กทม.น้ำไม่ท่วมแล้ว ปีหน้าแฟลปเกตส์มีมากขึ้นเท่าไหร่ ถุงทรายก็จะมีน้อยลง และเมื่อไหร่ระบบท่อพัฒนาสมบรูณ์ก็ไม่มีอะไรไปรบกวนความเป็นอยู่ของประชาชน

เมื่อถามว่า จะนำข้อมูลนี้ไปชี้แจงกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่เปิดประเด็นนี้หรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า บางส่วนที่ถกเถียงกันอยู่เป็นคนละเรื่องที่ตนกำลังแก้ปัญหาอยู่ตอนนี้ เอาเป็นว่าอีกไม่ช้าก็จะหมดไป ท่อก็จะสะอาด หากมีการใช้แฟลปเกตส์ที่ถาวร และมีคุณภาพ ซึ่งที่ตนได้ออกมาสมทบกรณีถุงทรายนั้น เป็นเรื่องของเทคนิค และตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบลอกท่อของ กทม.ต้องไปถามคนที่ยกประเด็นนี้ขึ้นมา หน้าที่ของตนนั้น คือ ทำให้ท่อระบายน้ำเสียได้ มีโครงการที่ถาวร ทั้งนี้ ในการประชุมพรรคตนจะนำเรื่องนี้ไปเล่าในสมาชิกพรรคฟัง หากจะถามไปในทางการเมือง เขาก็เป็นความสงสัยที่มักจะถามไถ่เป็นปกติตามธรรมชาติ

เมื่อถามว่า การถามผ่านสื่อเป็นการถามที่ค่อนข้างหนัก ทำไมไม่ถามกันภายใน นายปลอดประสพ กล่าวว่า ถามภายในประชาชนไม่รู้ ถามผ่านสื่อประชาชนรู้ เอาเป็นว่าเรื่องนี้จบด้วยดี ประชาชนได้รับประโยชน์ ต้องขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจ และเชื่อว่ามาตรฐานต่อประชาชนไม่เป็นผลลบ