xs
xsm
sm
md
lg

“เฉลิม” เหยียบ มท. ปัดชิมลางก่อนนั่งเก้าอี้ ป้อง “นช.แม้ว” ไม่ได้ขัดคำสั่งศาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ เข้ามหาดไทยครั้งแรกหลังถูกมอบหมายให้ดูแลแทน “ยงยุทธ” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ก่อนมอบนโยบายข้าราชการ ชู “ชูชาติ” รักษาการงานยังดี ปัดชิมลางก่อนนั่งจริง โยนนายกฯ ตัดสินปรับ ครม.เมื่อไหร่ ยัน “นช.แม้ว” ไม่ได้ขัดคำสั่งศาล บอกไม่ต้องทำอะไรเพราะไม่ยอมรับอำนาจรัฐประหาร


วันนี้ (12 ต.ค.) ที่กระทรวงมหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ได้เดินทางมาเพื่อมอบนโยบายแก่ ผวจ. และติดตามงานของรองนายกฯ (ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หรือวิดีทัศน์ทางไกล โดยมี นายฐานิสร์ เทียนทอง รมช.มหาดไทย (มท.3) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และอธิบดีกรมต่างๆ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงประจำกระทรวงให้การต้อนรับ โดย ร.ต.อ.เฉลิมได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงมหาดไทยทั้งหมดก่อนมอบนโยบาย และให้สัมภาษณ์ก่อนมอบนโยบายว่า การมอบนโยบายวันนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ หรือมีนโยบายใหม่ เพราะนโยบายรัฐบาลมีอยู่แล้ว เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมานายกฯ ก็ได้มอบนโยบายไปแล้ว แต่ตนติดการประชุมสภาเลยไม่ได้เข้าร่วม แต่ครั้งนี้เป็นการนัดหมายเอาไว้ล่วงหน้า

เมื่อถามว่าจะเน้นขับเคลื่อนงานอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยไม่มี รมว.มหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เท่าที่ติดตามงานก็ยังคงคืบหน้า นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ รมช.มหาดไทย (มท.2) ทำงานได้ดี ไม่มีปัญหา

เมื่อถามว่า จะเข้ามาดูงานอย่างต่อเนื่องหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เนื่องจากนายกฯ ได้มอบหมายมาดูงานอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นการชิมลางในตำแหน่งนี้ก่อน นายกฯ เห็นว่าที่ผ่านมาก็เคยได้รับตำแหน่ง รมว.มหาดไทยมาก่อน บรรยากาศการต้อนรับวันนี้ (12 ต.ค.) ถือว่าอบอุ่น ซึ่งชีวิตตนตั้งแต่เล่นการเมืองมาอยากเป็น รมว.มหาดไทยใจจะขาดก็เป็นไปแล้ว ส่วนจะเป็นอีกได้หรือไม่นั้น นายกฯ ยังไม่ปรับ ครม. ข่าวการปรับ ครม.ช่วงเดือน พ.ย.ก็ไม่ทราบเพราะเป็นแค่ข่าว ขณะที่การปรับ ครม.หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้นตอบแทนไม่ได้ เพราะเป็นอำนาจการตัดสินใจของนายกฯ

เมื่อถามว่า พร้อมหรือไม่หากมีการปรับ ครม. ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ได้หรอก ทหารที่ดีต้องไม่ให้ราคาตัวเอง กระแสข่าวที่ว่าจะมานั่ง มท.1 นั้นไม่จริงเพราะตนมีงานหนักอยู่แล้ว

รองนายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในคดีอนุมัติธนาคารกรุงไทยปล่อยสินเชื่อจำนวน 9,000 ล้านบาทให้บริษัทในเครือกฤษดามหานครว่า เป็นกรณีที่ศาลออกหมายเรียก พ.ต.ท.ทักษิณ แต่มาไม่ได้ เพราะอยู่ต่างประเทศกว่า 5 ปี และหมายที่ออกมาไม่ได้ชี้ว่าผิดหรือถูก อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นการขาดเจตนาไม่ได้ขัดคำสั่งศาล แต่เมื่อศาลออกหมายก็เป็นดุลพินิจของศาล พ.ต.ท.ทักษิณเป็นนายกฯ ไม่ได้มีหน้าที่ปล่อยกู้เอง แต่เป็นหน้าที่ของกรรมการผู้จัดการใหญ่ กรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณเกิดจากอำนาจปฏิวัติ ขั้นตอนต่อไปก็ไม่ต้องทำอะไร เพราะเราไม่ยอมรับอำนาจคณะปฏิวัติ ถ้าฝ่ายค้านไม่พอใจก็ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้เลย

“ผมเป็นคนตรงไปตรงมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หน.พรรคประชาธิปัตย์ อย่าพยายามนำเรื่องนี้ไปเกี่ยวข้องกับกรณีมารดาของนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเป็นคนละกรณีกัน” รองนายกฯ กล่าว

มีรายงานว่า ในระหว่างการประชุมนั้น ร.ต.อ.เฉลิม ได้กล่าวตอนหนึ่งในเรื่องนโยบายรับจำนำข้าว ว่า นโยบายจำนำข้าวเป็นนโยบายที่รัฐบาลประกาศไว้ในการหาเสียง เมื่อพรรคเพื่อไทยได้รับเลือกมา 265 เสียง หมายความว่าประชาชนสนับสนุนนโยบายนี้ การจำนำข้าวต่างจากประกันราคาเพราะการจำนำต้องมีข้าวในมือซึ่งรัฐบาลกำหนดชัดเจนว่าราคารับประกันขั้นต่ำคือ 10,000 บาท แต่พอพ่อค้าคนกลางที่ได้รับความเดือดร้อนต้องซื้อข้าวราคาแพงขึ้นจึงออกมาคัดค้าน เป็นการเอาเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาบดบังโอกาสของชาวนา ขอยืนยันว่ากับผู้ว่าราชการจังหวัดให้รู้ว่ารัฐบาลยืนยันจะดำเนินโครงการนี้ต่อไป

“ผมไม่ได้คิดว่าผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีความรู้ เพราะท่านอยู่ในพื้นที่ แต่รัฐบาลถูกโจมตีเรื่องนี้เหลือเกิน ฝ่ายค้านก็โจมตี พอไปตรวจสอบก็ไม่พบ นายกรัฐมนตรีกำชับกับผมอย่างเข้มแข็งชัดเจนไม่ว่าพวกใครทั้งนั้นถ้าใครทุจริตดำเนินการทันทีไม่มีการละเว้น“ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น