ปชป.ซัดพท.เบาปัญญา จัดปาหี่รื้อกระสอบ-เย้ย "ปู" บื้อ นั่งนายกฯ ไม่รู้โกงจำนำข้าว

"ชวนนท์" อัด "เด็จพี่" พร้อมคณะส.ส.พท. น่าละอายใจรื้อกระสอบทราย หวังแค่ดิสเครดิตทางการเมือง ไม่สนใจปชช. ขัดม.266 แทรกแซงขรก. ชี้ช่องปชช.กทม.ท่วมฟ้องได้ แจงวางกระสอบบล็อคน้ำคลองหัวหมาก กันท่วมถ.ศรีนครินทร์-มอเตอร์เวย์-อัดพาณิชย์ ส่งออกสีข้าว ใช้สวมสิทธิ เวียนเทียนข้าว กุส่งออก 7.328 ล.ตัน ทั้งที่ยังไม่ส่งออก ท้าให้ประเทศคู่ค้ายืนยัน อนาถ "ยิ่งลักษณ์" เป็นนายกฯ ดันไม่รู้เรื่อง

วันนี้ (9ต.ค.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยและส.ส.เพื่อไทย เดินทางไปนำถุงทรายออกจากท่อระบายน้ำบริเวณแยกลำสาลีว่า เป็นการแสดงปาหี่ตบตาประชาชน แสดงให้เห็นถึงความไม่รู้เกี่ยวกับระบบการระบายน้ำ เอาความทุกข์ของประชาชนมาเป็นประโยชน์ทางการเมือง ละเมิดทรัพย์สินราชการ แทรกแซงการทำหน้าที่ของข้าราชการขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 ทั้งนี้สาเหตุที่กทม.นำถุงทรายไปอุดในบริเวณดังกล่าว เพราะต้องการบล็อคน้ำจากคลองหัวหมาก เนื่องจากระดับน้ำคลองหัวหมากสูงกว่าพื้นที่ถนนและไหลย้อนมาท่วม ถ.ศรีนครินทร์ และ มอเตอร์เวย์ จึงต้องบล็อคบางจุด เพื่อเปลี่ยนทิศทางให้น้ำไปยังคลองกะจะ ที่เชื่อมโยงกับคลองแสนแสบ จากนั้นจะถูกผลักดันไปยังอุโมงค์ยักษ์ออกทะเล เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมของ กทม. ขณะนี้พื้นที่บริเวณดังกล่าวจะเห็นได้ว่าไม่ประสบภาวะน้ำท่วมเหมือนในอดีต เพราะการบริหารจัดการของ กทม. แต่คนของพรรคเพื่อไทยเบาปัญญา จงใจเอามาดิสเครดิตทางการเมือง ผลเสียตกอยู่กับคน กทม.

“ ไม่มียุคสมัยไหนที่นักการเมืองมีวุฒิภาวะตกต่ำอย่างน่าละอายใจอย่างนี้ คนกรุงเทพฯต้องให้บทเรียน ถ้าหากพรรคเพื่อไทยอยากบริหาร กทม.ให้แข่งที่นโยบายไม่ใช่ทำร้ายประชาชนอย่างที่กำลังทำในขณะนี้ ขอให้ละอายใจบ้าง ถ้าอยากเป็นผู้ว่ากทม.เอาชนะพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง แต่ถ้าทำอย่างนี้เชื่อว่าคนกทม.จะลงโทษพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้นอกจาก กทม.แจ้งความทำลายทรัพย์สินทางราชการและการแทรกแซงการบริหาร ในส่วนของพรรคจะดูส.ส.ไปแทรกแซงการทำงานของข้าราชการจะผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 266 หรือไม่ ถ้าประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมก็มีสิทธิฟ้องร้องนักการเมืองพรรคเพื่อไทยที่ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนเพื่อหวังผลทางการเมืองด้วย”นายชวนนท์กล่าว

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์​ ยังกล่าวว่า กรณีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะแม้จะเสียงบประมาณประเทศ 4-5 แสนล้านบาทแต่ก็ไม่ส่งผลร้ายเท่ากับมีการทุจริตทุกขั้นตอน ที่มากที่สุดคือ​สวมสิทธิ เวียนเทียนข้าว การตั้งเป้าส่งออกลม หรือ เป้าส่งออกสีขาวของกระทรวงพาณิชย์ การอ้างการส่งออก 7.328 ล้านตัน ทั้งที่ยังไม่มีการส่งออกรัฐต่อรัฐนั้นไม่สามารถปิดบังความจริงได้เพราะยังไม่พบการบันทึกการส่งออกข้าวจำนวนมากขนาดดังกล่าว

ทั้งนี้ น่าเสียใจที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ​ออกมาทำท่าเหมือนไม่รู้เรื่องรู้ราว และพยายามกล่าวอ้างจากแหล่งข่าวจะให้ทีมงานไปเค้นเอาข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งไม่ทราบว่าเล่นเกมอะไรกันอยู่เพราะนายกฯ เป็นประธาน คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กนข.) รมว.พาณิชย์เป็นรองประธาน โดยภาระหน้าที่กรรมการชุดนี้ระบุชัดว่าเสนอนโยบายยุทธศาสตร์ข้าวต่อนายกฯทั้งระยะสั้นระยะยาวเพื่อให้การจัดการข้าวสอดคล้องทั้งระบบ อนุมัติแผนงานโครงการทั้งมาตรการการผลิตและการตลาด ไม่แน่ใจว่านายกฯ ลืมหรือไม่ทราบว่าดำรงตำแหน่งนั้นจึงต้องขอข้อมูลจากการะทรวงพาณิชย์​ แม้จะไม่ได้เป็นประธานกรรมการชุดนี้แต่ยังเป็นนายกฯ ซึ่งนายกฯ​แม้จะมีการทุจริตเพียงกก.เดียวก็ต้องรู้ แต่นี่ข้าวเป็นล้านตันถูกสร้างออเดอร์ลมสต็อกลมเวียนเทียนข้าวกลับเข้ามาโดยไม่มีการส่งออก

นายชวนนท์ กล่าวว่า ถ้ากระทรวงพาณิชย์จะยืนยันว่าจะมีการส่งออกจริง ขอท้าว่าให้เปิดเผยข้อมูล แม้จะไม่อยากเปิดเผยเรื่องราคาเพราะจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มีการสั่งซื้อ ดังนั้นขอให้กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยประเทศที่มีคำสั่งซื้อ และ จำนวนข้าวที่มีส่งมอบจริง รวมทั้งวันที่ส่งออกข้าวไปยังประเทศดังกล่าว​ และเปิดเผยคำยืนยันจากประเทศนั้นๆ​ ว่าเขาได้รับข้าวตามจำนวนที่กล่าวอ้างจริงไม่ต้องเปิดเผยราคาก็ได้ ถ้าบอกได้ก็ถือว่ากระทรวงพาณิชย์ทำงานสำเร็จ ถ้าชี้แจงไม่ได้ก็ถือเป็นการส่งออกสีขาวหรือส่งออกลม