“ยิ่งลักษณ์” มอบ “เฉลิม” คุม ปคอป.-ศอ.บต.-กพร. แทนอดีต มท.1 ที่ดินอัลไพน์ ส่วนงานคมนาคม ให้ “โต้ง” ดู และ “บิ๊กอ๊อด” รับผิดชอบ พม. ขณะที่ รมช.มท. ขึ้นแท่นรักษาการ รมต.มท. ยันไม่ปรับ ครม.ช่วงนี้ แต่อนาคตไม่รับปาก-เผย สบอช.เตือนพร่องน้ำในเขื่อน รับพายุเข้าไทย พร้อมถก กทม.เคลียร์ลอกท่อช่วยการระบายน้ำ สั่ง “ชัชชาติ” วางยุทธศาสตร์แก้รถติด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง"น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (2 ต.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการแบ่งงานตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ภายหลังนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ลาออกจากตำแหน่งว่า การแบ่งงานมี 2 ระดับ โดยงานในส่วนของรมว.มหาดไทยได้มอบหมายให้นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ ในฐานะรมช.มหาดไทยรักษาการ ส่วนเนื้องานของรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับกระทรวงที่นายยงยุทธรับผิดชอบอยู่จะมีงานในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ก็ได้มอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ดูแล
ผู้สื่อข่าวถามว่า มอบหมายให้ใครเป็นประธานคณะกรรมการประสานและติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ได้ให้ ร.ต.อ.เฉลิมดูแล คืองานทั้งหมดของนายยงยุทธจะกระจายไปที่รองนายกฯแต่ละท่าน ส่วนใหญ่ร.ต.อ.เฉลิมจะกำกับดูแลมหาดไทย คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) รวมถึงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ด้วย ส่วนงานด้านคมนาคมมอบให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ดูแลส่วนงานของสำนักพุทธฯ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์มอบให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ ดูแล
เมื่อถามว่า การปรับคณะรัฐมนตรียังไม่มีตอนนี้ใช่หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ยัง ตอนนี้อยากให้งานต่อเนื่องโดยเร็ว ซึ่งได้มอบหมายงานไปแล้ว เมื่อถามว่าจะทิ้งระยะเวลารักษาการนานแค่ไหน น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า คงต้องดูก่อน ต้องทำงานก่อน อย่างที่เรียนยังไม่ได้คุยเรื่องการปรับครม. ยังอยากเร่งการทำงาน เพราะช่วงนี้เรื่องพายุน้ำฝนต่างๆ มาแล้ว อยากจะเร่งแก้ปัญหาให้กับประชาชนก่อน เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องนำมาคิดในการปรับ ครม.ด้วยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวปฏิเสธว่าไม่ เราก็ทำงานตามปกติ เมื่อถามว่า สิ้นปีนี้จะเห็นการปรับครม.หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า อย่าเพิ่งถามอย่างนั้นเพราะถามเรื่องอนาคต ตอบยาก
นายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุที่จะเข้าในวันที่ 6-7 ตุลาคมนี้ว่า ทางสำนักนโยบายและการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ หรือ สบอช.ได้รายงานแล้ว เบื้องต้นรัฐบาลได้ให้เตรียมการพร่องน้ำในเขื่อนไว้ ขณะเดียวกัน เรื่องการขุดลอกคูคลองและลอกท่อคงเป็นปัจจัยที่ต้องเน้นย้ำหน่วยงานไหนที่จะช่วยเหลือทาง กทม.ได้ก็ยินดีที่จะเสริมภาพรวมในการระบายน้ำตรงนี้ เนื่องจากพายุนี้น้ำฝนจะมาในพื้นที่ตอนกลาง จะเร่งการระบายน้ำฝั่งตะวันอออกเพิ่มเติม บางจุดจะมีการย้ายเครื่องสูบน้ำไว้รอด้วยในจุดที่คิดว่าเสี่ยง นอกจากนี้จะเสริมแก้ไขปัญหาเรื่องการจราจร โดยได้สั่งการให้ทางจราจรและทางหลวง ซึ่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมช.คมนาคม จะเข้ามาร่วมวางยุทธศาสตร์ร่วมกันในการบริหารดูแลเรื่องจราจรในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล เพื่อแบ่งเบาความแน่นในคอขวดแต่ละที่
ส่วนข้อเสนอของนายชัชชาติในการแก้ไขปัญหาจราจรนั้น โดยหลักมีคณะกรรมการอยู่แล้ว เพราะเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะจุด ขอให้เป็นรายละเอียดของคณะกรรมการที่รับผิดชอบ
