ASTVผู้จัดการ – “จักรพันธุ์-พิชญ์” รีบแจงผ่านเฟซบุ๊ก หลังข่าวโครงการพาสื่อ-นักวิชาการสายแดง ทัวร์ยุโรปสุดหรู ที่ ปธ.สมศักดิ์ จัดให้ถูกปูด “จักรพันธุ์” แจงเมีย-ลูกจ่ายเงินมาเอง ในฐานะผู้ติดตาม ส่วนดูบอลคู่แดงเดือด สนับสนุนโดยผู้ใหญ่เครือสยามกีฬา “พิชญ์” ยอมรับดูบอล-กินหรูจริง แต่มาตามที่ทัวร์จัด และลาราชการมาถูกต้องในฐานะนักวิชาการ
จากกรณีที่วานนี้ (19 ก.ย.) มีสื่อมวลชนหลายแขนงนำเสนอข่าว ระบุว่า นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา ได้พาคนใกล้ชิด พร้อมคณะสื่อมวลชนและคอลัมนิสต์ รวม 30 กว่าคน ไปเยือนทวีปยุโรป ได้แก่ ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และ เบลเยียม ระหว่างวันที่ 19-27 ก.ย.ตามโครงการดูงานรัฐสภา สื่อ และวิชาการใน 3 ประเทศดังกล่าว โดยใช้งบประมาณปี 2555 ประมาณ 7 ล้านบาท
สำหรับการเดินทางไปเยือนต่างประเทศในทวีปยุโรป ของคณะนายสมศักดิ์ เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของข้าราชการในรัฐสภา สื่อมวลชนประจำรัฐสภา และประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการดูงานในระหว่างทีเปิดสมัยประชุมสามัญทั่วไป รวมทั้งพบว่า มีกิจกรรมไม่เหมาะสมกับการใช้เงินงบประมาณ ซึ่งมาจากภาษีประชาชน อาทิ การรับประทานอาหารที่ภัตตาคารโฟร์ซีซันส์ ลอนดอน และ บลูมเบอรี ลอนดอน การพักที่โรงแรมปาร์ก พลาซา เวสต์มินสเตอร์ การพาไปซื้อของที่โบโรห์มาร์เกต และการพาชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ฟุตบอลคู่แดงเดือด ระหว่างสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล รับประทานอาหารแบบฝรั่งเศส บนเรือที่ล่องแม่น้ำเซนน์ เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีผู้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า คณะเดินทางดังกล่าวเป็นการตอบแทนกลุ่มสื่อ คอลัมนิสต์ นักวิชาการ ที่อยู่ฝั่งพรรคเพื่อไทย และเสื้อแดง ยกตัวอย่างเช่น มีตัวแทนสื่อ-ผู้ดำเนินรายการผ่านทางสถานีโทรทัศน์วอยซ์ ทีวี สถานีโทรทัศน์ซึ่งตระกูลชินวัตร เป็นเจ้าของร่วมคณะไปอย่างน้อย 5 คน ทั้งยังมีข้อสงสัยอีกด้วยว่า มีการพาเครือญาติของประธานสภาฯ และคนในพรรคเพื่อไทย ไปในฐานะผู้ติดตามอีกด้วย
ล่าสุด ในช่วงเที่ยงและช่วงบ่ายวันนี้ (20 ก.ย.) นายจักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ อสมท ได้พาภรรยา คือ นางอิสรา ยมจินดา และลูกสาว คือ น.ส.ศิริภาส ยมจินดา รวมทั้งตัวแทนจากบริษัท แมกซิมา สตูดิโอ จำกัด ที่ นายจักรพันธุ์ เป็นผู้ก่อตั้งไปร่วมคณะด้วย ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว จักรพันธุ์ ยมจินดา ระบุว่า ตนเองไม่ได้ร่วมคณะดังกล่าว แต่เดินทางมาสเปนกับคณะของผู้บริหาร อสมท เพื่อดูงานเกี่ยวกับโทรทัศน์ดิจิตอล และเดินทางต่อไปยังประเทศอังกฤษ ตามคำเชิญของผู้ใหญ่ในเครือสยามกีฬา พร้อมระบุด้วยว่า ภรรยาและบุตรสาวของตน ไม่ได้เดินทางมาอังกฤษในงบประมาณของรัฐสภา แต่ออกค่าใช้จ่ายเอง
“ผมขออนุญาตชี้แจงดังนี้ครับ ผมเดินทางมาอังกฤษจริงกับคณะของบอร์ด อสมท โดยก่อนหน้าประเทศอังกฤษ ผมได้เดินทางไปสเปน เพื่อดูงาน เพื่อดูเรื่องทีวีดิจิตอล และจากนั้นเดินทางเข้าอังกฤษ เพื่อดูบีบีซี และอีกหลายที่รายละเอียด รวมทั้งหมายกำหนดการของผมและบันทึกการประชุม สามารถตรวจสอบได้ที่ สำนักอำนวยการของ อสมท หรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ ครับ
“ผมยังอยู่อังกฤษต่อ เพื่อที่จะดูฟุตบอลกับทางสยามสปอร์ต เพราะมีความสนิทสนมกันเป็นการส่วนตัวกับผู้ใหญ่ของสยามสปอร์ต ในส่วนของสภาฯ ผมได้รับมอบหมายให้เชื่อมกับสื่อ ดังที่มติชนทราบ เมื่อสื่อผู้ใหญ่ที่คุ้นเคยกัน และนักวิชาการที่ผมเคารพที่ได้เชื่อมให้เพื่อเป็นวิทยากรในคณะนี้ร่วมเดินทางด้วย ผมเลยขอไปทางสยามสปอร์ตว่าจะมีที่เหลืออีกหรือเปล่า สำหรับ box vip ที่สยามสปอร์ต เป็นเจ้าของ ถ้าพอมีที่สื่อผู้ใหญ่ในคณะจะได้ร่วมดูด้วยกัน ในส่วนของภรรยาและลูกสาว ไม่ได้จะเดินทางด้วยงบของสภาฯร่วมกับคณะนี้ ครอบครัวเราออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด และเราเดินทางมีประเทศอังกฤษค่อนข้างบ่อย เพราะลูกสาวเพิ่งจบการศึกษาจากที่นี้ โดยลูกสาวของผมมีหน้าที่ช่วยประสานกับนักวิชาการ และสื่อผู้ใหญ่บางท่านที่ผมเชื่อมเอาไว้ให้ตั้งแต่แรกในช่วงที่ผมได้เดินทางไปกับคณะของ อสมท แล้ว โดยเฉพาะประสานให้กับทางผู้ใหญ่ในสยามสปอร์ต ว่า ใครจะดูหรือไม่ดูบ้าง จะได้เดินทางไปสนามฟุตบอลพร้อมผมเพียงเท่านั้น เท่าที่ทราบ ผู้ที่จะร่วมชมฟุตบอลมีเพียงสื่อไม่กี่ท่าน ซึ่งผมเข้าใจว่าเป็นการสื่อสารที่ผิดพลาด รายละเอียดทั้งหมด สามารถตรวจสอบได้ ทั้งไม่ว่าจะเป็นค่าตั๋วเครื่องบินที่เราออกเอง และเอกสารการเดินทางของ อสมท ครับ
“ขณะนี้ผมยังคงอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และทางบ้านก็ตกใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะว่าเราเดินทางของเราเอง และทุกครั้งที่ผมเดินทางกับสภาผู้แทนราษฎร เมื่อครั้งเป็นสมาชิก ครอบครัวของผมก็จ่ายเงินค่าทัวร์ในฐานะผู้ติดตามทุกครั้ง ในราคาที่แพงอย่างไร้เหตุผล แต่จำต้องจ่าย เพราะต้องการให้ครอบครัวเดินทางไปด้วย ตัวผมก็ตกใจว่าสื่อสารกันผิดพลาดอย่างไรทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต เลยต้องชี้แจงมา ณ ที่นี้ครับ
“ต้องขออภัย พี่ระวิ โหลทอง ด้วยครับ ที่หวังดีให้ผมและสื่อผู้ใหญ่ที่สนิทกันดูบอลฟรี แต่เข้าใจกันผิดไปมากมาย” นายจักรพันธุ์ ระบุผ่านเฟซบุ๊ก
ขณะที่ นายพิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ รองคณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้จัดรายการทางสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี ซึ่งมีชื่อระบุว่า เดินทางไปในฐานะคอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ก็ออกมา ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กที่ชื่อ Pitch Pongsawat โดยยอมรับว่า เดินทางไปพร้อมกับคณะดังกล่าวด้วยงบประมาณของรัฐจริง แต่ไปในฐานะนักวิชาการพร้อมกับ นายวิโรจน์ อาลี นักวิชาการจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อดูงานด้านรัฐสภา แต่เนื่องจากมีข้อผิดพลาดด้านการทำรายชื่อและตำแหน่ง
พร้อมกันนั้น ยังยอมรับด้วยว่า มีกำหนดการจะไปชมฟุตบอลอังกฤษจริง โดยอ้างว่าได้รับการอนุเคราะห์จากสื่อในเครือสยามกีฬา ขณะที่ในส่วนของร้านอาหาร ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่ามีการพาไปรับประทานในร้านอาหารหรู โดยระบุว่าไปตามข้อเสนอของบริษัททัวร์
นายพิชญ์ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า หากเรื่องนี้ไม่ใช่การกลั่นแกล้งกันเองของคนภายใน และผู้ที่ไม่ได้ร่วมคณะไปด้วย ก็น่าจะเป็นเรื่องดี ว่า จะมีการตรวจสอบว่าการเดินทางไปด้วยภาษีอากรของประชาชนจะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน
“ก็ดีครับถ้าจะตรวจสอบว่าการไปครั้งนี้ มีประโยชน์ต่อสังคมมากน้อยแค่ไหน ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของความพอใจ และไม่พอใจของคนในที่เล่นกันเอง หรือคนที่ไม่ได้ไป (เนื่องจากเอกสารในการเดินเรื่องทั้งหมดล่าช้ามาก หากสื่อจะให้ความเป็นธรรมกับคนที่ถูกวิจารณ์ในตอนนี้ และควรจะสอบถามด้วยว่าเหตุใดเอกสารในการเดินทางจึงล่าช้าขนาดที่จำเป็นต้องเปลี่ยนกำหนดการเยือนอีกสองประเทศ เนื่องจากไปขอวีซ่าไม่ทัน)” นักวิชาการผู้ดำเนินรายการทางวอยซ์ ทีวีระบุ
สำหรับข้อความทั้งหมดที่นายพิชญ์กล่าวชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กเมื่อช่วงเที่ยงมีดังนี้
“ขอแจ้งข่าวหน่อยครับ เรื่องการเดินทางไปดูงานกับรัฐสภา สรุป คือ ผมไปจริง โดยเป็นการเชิญไปดูงานกับคณะนักข่าวและนักวิชาการ กระผมกับอาจารย์วิโรจน์ อาลี ไปในฐานะนักวิชาการ แต่มีข้อผิดพลาดในการทำรายชื่อที่ทำให้เขาใส่ affiliation ผิด โดยไปใส่ว่าเป็นคอลัมนิสต์ ของคมชัดลึก (ผมได้แจ้งเขาไปแล้วตั้งแต่แรก)
“ประเด็นก็คือ ผมเป็นคอลัมนิสต์คมชัดลึกจริง แต่ไม่ใช่พนักงาน และไม่ได้ไปในฐานะคอลัมนิสต์ หลักฐานสำคัญ ก็คือ ผมเดินทางด้วยพาสปอร์ตราชการ เพราะลาราชการตามจดหมายเชิญของทางสำนักงานสภาฯ และสถานทูตเขาก็โทร.มาสอบถามแล้วในขั้นตอนการขอวีซ่า
“ดังนั้น ต้องขอชี้แจงทางสำนักข่าวเนชั่นด้วยนะครับ ว่า เป็นการเข้าใจผิดกัน หากจะเข้าใจว่าผมไปในฐานะนักข่าว หรือพนักงานของเนชั่น เพราะผมไปในฐานะนักวิชาการที่ไปคอยให้ความรู้ในเรื่องสภาฯกับเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับอังกฤษ (ก็ดูวุฒิการศึกษาเอาแล้วกันครับผม) การดูงานครั้งนี้เป็นการดูงานเรื่องสื่อ เมือง และรัฐสภา
“ส่วนโปรแกรมวันหยุด น่าไปดูบอลจริง (ได้รับแจ้งว่าได้รับการอนุเคราะห์จากหนังสือพิมพ์สยามสปอร์ต) และร้านอาหาร ก็ไม่แน่ใจว่าอย่างไร เพราะยังไม่ได้ไปกิน แต่ข้อมูลที่ออกไปน่าจะเป็นการเขียนโปรแกรมจากบริษัททัวร์ ดังนั้น ก็คงจะเขียนหวือหวาไปตามประสาของบริษัทนั่นแหละครับ เพราะเป็นโปรแกรมที่เป็นข้อเสนอของบริษัททัวร์”
“ก็ดีครับถ้าจะตรวจสอบว่า การไปครั้งนี้มีประโยชน์ต่อสังคมมากน้อยแค่ไหน ถ้าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของความพอใจ และไม่พอใจของคนในที่เล่นกันเอง หรือคนที่ไม่ได้ไป (เนื่องจากเอกสารในการเดินเรื่องทั้งหมดล่าช้ามาก หากสื่อจะให้ความเป็นธรรมกับคนที่ถูกวิจารณ์ในตอนนี้ และควรจะสอบถามด้วยว่าเหตุใดเอกสารในการเดินทางจึงล่าช้าขนาดที่จำเป็นต้องเปลี่ยนกำหนดการเยือนอีกสองประเทศเนื่องจากไปขอวีซ่าไม่ทัน) เอาเป็นว่าเดี๋ยวจะอัปเดตให้ทราบเป็นระยะ ครับผม”