ประธานสภาฯ ยันพาสื่อไปดูงานอังกฤษไม่มีอะไร อ้างให้ศึกษาการทำงานพาร์เลียเมนต์ ไปเปิดหูเปิดตา เจอซักไร้เงานักข่าวสภาแถเน้นผู้บริหารแต่ละสำนัก โอดไม่ได้มีเจตนาเอาเฉพาะพวกใกล้ชิดรัฐ เผย “จักรพันธ์” แค่ประสานให้ดูแดงเดือดวันหยุด ชี้เจ้าตัวใช้งบ อสมท ไปหลายวันแล้ว โอ่พาลูกสาวไปใช้เงินส่วนตัว ป้องลูกเมียบอร์ดช่อง 9 ไปในนามสื่อ โบ้ยไม่ได้ไปแค่คนเดียว เมินสอบด้วย เฉไฉให้ก๊วนกีฬาไปดูงานบีบีซี แจงทำเงียบๆ ไม่อยากให้โฉ่งฉ่าง โทษประสานบกพร่อง แย้มเล็งไปจีนแทน ส่วนพวกไปแล้วก็ปล่อยตามกำหนด ลั่นพร้อมแจง รับอาจบกพร่องบ้าง
วันนี้ (20 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์เรื่องที่พาสื่อมวลชนไปดูงานระหว่างสมัยประชุมที่ต่างประเทศ ดูฟุตบอล และนอนโรงแรมหรูว่า ตนจะเดินทางไปอังกฤษในวันที่ 21 ก.ย. กลับวันที่ 26 ก.ย.หลังจากที่สื่อฯ ส่วนใหญ่ไปในวันนี้ และประเด็นดังกล่าวไม่มีอะไร เป็นเรื่องปกติที่เป็นเจตนาพาสื่อไป ศึกษาดูงาน สถานที่ที่จะไป เช่น บีบีซี สำนักอีโคโนมิก รัฐสภา และมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ซึ่งจะมีการบรรยายสรุปให้สื่อมวลชนในประเด็นเกี่ยวกับการทำงานของรัฐสภาของเขาว่าทำงานอย่างไร รวมถึงการสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะบีบีซี มหาวิทยาลัย และสำนักอีโคโนมิก เขาจะมาบรรยายในเชิงวิชาการให้กับสื่อมวลชน เป็นความปรารถนาดีที่ตนอยากให้สื่อมวลชนของเราได้ไปเปิดหูเปิดตา แต่จะให้พาสื่อไปทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ ต้องเป็นตัวแทน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สื่อมวลชนที่ไปดูเหมือนว่าไม่ใช่สื่อมวลชนประจำรัฐสภา นายสมศักดิ์กล่าวว่า เจตนาที่ระบุไว้ได้ถามเหมือนกัน จริงๆ อยากให้พวกเราซึ่งอยู่ใกล้ชิดไป แต่ได้รับคำตอบว่าเจตนาของเขาคือต้องการให้ผู้บริหาร หรือตัวแทนผู้บริหารในแต่ละสำนักไป
เมื่อซักต่อว่า มองว่าเป็นสื่อฟากใกล้ชิดรัฐบาล นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่มีเจตนาอะไรอย่างนั้น มีเจตนาเท่าที่เล่าให้ฟัง และมีแค่เท่าที่เล่าให้ฟัง และใครไปบ้างผมไม่ทราบ
เมื่อถามว่า มีการพาลูกสาวประธานสภาฯ และนายจักรพันธ์ ยมจินดา ตัวแทน อสมท พาครอบครัวไปด้วย ค่าใช้จ่ายจะจ่ายอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า เท่าที่ทราบนายจักรพันธ์ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวอะไร เพียงแต่ตนให้เขาช่วยประสานเรื่องการดูบอลในวันอาทิตย์ที่ 23 ก.ย. (ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่ระหว่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับลิเวอร์พูล) ซึ่งเป็นวันหยุด ถือโอกาสเปิดหูเปิดตาไปดูฟุตบอล จึงให้นายจักรพันธ์ช่วยประสานให้เท่านั้น ส่วนที่นายจักรพันธ์ไปนั้น ทราบว่าล่วงหน้าไปก่อนแล้วหลายวัน และใช้งบประมาณของ อสมท ไปในงานของ อสมท ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ส่วนกรณีที่ตนพาลูกสาวไปด้วยนั้นเป็นงบส่วนตัวไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย
เมื่อถามว่า ในการเดินทางของคณะวันนี้ มีบุคคลที่เป็นคนใกล้ชิด และนามสกุลยมจินดา เขาใช้เงินของใคร นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตรงนั้นเขาไปในฐานะสื่อ นายจักรพันธ์ไม่เกี่ยว เมื่อถามย้ำว่า มีชื่อคนในครอบครัวของนายจักรพันธ์ไปในนามสื่อมวลชนด้วย และไปกันหลายคน นายสมศักดิ์ถามย้อนว่า “ไปกันหลายคนหรือ” และกล่าวว่า ตนให้นายจักรพันธ์ประสานในการที่จะไปดูฟุตบอล แล้วนายจักรพันธ์ก็ล่วงหน้าไปก่อน โดยที่ไปศึกษาดูงานของ อสมท ซึ่งเป็นเรื่องงานของเขา ไม่เกี่ยวกับของรัฐสภา เพียงแต่ว่าเราไปที่อังกฤษ แล้วนายจักรพันธ์ก็มีโปรแกรมที่จะมาที่อังกฤษด้วย ดังนั้นตรงนี้ถือว่าบังเอิญมาเจอกันที่อังกฤษ
เมื่อถามย้ำว่า ไม่ทราบมาก่อนว่ามีคนนามสกุลยมจินดาร่วมคณะไปด้วย และใช้งบของทางสภาฯ ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เท่าที่ทราบมีอยู่คนเดียว คือ ลูกนายจักรพันธ์ แต่ไม่ทราบว่ามีหลายคน ทราบแค่คนเดียว ทั้งนี้ไปในฐานะสื่อมวลชน
เมื่อถามย้ำว่า กรณีที่นายจักรพันธ์พาครอบครัวไปแบบนี้ เหมาะสมหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เขาไปในฐานะสื่อ และไม่ทราบว่าสื่อที่ไปมีใครบ้าง หากไปในฐานะสื่อก็ใช้เงินของสภาฯ
เมื่อถามว่า เป็นการเอื้อพวกพ้องหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า สื่อทุกคนจะให้อธิบายว่าอย่างไร สื่อที่ไป ไม่ใช่คนนี้คนเดียวที่ไป ตนมองว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ปีหน้าจะจัดอีก เพียงแต่จะทำให้โปร่งใสชัดเจนขึ้น โครงการนี้อาจจะมีบางอย่างที่มีความบกพร่อง แต่ไม่มีเจตนาอื่นๆ แอบแฝง ไม่มีเจตนา
เมื่อถามว่าจะสอบถามนายจักรพันธ์หรือไม่ว่าใช้หลักเกณฑ์อะไรเลือกสื่อ หรือเลือกคนใกล้ชิดเข้ามา นายสมศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยในรายละเอียดตรงนั้น
เมื่อถามว่า รายชื่อสื่อที่ร่วมคณะนั้นใครเป็นผู้กำหนด นายสมศักดิ์กล่าวว่า เท่าที่ทราบหลักการ คือ เอาผู้บริหารในแต่ละสำนัก ถ้าผู้บริหารไม่สะดวกให้ส่งตัวแทนมา หลักการเป็นเช่นนั้น
เมื่อถามย้ำต่อว่า องค์กรสื่อเขารับรู้ แล้วถึงส่งตัวแทนไป หรือมีการเจาะจงตัวบุคคล นายสมศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบในรายละเอียด โดยหลักการคืออย่างที่เล่าให้ฟัง
เมื่อถามต่อว่า เจตนาที่พาไป คือดูงานของรัฐสภา แต่มีสื่อสายกีฬาร่วมคณะไปด้วย จะเชื่อมโยงอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า ก็ให้ไปดูบีบีซี ไม่ได้ไปเฉพาะตรงรัฐสภา ยังไปบีบีซี สำนักอีโคโนมิก มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด เขาจะมาบรรยายเกี่ยวกับการทำงานของรัฐสภา ทั้งนี้ตนขอเรียนตามตนว่า ยังไม่ทราบว่ามีใครไปบ้าง
เมื่อถามว่า มีหนังสือเชิญสื่อมวลชนไปยังทุกสำนักหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ที่จริงไม่อยากทำให้โฉ่งฉ่าง เป็นแค่หลักการและเจตนาดีที่จะทำอย่างนั้นเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า ดุลพินิจในการเลือกหากไม่ได้เป็นอิสระที่มาจากองค์กรสื่อฯ อาจถูกมองเลือกสื่อฯ เพื่อจูงใจให้สื่อที่ไปได้รับประโยชน์ และเกิดความรู้สึกดีกับฝ่ายที่เชิญไป นายสมศักดิ์กล่าวว่า ที่จริงถ้าผมมีเจตนาอย่างที่ว่า ผมฉลาดพอที่จะไม่ทำ
เมื่อถามย้ำว่า เช่นของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ที่ทราบบุคคลที่ไปต้นสังกัดไม่ทราบ ที่อ้างชื่อว่าเป็นคอลัมนิสต์ก็แค่เคยเขียนคอลัมน์เท่านั้น นายสมศักดิ์กล่าวว่า การประสานอาจมีข้อบกพร่องกันบ้าง แต่โดยหลักการไม่มีเจตนาไปในทางนั้นโดยเด็ดขาด และไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไร คนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งไม่ได้ไป มันก็เสีย สรุปแล้วไม่ทำไม่ดีกว่าหรือ
เมื่อถามต่อว่าจะถือว่าใช้งบ 7 ล้านบาท มากไปหรือไม่สำหรับการดูงาน นายสมศักดิ์กล่าวว่า เพื่อความสบายใจ ตนทราบว่าทางจีนมีเอกสารเชิญตนอย่างเป็นทางการ ไปร่วมงานเปิดเอ็กซ์โปร์ ที่ประเทศจีน แล้วมาซ้ำซ้อนกับงานที่ประเทศอังกฤษ ตอนนี้ตนจึงให้เจ้าหน้าที่ดูรายละเอียดตรงนี้ และเห็นว่าที่จีนน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า ตนกำลังตัดสินใจว่าอาจจะงดการเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษ แล้วเลือกไปที่ประเทศจีนแทน
เมื่อถามว่า หากเลือกไปที่ประเทศจีนแล้ว สื่อมวลชนที่ล่วงหน้าไปก่อนแล้วจะทำอย่างไร นายสมศักดิ์กล่าวว่า ให้เขาไปศึกษาดูงานต่อไป เพราะเสียเงินไปแล้ว เสียค่าเครื่องบินไปแล้ว แต่ตนเสียโอกาสที่จะไปศึกษาดูงานตรงนี้ด้วยเท่านั้นเอง
เมื่อถามว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการกิจการสภาฯ จะเชิญไปชี้แจง เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสมศักดิ์กล่าวว่า การไปศึกษาดูงาน เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว จะเอาใครไปบ้าง ก็ไม่ได้ระบุชัดว่าต้องเป็นใคร ถ้าจะมีการตรวจสอบก็เป็นสิทธิ์ ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมจะชี้แจง
เมื่อถามว่า จะมีการสรุปผลการศึกษาดูงานหลังจากที่ไปหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาเขาก็สรุปตลอดอยู่แล้ว แล้วเรื่องนี้สื่อมวลชนก่อนไป ได้มีการอบรมสัมมนาถึง 2 รอบ ที่มหาวิทยาลัยรังสิต และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนี้ตนเห็นว่าเป็นประโยชน์ แล้วปีหน้าหากมีเงินพอ ตนจะทำอีกครั้งหนึ่ง และผมจะไปด้วย ทั้งนี้จะทำทุกอย่างให้โปร่งใส คราวนี้อาจจะมีข้อบกพร่องบ้าง แต่ถ้าคราวหน้าอาจต้องคัดเลือกเป็นเรื่องเป็นราว