xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.จวกรัฐไร้ประสิทธิภาพป้องกันน้ำท่วม สงสัยใช้งบฯ ไม่โปร่งใส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศประชุมวุฒิสภา (แฟ้มภาพ)
ส.ว.ห่วงสถานการณ์น้ำท่วม หลังพบรัฐบาลทำงานไร้ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการขุดลอกคูคลอง สงสัยใช้งบฯ โปร่งใสหรือไม่ แนะดูสุโขทัยเป็นตัวอย่าง การสร้างพนังกั้นน้ำไม่แข็งแรง เรียกร้องดึงภาคเอกชนร่วมหาแนวทางป้องกัน ขณะเดียวกันจวกกระทรวงวัฒนธรรมไม่คุมหนัง “จัน ดารา” หวั่นกระทบเยาวชน

ที่รัฐสภา วันนี้ (17 ก.ย.) มีการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 10 สมัยสามัญทั่วไป ที่มีนายนิคม ไวยารัชพานิช ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระให้สมาชิกได้ปรึกษาหารือ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ ศรีอรุณ ส.ว.สรรหา ขอหารือเกี่ยวกับการแก้ปัญหาอุทกภัย ซึ่งดูแล้วเหมือนไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน ตนได้ดูข่าวเกี่ยวกับน้ำท่วมที่จังหวัดสุโขทัย ได้เห็นเขื่อนที่รัฐบาลทำไว้สำหรับป้องกันน้ำ มีความบอบบางกว่าปกติ ตนจึงไปดูรายละเอียดแผนงานของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ทั้งหมด 8 แผนงานที่ กบอ.ได้จัดทำ แต่ที่คิดว่าสำคัญ คือ แผนงานที่ 5 คือการปรับปรุงสภาพของลำน้ำสายหลัก อยากทราบว่างบประมาณที่จัดสรรไปได้ดำเนินงานปรับปรุงตามที่ได้ใช้จ่ายไปหรือไม่ ส่วนอีกแผนงานคือการบริหารจัดการทางน้ำหลาก หรือฟลัดเวย์ ตนคิดว่าควรจะเปลี่ยนแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ใหม่ เพราะในช่วงเวลานี้ฝนไม่ได้ตกเหมือนปีที่แล้ว แต่จังหวัดสุโขทัยน้ำก็ท่วม

พล.ร.อ.สุรศักดิ์กล่าวว่า ตนเป็นห่วงว่า กบอ.จะทำหน้าที่เป็นฝ่ายบริหาร และฝ่ายปฏิบัติจะมีบุคคลากรไม่พอ และแผนงานที่ 7 การพัฒนาคลังข้อมูลและเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอที่จะวิเคราะห์และนำมาใช้ประโยชน์ ตนมีข้อเสนอแนะ ดังนี้ ขอให้รัฐบาลเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ปฏิบัติมากขึ้น เพื่อให้งานเป็นไปอย่าง อยากให้รัฐบาลขอความร่วมมือจากทางมหาวิทยาลัย และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ ส่วนข้อสุดท้ายให้นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการควบคุมการจราจรทางบก วิเคราะห์ว่าทำไมเวลาฝนตกรถถึงได้ติด ขอให้แก้ไขปัญหาดังกล่าว

นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนขอฝากไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่ดูแลจัดการเกี่ยวกับเรื่องน้ำ ที่ในขณะนี้จังหวัดสุโขทัยประสบปัญหาอุทกภัย ถือเป็นกรณีศึกษาให้จังหวัดอื่น ในเรื่องพนังกั้นจะเห็นว่าตลอดระยะทางของแม่น้ำสายต่างๆ เราจะเห็นพนังกั้นน้ำที่สร้างไว้สูงและมีการต่อเติมเพิ่มจากปีที่แล้ว ประเด็นคือความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำในทุกจังหวัดได้มีการสำรวจหรือไม่ว่ามีความแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน ส่วนจังหวัดที่ต่อเติมพนังกั้นน้ำได้มีการคำนวนทางวิศวกรรมอย่างไรว่าฐานเดิมสามารถรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญเพราะถ้าน้ำที่มีแรงอัดสูงมาอัดพนังกั้นน้ำก็อาจทำให้พนังกั้นน้ำแตกได้ เพราะไม่ได้มีการคำนึงถึงความแข็งแรง อยากให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และตนขอเสนอแนะว่าจังหวัดปลายน้ำที่ยังไม่มีการตั้งวอร์มรูม ตนขอให้มีการตั้งวอร์มรูมเพื่อหาทางป้องกันน้ำเหนือที่จะลงมาและปริมาณน้ำฝนที่ตกเพิ่มเข้ามา ฝากรัฐบาลและจังหวัดต่างๆ เตรียมความพร้อมโดยดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมมือด้วย

นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาได้รับทราบข่าวน้ำท่วม ในฐานะที่ตนเป็นคนจังหวัดอุทัยธานี เชื่อว่าปริมาณน้ำที่ท่วมในจังหวัดสุโขทัยเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ปกติน้ำหลากก็จะแบบนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ตนได้เห็นคือพนังกั้นน้ำ ที่รัฐบาลได้จัดทำอย่างเร่งด่วนโดยขาดการบูรณาการ พอบอกว่าจะกันน้ำก็ทำกำแพงสูงขึ้นมา 2-3 เมตร สิ่งก่อสร้างเหล่านี้จะส่งผลกระทบในวันข้างหน้า ถ้าหากพนังกั้นน้ำเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นในจังหวัดที่เป็นเมืองเก่า จะก่อให้เกิดทัศนะอุจาด ส่งผลให้เห็นได้ขัดว่าขาดการดูแลจากหน่วยงานส่วนกลางของรัฐ ตนอยากชี้ให้เห็นว่าหากจะดำเนินการอย่างไร อยากให้คิดรัฐบาลให้รอบด้าน โดยเฉพาะพนังกั้นน้ำที่อยู่ในจังหวัด อยุธยา สิงห์บุรี ชัยนาท และอุทัยธานี อยากฝากให้รัฐบาลเข้าไปดูแลใส่ใจ ส่วนเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นที่จังหวัดสุโขทัยก็อย่าไปตื่นเต้นตกใจนัก เพราะประเทศของของเราเป็นประเทศลุ่มน้ำ ต้องคิดใหม่ว่าควรจะทำอย่างไรในการแก้ปัญหาเรื่องน้ำหลาก

นายวิเชียร คันฉ่อง ส.ว.ตรัง กล่าวว่า ปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ว่ารัฐบาลต้องทำความเข้าใจกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือเรื่องเงินเยียวยา 5,000 บาทต่อครอบครัว ในส่วนนี้ไม่ได้มีปัญหาแต่กรณีกมารช่วยเหลือบ้านที่ประสบอุทกภัยบางแห่งใช้เกณฑ์กรณีตัดสินให้เงินเยียวยาเรื่องบ้านไม่เท่าเทียมกัน รัฐบาลต้องมาทบทวนแล้วว่าจะนำมาตรการใดมาใช้ จะใช้ระเบียบของกระทรวงการคลัง หรือจะใช้มติ ครม.เพราะขณะนี้ประเทศก็ประสบปัญหาอุทกภัยขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเมื่อปี 2553 ที่ผ่านมาในหลายพื้นที่ก็ยังได้รับเงินเยียวยาไม่ทั่วถึง

ด้าน น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี กล่าวว่า กรณีภาพยนตร์เรื่อง “จัน ดารา” ตนได้รับการร้องเรียนจากเครือข่ายเฝ้าระวังสื่อภาคประชาชนถึงภาพยนต์ดังกล่าวว่ากำลังเป็นที่ฮือฮาในสังคมว่าแนวทางการทำงานของกระทรวงวัฒนธรรมเป็นอย่างไร เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมากรณีที่มีภาพยนตร์คล้ายๆ อย่างนี้ กระทรวงจะมีมาตรการเฝ้าระวัง เช่น กำหนดอายุของเยาวชนที่เข้าไปชม หรือตรวจบัตรประจำตัวประชาชนผู้เข้าชมได้ แต่เรื่องนี้กระทรวงวัฒนธรรมกลับไม่ได้มีบทบาทใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้เกิดคำถามว่ากระทรวงวัฒนธรรมเกรงกลัวผู้สร้างภาพยนต์เรื่องนี้หรือเช่นไร ซึ่งเป็นสิ่งที่คลางแคลงใจประชาชน

กระทรวงวัฒนธรรมทำไมจึงปล่อยปละละเลยให้ชมเรื่องนี้ได้อย่างเสรี หากจะอ้างว่าเป็นเรื่องให้ความรู้ของเพศศึกษาก็ต้องมีบทบาทแสดงให้ประชาชนได้รับรู้ ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองต้องเฝ่าระวังบุตรหลานตัวเอง จึงเรียนไปถึงนายกรัฐมนตรี ท่าน รมว.วัฒนธรรม ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้งคู่เป็นเพศแม่และมีลูกท่านจะปล่อยให้ลูกของท่านไปดูเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ

นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา ขอหารือไปยังรัฐบาลเรื่องการสนับสนุนกีฬาคนพิการของประเทศไทย ตนขอแสดงความยินดีกับนักกีพาราโอลิมปิกที่ได้นำชื่อเสียงมาให้ประเทศ แต่ถ้าลงรายละเอียดดูในพิการจะไม่ค่อยได้รับการสนันสนุน ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการจัดงาน งบประมาณอยู่ในส่วนที่น้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการเก็บตัวเป็นช่วงที่ยากลำบาก

“ผมขอเสนอรัฐบาลปรับปรุงหรือก่อสร้างสนามกีฬาที่ออกแบบตามหลักสากลมาใช้ รวมทั้งการสนันสนุนกีฬาคนพิการอย่างต่อเนื่อง และอย่าใช้เงินให้หมดไปกับการเลี้ยงต้อนรับ มอบรางวัลระยะสั้น” นายมณเทียรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น